ขออนุญาตระบายทุกอย่างนะคะ

( เจ้าของบัญชีอายุ 12 นะแต่จะ ม. 2 แล้ว🥹) 

เรื่อง สังคม -

  เราเป็นคนฐานะปกตินะคะ เรียนโรงเรียนเอกชนกึ่งอินเตอร์ตั้งแต่ อเตรียม - ถึงตอน ป . 6 จริง ๆ สภาพคนในโรงเรียนก็อือย่ำแย่หรือดีดีล่ะ เพื่อนในห้องก็เอาแค่ล้อชื่อเรา เพราะชื่อเราไม่เคยมีใครเหมือน ชื่อของเราคือ เน็ตตร้า เองค่ะ มักจะโดนล้อสม่ำเสมอว่า นต เน็ตต้า น้ำแตก ผิวดำ มีหนวด อินโทรเวิด ( ตอนนี้เค้าไม่มีแล้วนะคะ เค้าโกนแวก แล้วก็บำรุงผิวจนดีขึ้นแล้วค่ะ🥹 ) เค้าโดนล้อจนแบบอืมโอเค เรามันคนผิวไม่ขาว รูขุมขนเยอะ อือ เสียงก็แตกแต่เหมือนผู้ชายแล้วก็เรื่องร่างกายต่างๆ แต่ก็ชินแล้วค่ะ ไม่เป็นไรพอถัดมาปีนี้อ่ะ โครตจะแย่เลยโดนล้อเลียนหนักบ้านแล้วคนส่วนใหญ่คิดว่าเรามาอยู่ที่โรงเรียนระยองที่อยู่ในป่าแบบนี้เพราะถังแตกแน่เลย ทำไรก็ไม่เคยเป็นเลยโดนนินทาเป็นว่าเล่นเลยค่ะ 555 ส่วนตัวเป็นคนเกลียดแต่ก็กลัวสังคมในเวลาเดียวกัน+ยิ่งไม่ค่อยมั่นใจ พอเจอแบบนี้กลับบ้านไปเลยนั่งร้องไห้เพราะเรากลัวเราเกลียดมาก ๆ แต่พี่สาวไม่แท้เราก็บอกว่า " เราเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยยิ้มมันเลยไม่พาคิดในแง่บวกแล้วพาคิดว่าเราอ่ะเวลาหน้านิ่งเหมือนคนจะหาเรื่องหรือโมโห เลยอยากให้เราฝึกยิ้มเรื่อย ๆ " หลังจากนั้นเราก็ลองค่ะ ก็ดีขึ้นมั้งนะ แต่จริง ๆ ก็ไม่เหมือนเดิม แต่การที่เรายิ้มอ่ะค่ะ ทำให้เรามีเพื่อนที่ต้องการจริง ๆ ไม่ใช่พวกสก๊อย พวกฟรอมช่าง แล้วพวกเขายังเคยเจอปัญหาโรงเรียนเหมือนเราด้วยค่ะ พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแล้ว แต่มันมักจะมีคำถามนึง " ย้ายจากกรุงเทพมาระยองทำไมหรอ " เอาจริง ๆ นะคะ ที่เราย้ายมาไม่ใช่เรื่องการเงิน มันเป็นเรื่องครอบครัวค่ะ เรื่องถัดไปที่อยากระบายเลย 555

