แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้หากมี "ความรู้"... ในตลาดหุ้นมีคนเก่ง และคนมีความรู้มากมาย... แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ถึงยังขาดทุนอยู่..?!! อะไรคือสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถทำตามความรู้ที่ได้เรียนมา?? ใช่.. เรากำลังพูดถึงสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เรียกว่า "ตัวเราเอง"...!! คนส่วนใหญ่ไม่ใช่ไม่เก่ง แต่ที่ขาดทุนเพราะพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ตัวเอง ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดอยู่เสมอๆ.. ก่อนซื้อหรือขายหุ้นครั้งหน้า ลองถามตัวเองดู ว่าคุณรู้ทัน 4 อารมณ์อันตรายเหล่านี้หรือเปล่า...!!

1. ความโลภ - คืออารมณ์ที่ทำให้เราอยากรวยมากๆในเวลาอันสั้นที่สุด คนที่ถูกความโลภครอบงำจะมองแต่ด้านกำไรและผลตอบแทน อยากได้กำไรที่มากเกินความเป็นจริง.. "ความโลภทำให้เราตาบอดได้ง่ายๆ" เมื่อโลภมากอาจทำให้กล้าผิดเวลา ซื้อหุ้นในจุดที่อันตรายโดยไม่รู้ตัว.. และลืมคำนึงเรื่องความเสี่ยงและความสมเหตุสมผล.. สิ่งที่ตามมาก็คือการทุ่มซื้อหุ้นตัวเดียวในปริมาณมากๆ ไม่กระจายความเสี่ยง.. เวลาเสียจึงเสียหนัก ทำให้กู้พอร์ตกลับมาได้ยาก

2. ความกลัว - ธรรมชาติของมนุษย์ถูกสร้างมาให้เอาตัวรอด ความกลัวจึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องรู้สึก แต่เคล็ดลับอยู่ที่การกลัวให้ถูกที่และถูกเวลาด้วย!! เช่น ถ้าเราได้วิเคราะห์มาอย่างดีแล้วว่าเราควรขาย เราก็ควรกลัวและขายไปตามระบบ แบบนี้คือการกลัวที่ดี.... แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำคือรีบขายเพราะ "กลัวมันลง" ทั้งที่ไม่มีสัญญาณขาย ทำให้ได้กำไรทีละน้อยๆไม่กี่ช่อง เป็นการจำกัดกำไรตัวเอง  แบบนี้ไม่ดี!! นอกจากนี้ ปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเราขาดทุนมาหลายๆครั้งติดกัน เมื่อโอกาสในการซื้อครั้งถัดไปมาถึง เรากลับกลัวไม่กล้าซื้อ ..นี่อาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักได้ เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าโอกาสครั้งนั้น คุณอาจพลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดๆก็ได้.. ดังนั้น อย่ากลัวเรื่องในอดีต ให้ก้าวข้ามไป เพราะมันไม่มีผลกับโอกาสการชนะครั้งต่อไปของคุณเลย!!

3. ความหวัง - ศัตรูตัวนี้อันตรายมาก เพราะจะทำให้คุณเข้าข้างตัวเอง.. ความหวังคือความต้องการของคุณที่คุณ "คิดไปเอง" และคือเหตุผลที่ทำให้คนไม่ยอม stop loss... ถ้าหุ้นคุณตกลงมาถึงจุดตัดขาดทุนแล้ว แปลว่าการวิเคราะห์ของคุณผิดทาง สิ่งที่ต้องทำก็คือขายออกไปตามแผน ห้ามมีความหวังเด็ดขาด เพราะมันจะบอกคุณให้ลองถือ "ลุ้นต่อไปก่อน".. ถ้าคุณกำลังขาดทุนเลยจุด stop loss แล้วยังพยายามบอกกับตัวเองว่า "เดี๋ยวมันก็กลับมา".. จงระวัง!! เพราะความหวังกำลังหลอกคุณอยู่!!.. กว่าจะรู้ตัวอีกทีอาจสายเกินทำใจแล้ว

4. ความเสียดาย - อารมณ์นี้มักมากับอาการ "ขายหมู".. คือการที่ขายทำกำไรแล้วหุ้นดันไปต่อ.. แน่นอนคุณต้องรู้สึกเซ็งและเสียดายเพราะขายเร็วไป  สิ่งที่น่ากลัวคือมันจะทำให้คุณเล่นหุ้นตัวเดิมซ้ำๆหลายรอบ ขายไปแล้วราคาไปต่อ ทนไม่ไหวเลยกระโดดเข้าไปใหม่ อยาก "เอาคืน"... แต่ลืมไปรึเปล่าว่าทุกครั้งที่เข้าไปใหม่นั้น คุณเข้าด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ.. เท่ากับว่าเสี่ยงมากขึ้นทุกครั้ง..และมักจะมาเสียทั้งหมดเอาตอนรอบสุดท้าย!! ถ้าขายหมูบ่อย ก็ไปแก้และปรับกลยุทธ์ อย่าแก้ด้วยอารมณ์!!