เครือ CP จ่อร่วมดีลซื้อกิจการ 7-Eleven ญี่ปุ่น - หุ้น CPALL ร่วงหนัก

ตระกูลอิโตะ (Ito) ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัท 7-Eleven ญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ Seven & i Holdings ได้เดินหน้าติดต่อกลุ่มธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ของไทยเพื่อให้ร่วมลงทุนซื้อกิจการคืน ป้องกันการเข้าซื้อกิจการจาก Alimentation Couche-Tard (ACT) บริษัทค้าปลีกจากแคนาดา ที่เสนอซื้อกิจการในมูลค่าสูงถึง 47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
📌ตระกูลอิโตะเดินหน้า MBO ดึง CP ไทยร่วมทุน
รายงานจาก รอยเตอร์ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 อ้างอิงแหล่งข่าวจาก NHK ของญี่ปุ่นระบุว่า ตระกูลอิโตะ และบริษัท Itochu Corp ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ FamilyMart และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Seven & i Holdings ได้ยื่นข้อเสนอให้เครือ CP ของไทยร่วมลงทุนในรูปแบบ Management Buyout (MBO) ซึ่งเป็นการที่ผู้บริหารหรือเจ้าของเดิมขอซื้อหุ้นคืน เพื่อถอดบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์และกลายเป็นบริษัทเอกชน

แหล่งข่าวระบุว่า ข้อเสนอมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านเยน (ราว 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการซื้อหุ้น ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินกู้จากธนาคารขนาดใหญ่

📌เครือ CP ถือหุ้นใหญ่ใน 7-Eleven ไทย อาจลงทุนหลายแสนล้านเยน
ปัจจุบัน Seven & i Holdings เป็นเจ้าของ Seven-Eleven Japan ซึ่งถือหุ้น 100% ของ 7-Eleven Inc. บริษัทแม่ของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่มีสาขารวมกว่า 85,000 แห่งทั่วโลก ขณะที่ CPALL บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ 7-Eleven ในไทย ซึ่งมีมากกว่า 12,000 สาขา ทั่วประเทศ
ดีลครั้งนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนมหาศาล โดย NHK รายงานว่า CP อาจต้องใช้เงินลงทุนหลายแสนล้านเยน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็น การซื้อกิจการคืนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

📌แรงกระเพื่อมตลาดหุ้น – หุ้น CPALL ร่วงหนัก
การเจรจาซื้อกิจการครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อหุ้นในเครือ CP อย่างชัดเจน โดยตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 10.40 น. พบว่า
* CPALL ร่วง 4.42% ลดลง 2.50 บาท มาอยู่ที่ 54 บาท
* CPAXT ลดลง 3.57% อยู่ที่ 27 บาท
* TRUE ปรับตัวลดลง 1.68% อยู่ที่ 11.70 บาท

บล.ลิเบอเรเตอร์ วิเคราะห์ว่า การที่ CP อาจเข้าร่วมดีลซื้อ 7-Eleven ญี่ปุ่น ทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องต้นทุนและความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า กำไรของ 7-Eleven ในญี่ปุ่นค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 2-3% และมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (PE) 80 เท่า หรือ Forward PE 50 เท่า ซึ่งถือว่าสูง

📌 อนาคตของ CPALL และธุรกิจค้าปลีกในเอเชีย
แม้ว่าการเข้าซื้อกิจการ 7-Eleven ญี่ปุ่นจะช่วยป้องกันการเทคโอเวอร์จาก Couche-Tard ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า อาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากกำไรของ 7-Eleven ญี่ปุ่นยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ต้นทุนการกู้เงินสูงขึ้น อีกทั้ง CPALL ปัจจุบันมี อัตราหนี้สินต่อทุน (Net D/E) 0.8 เท่า ซึ่งค่อนข้างสูง
นักวิเคราะห์เตือนว่า หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง อาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของ CPALL และความสามารถในการขยายสาขาในไทย ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดสาขาใหม่ราว 600-700 สาขาต่อปี

บทสรุป
* ตระกูลอิโตะ เดินหน้าขอ CP ไทยร่วมลงทุนซื้อกิจการ 7-Eleven ญี่ปุ่นคืน
* ดีล MBO มูลค่าอาจแตะ 58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นหนึ่งในดีลใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
* CP อาจต้องลงทุนหลายแสนล้านเยน ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย
* หุ้น CPALL-CPAXT ร่วงหนัก นักลงทุนกังวลต้นทุนและความเสี่ยงของดีล
เครือ CP จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป และดีลนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมค้าปลีกอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไปในปี 2568

ที่มา  https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1164605
ที่มา https://mgronline.com/around/detail/9680000009877
ที่มารูปภาพ  https://www.japankakkoii.com/lifestyle/7-11-japan-vs-thailand/
ที่มารูปภาพ https://spacebar.th/world/why-retail-giant-7-eleven-is-on-rival-shopping-list

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่