เรื่อง ครอบครัว -

  ตั้งแต่ป . 1-2 เราโดนว่าโดนตีเรื่อยมาเลยค่ะ เป็นนักกีฬาระดับโรงเรียนที่ไม่ได้อยากก็พยายามแล้วพยายามมากเราไม่ได้อยากเป็นเลยค่ะแต่เป็นเพราะแม่เราที่อยากให้เป็นเราเลยจอมใจเป็นค่ะ ที่โดนจับเป็นนักกีฬาเพราะความเร็วค่ะ แต่ผลที่ออกมาก็เพียงแค่ที่ 2 คือขอพูดก่อนเลยนะคะ เรามีเรียนว่ายน้ำเสริมอยู่แล้ว 2 วัน แล้วก็บาสอีก 2 วัน แต่พอเราได้แค่ที่ 2 ตามที่บอกแม่ก็เลยจัดหนักกว่าเดิมเป็นเรียนว่ายน้ำ 3 วัน จาก 2 วัน ทั้งที่เราขอไปแล้วไม่เอาแต่เดี๋ยวจะฝึกให้มากกว่านี้ แม่ก็ไม่สนค่ะ คือตอนนั้นอ่ะเราไม่มีเรี่ยวแรงเลยเหนื่อยไปหมดทุกอย่างเลย ตอน ป . 2 นั้นเลยคิดเกือบจะฆ่าตัวตายกระโดดตรงหน้าต่าง เพราะเครียดมาก ๆ ( จริง ๆ มีมากกว่านี้อีกนะคะแต่กลัวพิมพ์มากเกินไป ) แต่ก็จำได้ยังมีตามียายที่คอยอยู่ข้าง ๆ ก็เลยไม่เอาดีกว่า แล้วก็ผ่านไปเรื่อย ๆ การใช้กำลังยิ่งมากขึ้นยิ่งด่าเรามากขึ้น ทั้งโดนตบโดนกระชากฟาดกำแพงโดนไม้กวาดฟาดหัวฟาดแขนจนช้ำใน คือเค้าก็ว่าอะไรไม่ได้อยู่แล้วเพราะเขาเป็นแม่บุญธรรม และเขาคงไม่ได้สนใจอะไรหรอก มีครั้งนึงโดนจับเรียนพิเศษจีนเรียนครั้งแรกไม่ค่อยรู้เรื่องเราพยายามที่จะเข้าใจ แต่มันก็งงอ่ะ เราเป็นเด็กภาษา ก็ใช่แต่คือเราได้แต่อังกฤษไง มันเลยงง ๆ จากนั้นพอเราบอกแม่ไปตรง ๆ ตอนที่แม่ถาม " วันนี้เรียนรู้ไรมั่ง " เราก็บอกไปว่า " ไม่ค่อยเข้าใจค่ะคอร์ดเแรก ก็พยายามปรับตัวอยู่ " แม่ก็เลยด่าเราว่า " นี่ไร้ประโยชน์ไม่มีอะไรดีเหมือนแม่เลยยิ้ม " คำนี้โครตแทงเราเลยอ่ะ เรานั่งร้องไห้เพราะเราแบบก็พยายามแล้ว ตอนนั้นคิดแค่ว่าอืมหนูมันคนโง่เองมันโง่ทำไมต้องพูดขนาดนี้อีกแล้วหนูยอมเรียนหนักกว่านี้ก็ได้หนูขอโทษหนูมันลูกไม่แท้หนูมันลูกไม่แท้ เรื่องเรียนก็ได้เพียงที่ 2 ของห้อง เรื่องกิจกรรมภาษาที่ถนัดก็แพ้ม. 3 อย่างเดียวเลยได้ที่ 2 มา 2 เกียรติบัตรแต่ขนะมาได้ที่ 1 อยู่ 2 เกียรติบัตรเหมือนกันแต่ก็นะไร้ค่าเองไร้ประโยชน์เป็นนักกีฬาระดับโรงเรียนยังไปไม่ได้ วาดรูปก็แพ้ม . 3 ตลอด เออ ไม่เคยใจเย็นกับหนูอ่ะ จะพูดไปมากขนาดไหนก็โดนตบหน้าแน่ๆ จากนั้นผ่านมาเรื่อย ๆ มีวันนึงตอนเด็กประมาณ ป . 3 - 4 ตอนนั้น เราเถียงอะไรกับแม่นี่แหละเพราะแม่กำลังดูถูกเราแต่เราตอบกลับไปว่า " ไม่ใช่ มี้มันเป็นแบบนั้นไม่ใชแบบนั้น " แล้วตอนนั้นแม่มาตบเราเราเลยเอามือกันไว้เพราะกลัวแม่ก็เลยขึ้นเสียงมาเลยว่า " จะสู้กูหรอ " แล้วแม่ก็กระชากหัวเราฟาดกับโต๊ะแล้วก็ตบเราไม่ยั้ง แต่ก็ดีนะเราหัวโขกกำแพงหน่อยเลยหัวไม่แตกง่าย55555 แล้วตอนนั้นมันต่อหน้ายายที่กำลังเย็บผ้า แล้วแม่บ้านก็รีดผ้าทำความสะอาดให้อยู่ ไม่มีใครห้ามแม่ทันแล้วก็ไม่อยู่ด้วยตอนนั้นเรานั่งร้องไห้อยากปรึกษาเพื่อนเพื่อนก็บอกไม่เกี่ยวนะกูไม่เกี่ยว อืมก็ได้ ตอนนั้นแบบเหนื่อยมาก แล้วปีนี้รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้น เหมือนภาพซ้ำเลยแหละตอนเดือนตุลาอ่ะ ที่เราปิดเทอมอยู่ ตอนนั้นเราหาเป็ดไม่เจอแม่โมโหเลยหยิบไม้กวาดมาฟาดแขนขาเรานั่นแหละจนเราล้มขอร้องว่า " ไม่เอาแล้วหนูขอโทษค่ะ " เราจะเป็นลมเพราะเราโดนตีจนช้ำในมาก มันช้ำเป็นอาทิตย์เลย ตั้งแต่นั้นเรากลัวเรากลัวทุกอย่างกลัวไปหมดเลยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะคะ แต่เวลาคนทำท่าทางเหมือนจะยกมือขึ้นตอนอยู่หน้าเราหรือข้าง ๆ เราก็กลัวขึ้นมาเลยค่ะ แพนิคไปแปปนึง แต่ไม่เป็นไรค่ะตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แล้วก็มีต่ออีกนะคะ แต่ขอไปเรื่องสุขภาพจิตของเราก่อนเลยนะคะ

