8 อาหารซื้อได้ทั่วไป กำจัดโซเดียมอย่างแจ๋ว และ 3 วิธีลด “โซเดียม” ในร่างกายฉบับด่วนจี๋

8 อาหารซื้อได้ทั่วไป กำจัดโซเดียมอย่างแจ๋ว กินแซ่บ ซดน้ำซุปแล้ว ใส่ปากตามเลย

ร่างกายเราต้องการโซเดียมบ้าง แต่ถ้ากินมากเกินไป จะเกิดปัญหาได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง อาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นคือ ปวดหัว บวม ท้องผูก และอ่อนเพลีย หลังจากกินอาหารเค็มๆ เราสามารถปรับสมดุลโซเดียมได้ เช่น ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง อย่างไรก็ตามเราจึงอยากแนะนำ 8 ผักผลไม้ช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย
 
8 ผักผลไม้ช่วยกำจัดโซเดียมออกจากร่างกาย
1.กล้วย กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม โดยกล้วยขนาดกลาง 1 ผล ให้โพแทสเซียมประมาณ 9% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (422 มิลลิกรัม) โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิตหลังจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในระยะยาว นอกจากนี้ กล้วยยังมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ลองนำกล้วยมาทำเป็นไอศกรีมกล้วยปั่นสูตร 2 ส่วนผสมกับเนยถั่วลิสง เพื่อเป็นของหวานเพื่อสุขภาพ

2.อะโวคาโด อะโวคาโดครึ่งผลให้โพแทสเซียมประมาณ 10% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน (488 มิลลิกรัม) นอกจากโพแทสเซียมแล้ว อะโวคาดยังอุดมไปด้วยใยอาหารอีกด้วย แทนที่จะทานกับชิปส์ที่มีโซเดียมสูง ลองทานกัวคาโมเลสูตร Almost Chipotle's ของเราคู่กับพริกหยวกหรือแครอท แทนจะช่วยลดผลกระทบจากอาหารที่มีโซเดียมสูงได้

3.กีวี กีวีมีรสชาติอร่อยสดชื่น และเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการรับประทานหลังอาหารที่มีโซเดียมสูง กีวี 1 ผล มีโพแทสเซียมประมาณ 148 มิลลิกรัม คิดเป็นประมาณ 3% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ผลข้างเคียงอีกอย่างหนึ่งของการรับประทานโซเดียมมากเกินไป คือ อาการท้องอืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นอาหารที่มีทั้งโซเดียมและโปรตีนสูง กีวีมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดอาการท้องอืดได้

4.ผักใบเขียว ผักใบเขียวเป็นหนึ่งในผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุด และหนึ่งในนั้นคือโพแทสเซียม ผักขมสุกหนึ่งถ้วยให้โพแทสเซียมสูงถึง 18% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน หรือประมาณ 839 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ผักใบเขียวยังอุดมไปด้วยใยอาหารและสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย แต่มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีโดยไม่รู้สึกอิ่มเกินไป

5.โยเกิร์ต หลังจากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง การเลือกทานโยเกิร์ตเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลายประการ โยเกิร์ตอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งช่วยปรับสมดุลของโซเดียมในร่างกาย และมีโปรไบโอติกส์ที่ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โยเกิร์ตยังเป็นของหวานที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถทดแทนของหวานประเภทอื่นๆ ได้อีกด้วย
โยเกิร์ตผลไม้รสธรรมชาติหนึ่งถ้วย (ไขมันต่ำ) ให้โพแทสเซียมสูงถึง 216 มิลลิกรัม คิดเป็นประมาณ 5% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน เพื่อลดปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามา ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติแล้วเติมผลไม้สดหรือสารให้ความหวานตามชอบ

6.ถั่วขาว เพียงครึ่งถ้วยบรรจุโพแทสเซียมสูงถึง 595 มิลลิกรัม คิดเป็น 13% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานและพึงพอใจโดยไม่ต้องเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก ถั่วขาวกระป๋องมักมีโซเดียมสูงกว่าชนิดแห้ง ดังนั้น ควรเลือกชนิดที่มีโซเดียมต่ำและล้างถั่วกระป๋องก่อนนำไปประกอบอาหารเพื่อลดปริมาณโซเดียม หรืออาจเลือกปรุงถั่วแห้งเองก็ได้ ถั่วขาวมีราคาประหยัด อเนกประสงค์ และเป็นวัตถุดิบที่ควรมีติดตู้เสบียงไว้เสมอ สำหรับมื้ออาหารสุขภาพที่ช่วยให้คุณกลับมาอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

7.น้ำมะพร้าว: น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยโพแทสเซียมสูงถึง 396 มิลลิกรัม (คิดเป็น 8% ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน) นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แมกนีเซียม และแคลเซียม ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายได้รับการเติมน้ำอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ น้ำมะพร้าวยังมีแมงกานีส ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และคอเลสเตอรอลในร่างกาย

8.ชาสมุนไพร แม้ว่าชาทั่วไปอาจไม่ได้มีโพแทสเซียมสูงมากนัก แต่ชากิงเกอร์และชาสะระแหน่มีประโยชน์มากกว่าแค่ช่วยบรรเทาอาการท้องไม่สบาย สะระแหน่โดยเฉพาะ ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารที่มีไขมันได้ดีขึ้น ขิงก็ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและลดอาการบวม ช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้นหลังรับประทานอาหาร

