คืนนี้พาน้องหมาไปเดทกันเถอะ! พร้อมจัดมือพิเศษให้ตัวเองกับเจ้าตูบด้วยเลย..

Doggy Date Night หรือวันพิเศษกับน้องหมา 3 กุมภาพันธ์

เป็นวันพิเศษที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของกับสุนัข
โดยมุ่งเน้นให้เจ้าของใช้เวลาคุณภาพร่วมกับสัตว์เลี้ยงสุดรัก
เพื่อเสริมสร้างความผูกพันและความสุขร่วมกัน

.
จริงๆ แนวคิดนี้คล้ายกับวัน Date Night สำหรับคู่รัก แต่ปรับมาเพื่อให้เจ้าของกับสุนัขได้ใช้เวลาพิเศษร่วมกัน อาจจะพาสุนัขไปเที่ยวสถานที่พิเศษด้วยกัน พาไปทำกิจกรรมสนุกๆ หรือหาของกินพิเศษนั่งกินอยู่บ้านด้วยกัน

...
สุนัขมีวิวัฒนาการร่วมกับมนุษย์อย่างไม่เหมือนใคร สัญญาณเริ่มต้นของการนำสุนัขมาเลี้ยงนั้น ย้อนกลับไปได้ราว 15,000 ปีก่อนตามบันทึกทางโบราณคดี


: ข้อมูลที่น่าสนใจในการวิวัฒนาการร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสุนัขนั้น คือทฤษฎีที่ว่า มนุษย์จับลูกหมาป่ามาเลี้ยง และทำให้เชื่องจนกลายเป็นสุนัขบ้าน

.
Raymond Coppinger นักชีววิทยาเสนอแนวคิดอีกอย่างหนึ่ง หมาป่านั้นอาจจะเชื่องด้วยตัวเอง เขาสงสัยว่ากระบวนการนี้น่าจะเริ่มขึ้นเมื่อสิ้นสุดยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 15,000 ปีก่อน เมื่อผู้คนเริ่มรวมตัวกันและอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งเป็นครั้งแรก การปรากฏของหมู่บ้านเหล่านี้ค่อนข้างรวดเร็วและบังเอิญตรงกับหลักฐานฟอสซิลของสุนัขตามที่เรารู้จัก

ผู้คนถูกจัดกลุ่มให้ตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นหมู่บ้านที่พวกเขาสามารถอาศัยอยู่ได้เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะนั่งอยู่บนขอบของแหล่งจับหอยหรือบนขอบของแนวปะการัง เมื่อมนุษย์อาศัยอยู่ในจุดเดียวกันเป็นเวลานาน พวกเขาจะสร้างขยะ รวมทั้งน้ำเสีย และที่สำคัญกว่านั้นสำหรับสุนัขก็คือเศษอาหาร ซึ่งอาจพบได้ในกองขยะหรือเพียงแค่กระจัดกระจายอยู่ใกล้บ้าน ที่จะดึงดูดสัตว์กินซาก เช่น แมลงสาบ นกพิราบ หนู หมาจิ้งจอก และหมาป่า

Raymond Coppinger เชื่อว่าลักษณะทางพฤติกรรมที่เรียกว่า "flight distance" ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงจากหมาป่า มาเป็นบรรพบุรุษของสุนัขในปัจจุบัน ลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสัตว์จะเข้าใกล้มนุษย์ มากเพียงใดก่อนที่มันจะวิ่งหนี สัตว์ที่มีระยะการบินสั้นกว่าจะคอยอยู่และกินอาหารเมื่อมนุษย์อยู่ใกล้ๆ ลักษณะพฤติกรรมดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดสู่รุ่นต่อๆ ไป และขยายตัวเพิ่มขึ้น ทำให้สัตว์รู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่ออยู่ใกล้มนุษย์

...
อย่างไรก็ตาม การอยู่ร่วมกันทำให้ทั้งสองสายพันธุ์ปรับตัวเข้าหากัน มนุษย์คัดเลือกสุนัขที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ความสามารถในการล่าสัตว์ หรือช่วยเฝ้ายาม และสายพันธุ์ที่มีความเป็นมิตรมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ สุนัขเองก็พัฒนากล้ามเนื้อใบหน้าที่ช่วยให้พวกมันสามารถแสดงความรู้สึกได้ เช่น แสดงออกทางดวงตา ที่ทำให้มนุษย์เกิดความรู้สึกอยากดูแล

หลักฐานทางโบราณคดีที่มีการค้นพบ ซากสุนัขที่ถูกฝังอย่างพิถีพิถันในหลายพื้นที่ทั่วโลก บางตัวมีอายุเก่าแก่ถึง 12,000-14,000 ปี สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสุนัขไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ใช้งาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมนุษย์ บางตัวถูกฝังพร้อมเครื่องมือหรือกระดูกสัตว์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุณค่าที่มนุษย์มีต่อพวกมัน

และการที่สุนัขเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวได้อย่างราบเรียบ อาจมาจากความสามารถพิเศษในการอ่านอารมณ์ และสัญญาณของมนุษย์ พวกมันสามารถเข้าใจท่าทาง การชี้นิ้ว และการสบตาได้ดี นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่าสุนัขสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของเจ้าของ และตอบสนองต่อเสียงร้องไห้หรือความเครียดของมนุษย์ได้

มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสุนัขมีความรักต่อมนุษย์จริงๆ งานวิจัยชี้ว่าเมื่อสุนัขมองเจ้าของ พวกมันจะหลั่งสารออกซิโทซิน (Oxytocin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเดียวกับที่มนุษย์หลั่งเมื่อรู้สึกผูกพันกับคนที่รัก และสมองของสุนัขยังมีการตอบสนองอย่างแข็งแกร่งต่อกลิ่นของเจ้าของ แสดงให้เห็นว่าพวกมันให้ความสำคัญกับเราเป็นพิเศษ

.
การวิวัฒนาการร่วมกันของอาหาร..