เรื่อง สุขภาพจิตใจตัวเอง -

  ตอนอเตรียม - ป . 4 เราเป็นพูดมากค่ะ มีเรื่องพูดไม่หยุด อยู่นิ่งไม่ได้ แต่พอปัญหาครอบครัว + ปัญหาสังคม มันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ มันก็กลายเป็นคนที่เป็นตัวเองเพราะมักจะโดนหาว่าเป็นอะไรอ่ะไม่ก็พูดมาก ไรงี้ จนเราไม่รู้ว่าเราต้องเป็นคนยังไงพูดน้อยพูดมากเลยมันรู้สึกมึนไปหมด แอบ ๆ รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนนิสัยไม่แน่นอน เดี๋ยวใจร้อน ใจเย็น ใจดี เย็นชา ไม่เข้าเหมือนกัน ตอนนี้อยากจะพยายามหาตัวเอง พยายามหาเต็มที่พยายามแล้วก็หามันเจออยากจะรู้ว่าสรุปเรายังเป็นเด็กที่ร่าเริงติดเล่นคนนั้นอีกรึป่าวหรือเป็นอีกคนที่เย็นชานิ่ง ๆ โมโหง่าย สรุปเราเป็นใครกันแน่นะ เราเป็นคนยังไงอีก แค่อยากจะรู้ ความฝันยังใช่ นักจิตวิทยาอยู่รึป่าว หรือทนาย หรือยังไงหรืออยากเป็นตามที่แม่บังคับให้เป็นอย่างหมอปกติ หรือนักโปรแกรมเมอร์ มันหายไปหมดเลย ใจว่างเปล่ามาก ความรู้สึกเราตอนนั้นมีแค่คำว่ารัก แฟนเราก็ได้บอกกับเราว่า " ต้าอ่ะมี แต่ต้าแค่หามันไม่เจอ ทุกคนมีหมดแค่จะหาเจอมั้ย คือเราเข้าใจนะ แต่เราพยายามแล้ว พยายามที่สุดแต่มันไม่มีวิธีเลย ...