Cr. https://www.sanook.com/women/256545/



3 วิธีลด “โซเดียม” ในร่างกายฉบับด่วนจี๋ หลังทานเค็มมากโดยไม่ได้ตั้งใจ

โซเดียม เป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและความดันโลหิต แต่การบริโภคโซเดียมมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในคนไทย เพราะในชีวิตประจำวัน เรามักบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูงโดยไม่รู้ตัว

ร่างกายต้องการโซเดียมเท่าไหร่ต่อวัน?
ร่างกายของเราควรได้รับโซเดียมในปริมาณที่พอเหมาะคือ 1,500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา เทียบกับน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา หากบริโภคเกินกว่านี้เป็นเวลานาน จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคไต โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

โซเดียมพบได้ในอาหารประเภทใด?
โซเดียมสามารถพบได้ในอาหารหลายประเภทที่เราคุ้นเคย เช่น
เครื่องปรุงรส : น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม ปลาร้า
อาหารแปรรูป : อาหารสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ อาหารกระป๋อง
เบเกอรี่ : ขนมที่ใช้ผงฟู เช่น ขนมปัง เค้ก
เครื่องดื่มเกลือแร่ : นักกีฬา หรือ คนทั่วไป ที่ดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่มากเกินไป อาจได้รับโซเดียมเกินความจำเป็น
การทานอาหารรสเค็มจัด หรืออาหารที่มีโซเดียมสูง อาจส่งผลร้ายต่อร่างกายของคุณมากกว่าแค่หน้าบวม เพราะอาจทำให้เกิดอาการใจเต้นแรง และเร็ว ไม่ได้บวมแค่หน้า แต่บวมไปทั้งตัว ไปจนถึงไม่สามารถหลับได้สนิทในตอนกลางคืน เป็นผลมาจากความดันโลหิตที่อาจพุ่งสูงขึ้นหลังจากที่ทานอาหารที่มีโซเดียมสูงนั่นเอง (จะยิ่งมีอาการอื่นๆ ชัดเจนยิ่งขึ้น หากคุณมีโรคประจำตัวอย่าง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไต โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคหัวใจ เป็นต้น) แต่หากเผลอทานเข้าไปแล้ว แค่นั่งรู้สึกผิดคงไม่ทำให้ร่างกายของเราดีขึ้น เรามาลดปริมาณโซเดียมในร่างกายกันแบบด่วนๆ กันดีกว่า

วิธีลดโซเดียมออกจากร่างกาย
ดื่มน้ำตามมากๆ
จากคำแนะนำของ Brierley Horton ผู้อำนวยการศูนย์โภชนาการของเว็บไซต์ Cooking Light.com อาหารรสเค็ม รวมไปถึงอาหารรสจัด จะทำให้ไตของคุณทำงานหนักมากขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำเข้าไปในร่างกายมากขึ้นอีกเล็กน้อบ จะช่วยให้ไตของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และของเหลวที่เพิ่มมากขึ้นในร่างกายยังช่วยไม่ให้ร่างกาย และใบหน้าของคุณบวมอีกด้วย
 
ออกกำลังกาย
ยังไม่สายไปที่จะกินแล้วรีบออกกำลังกายเผาผลาญพลังงานจากอาหารเหล่านั้นออกไปซะ โดยเฉพาะการลดโซเดียมที่จะถูกร่างกายขับออกมาผ่านเหงื่อที่ไหลออกมาระหว่างการออกกำลังกายนั่นเอง อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่าให้ร่างกายขาดน้ำก่อน และระหว่างออกกำลังกายด้วยล่ะ
ใครที่มีอาการอย่างที่กล่าวไว้ในตอนแรก ว่าหากทางอาหารรสเค็ม หรืออาหารรสจัด แล้วมีอาการต่างๆ มากกว่าแค่หน้าบวม เช่น ตัวบวม ใจเต้น ใจสั่น ปวดศีรษะ กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทางออกให้กับร่างกายของตัวเองอย่างถูกต้อง เพราะคุณอาจมีปัญหาในการรับโซเดียมที่ทำให้หัวใจ ไต ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบอื่นๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติไปก็ได้ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอย่าประมาทเด็ดขาด

อาหารที่ช่วยลดโซเดียม
หากเราต้องการลดระดับโซเดียมในร่างกาย ควรเลือกทานอาหารที่ช่วยขับโซเดียม เช่น
แตงกวา : มีน้ำเยอะและช่วยขับน้ำส่วนเกิน
แตงโม : ช่วยปรับสมดุลของเหลวในร่างกายและขับโซเดียม
กล้วย : มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดอาการบวมน้ำ
หน่อไม้ฝรั่ง : มีกรดแอสพาราจีน ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย
ฟักเขียว : ขับปัสสาวะและช่วยลดอาการบวม
แนวทางลดโซเดียม

เพื่อป้องกันการได้รับโซเดียมเกินควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
ปรุงอาหารเอง : เพื่อควบคุมปริมาณเครื่องปรุงและเลือกใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมต่ำ
ลดการบริโภคอาหารแปรรูป : เช่น อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ
อ่านฉลากโภชนาการ : เลือกอาหารที่มีโซเดียมน้อยกว่า 140 มิลลิกรัมต่อหน่วยบริโภค
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเกลือแร่ : หากไม่จำเป็น ควรดื่มน้ำเปล่าแทน

Cr. https://www.sanook.com/health/11257/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่