สุนัขวิวัฒนาการมาพร้อมกับอาหารของมนุษย์ หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า สุนัขยุคแรกๆ อาจถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ที่แบ่งอาหารให้พวกมัน สิ่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้หมาป่ากลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง

"จากหมาป่าที่ล่าเหยื่อเอง → กลายเป็นสุนัขที่กินอาหารจากมนุษย์"

ในอดีต ทั้งมนุษย์และสุนัขต่างกินอาหารที่มาจากธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก และธัญพืชที่หาได้ และเมื่อมนุษย์พัฒนา อาหารปรุงสำเร็จ อาหารของสุนัขก็เริ่มเปลี่ยนไปตามวิถีชีวิตของมนุษย์ และเมื่อมนุษย์ให้ความสำคัญกับ อาหารเพื่อสุขภาพ มากขึ้น แนวคิดนี้ก็กระทบต่ออาหารสุนัขเช่นกัน เช่น อาหารออร์แกนิก อาหารไร้สารเติมแต่ง

แต่ก็มีข้อจำกัดที่สุนัห้ามกินด้วย อย่างเช่นช็อกโกแลต องุ่นหรือลูกเกด หัวหอมและกระเทียม เป็นต้นฯ

: สาเหตุที่สุนัขไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้แบบมนุษย์ นั่นเพราะมีส่วนผสมของสารจำพวกคาเฟอีน (caffeine) ธีโอโบรมีน (Theobromine) อยู่และหากกินเข้าไปในปริมาณน้อย อาจจะทำให้สุนัขอาเจียนและท้องร่วงได้ หรือหากกินเข้าไปในปริมาณมาก สุนัขบางตัวอาจจะกล้ามเนื้อสั่น หรืออาจทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นสองเท่า และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

: องุ่นหรือลูกเกด เมื่อสุนัขกินอาจจะทำให้อาเจียน เบื่ออาหาร เซื่องซึม อ่อนเพลีย ปวดท้อง ซึ่งถ้ากินเข้าไปจำนวนมากจะทำให้ไตวาย และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

: อาหารที่ปรุงโดยใช้หัวหอมและกระเทียม ส่วนผสมหลักเหล่านี้ ถ้าสุนัขกินเข้าไป อาจทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคโลหิตจางได้

...
ส่วนอาหารที่เราๆ กินกันนั้น ก็สามารถให้สุนัขกินได้ เพียงแต่ในบางเมนูนั้นอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้วัตถุดิบที่ให้สุนัขกินไม่ได้
.
แต่ไหนๆ วันนี้ก็วัน Doggy Date Night มาจัดหนักเมนูอาหารให้กับตัวเอง และเจ้าตูบของเราก็ได้นิ..

.
1. โอเด้ง (Oden) ญี่ปุ่น
ไข่ต้ม เต้าหู้ หัวไชเท้า และเนื้อสัตว์ต้มในน้ำซุปดาชิ
เวอร์ชันสำหรับสุนัขสามารถต้มเฉพาะหัวไชเท้าและไก่ในน้ำซุปจืด

.
2. ซาลมอนเวลลิงตัน (Salmon Wellington) สหราชอาณาจักร 
ปลาแซลมอนห่อด้วยแป้งพัฟและอบจนกรอบ
เวอร์ชันสำหรับกับสุนัข ใช้แป้งโฮลวีต และไม่ใส่เนยหรือเครื่องเทศ

.
3. อาเรปัส (Arepas) โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา
แป้งข้าวโพดปิ้งที่สามารถยัดไส้ไก่หรืออะโวคาโด
เวอร์ชันที่ปลอดภัยสำหรับสุนัขไม่ใส่ชีสหรือซอส

.
4. ไบโทก (Bitoque) โปรตุเกส
สเต็กเนื้อราดไข่ดาว กินคู่กับข้าวและมันฝรั่งทอด
เวอร์ชันสำหรับสุนัขสามารถใช้เนื้อไม่ปรุงรส และไข่ต้ม

.
5. บานห์หมี่เวียดนาม (Bánh Mì) เวียดนาม 
แซนด์วิชเวียดนามกับขนมปังฝรั่งเศส ยัดไส้หมูย่าง และผักดอง
เวอร์ชันสำหรับสุนัขใช้ไก่ย่าง และแครอท

.
6. เพลอฟ (Plov) อุซเบกิสถาน 
ข้าวอบที่ทำจากเนื้อแกะ แครอท และเครื่องเทศ
เวอร์ชันสำหรับสุนัขใช้ข้าวกับเนื้อไก่ ผัก ไม่ใช้เครื่องเทศ

.
7. ริซอตโต้เห็ด (Mushroom Risotto) อิตาลี
ข้าวริซอตโต้ที่ปรุงกับเห็ด สามารถทำเวอร์ชันสำหรับสุนัขโดยลดเกลือ และไม่ใส่ชีส





: เพื่อนๆ ถูกใจเมนูไหนกันบ้าง มีเวลาว่างลงมือเข้าครัวเป็นเชฟจำเป็นก็ดีน๊า ทำบ่อยๆ อาจเปิดร้านออนไลน์ ตั้งเมนูที่ชอบขายซะเลย..

.
ขอขอบคุณข้อมูล
: wikidates .org
: nationaldayfood
: tasteatlas
: historycooperative .org
: pbs .org
: wikipedia
: worldatlas
: dogster
: yourdogadvisor
: petsradar
.
LookAt
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่