เรื่อง ??? -

  เมื่อวันพุธที่ 11 เดือนธันวาคมนี่ แหละ เขามาหาเรา รู้ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วแต่ มันยัง คงจำวันนั้นในเดือนพฤศจิกายนอย่างดีเลย ตอน ที่เขามารับกลับบ้านอ่ะ ดีนะมีเพื่อนอยู่ด้วยเพราะ เพื่อนสนิทเราขอแทนด้วย B เขามักเดินกลับบ้าน มาพร้อมผมและชวนเราคุยสม่ำเสมอแต่วันนี้แม่มา เลยเขาเลยขึ้นรถแม่กับเราตอนแรก ๆ ก็ดีแหละ แต่มองหน้าแม่ทีไรอยากจะร้องไห้อยากจะให้หาย ไปอยากอยู่คนเดียวไม่อยากให้ใครมายุ่งเหมือน มันเจ็บไปทุกอย่างอยากเป็นอิสระ แค่นั้น ขอข้าม ไปวันถัดไปวันเกิดเหตุ วันพฤหัสบดี 12 ตอนนั้น มันตอนเย็นตอนนั้นเราไปหาครูที่ปรึกษาทั้งน้ำตา เพราะเรากลั้นไม่ไหวผมกลั้นตั้งแต่เมื่อวานยันเช้า เราทนไม่ไหวแล้ว คุณครูที่ปรึกษาขอแทนด้วย A คุณครู A เขารู้เหตุการณ์มามากอยู่เพราะตอนเราไม่ไหวมักมากระบายกับเขาไม่ก็ร้องไห้ในห้องของ เขาเขาเลยโทรหาตาเราให้มารับแทนตาเลยมารับ ตอนแรก ๆ ตาก็สงสัยเพราะตารู้แต่ทำไมเราถึงร้องไห้ เขายังไม่ได้ทำอะไรผมเลย A เลยอธิบายให้ตาผม ฟังตาฟังเลยเริ่มโมโหเพราะผมเจ็บมากกับเรื่องนั้น ตาเราก็โกรธเหมือนกันเพราะตาผมเคยยกมือไหว้ ขอกับแม่เราว่าไม่เอาตบตีเอาคุยกันด้วยเหตุผล แต่เขาทำแบบนั้นตาผมโกรธอยู่แล้วยิ่งโมโหตาเรา เลยส่งเราที่บ้าน แล้วก็รอแม่พอแม่เรามาก็ทะเลาะ กันใหญ่มาก ( B อยู่ในเหตุการณ์น้าเพราะนั่งหน้าบ้านเรา ) เขาได้ยินทุกอย่างผมก็ได้ยินเพราะแอบ มาฟังแม่เอาแต่หาว่าเราไม่ปกติไม่เหมือนชาวบ้าน และถามมันเป็น ยิ้มอะไรตาเราก็ถามกลับทำไมแค่ นี้ต้องใส่อารมณ์หลานอายุแค่12มันยังเด็กมั้ยตอน นั้นผมร้องไห้แทบตายอยู่ข้างบ้านเพื่อนเราเลยวิ่ง มาปลอบยายก็มาปลอบแม่เราหมดความอดทนที่ จะเถียงเลยเก็บของแล้วขับรถออกไปเลย ตาเราก็ บอกว่าดีแล้วแล้วบอกเราว่าไม่เป็นไรนะมันจบแล้ว มี้ก็จะไม่มาทำร้ายละตอนนั้นเรานั่งร้องไห้แต่เราก็ไม่ได้อยากให้ไป แต่เราเจ็บไปหมดทั้งใจไม่แน่เราควรมี ความอดทนมากกว่านี้เรานั่งร้องไห้ผมเลิกร้องไห้ ตอนประมาณ1ทุ่มมั้งแล้วบอกตาว่าหนูว่าจะลองหา จิตเวชตามที่ครูเคยแนะนำตาก็บอกว่าเดี๋ยวติดต่อให้ แต่ก็ยังคิดถึงเขา ... 

อาจจะยาวหน่อยนะคะ สำหรับคนที่อ่านมาก็ขอบคุณที่มาอ่านแล้วฟังเรื่องราวของเรานะคะ 💖
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่