ระวังเป็นเหยื่อกับการเลือกระบบซอฟต์แวร์ ERP โดยไม่ใช่ระบบ MRP แท้!
ตาราง MRP และวิธีการคำนวณที่ถูกต้อง
1. ทำไมการเลือกระบบ ERP ที่มี MRP แท้จึงสำคัญ?
ในปัจจุบัน มีระบบ ERP มากมายที่อ้างว่ามีฟังก์ชัน MRP (Material Requirements Planning) แต่แท้จริงแล้ว ไม่ได้คำนวณ MRP อย่างถูกต้องตามหลักการที่แท้จริง ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจของคุณต้องเผชิญกับปัญหาสินค้าคงคลังที่ไม่แม่นยำ การผลิตที่ติดขัดตลอดเวลา โปรแกรมใช้วางแผนการสั่งซื้อ และสั่งผลิตทั้งงานระหวางทำ และสินค้าไม่ได้ และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
MRP แท้จริงต้องมีการคำนวณจาก 6 Parameter หลักและ Lead Time
2. MRP ที่แท้จริงจะต้องใช้ 6 Parameter หลักและระยะเวลานำ ( Lead time ) ในการคำนวณ เพื่อช่วยให้กระบวนการวางแผนวัตถุดิบแม่นยำขึ้น ได้แก่:
2.1 Gross Requirement - ความต้องการวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำรวมที่จำเป็นต้องใช้ตามคำสั่งผลิตและแผนการขาย
2.2 Scheduled Receipts - วัตถุดิบ งานระหว่างทำหรือสินค้าสำเร็จรูปที่มีคำสั่งซื้อไว้แล้ว และคาดว่าจะได้รับเข้ามาในอนาคต
2.3 On-Hand Quantity - ปริมาณวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำที่มีอยู่ในคลัง ณ ปัจจุบัน
2.4 Net Requirement - ปริมาณวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำที่ต้องสั่งซื้อหรือผลิตเพิ่ม หลังจากคำนวณจาก Gross Requirement และ On-Hand Quantity
2.5 Planned Order Receipt - ปริมาณวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำ ที่คาดว่าจะได้รับเข้ามาจากคำสั่งซื้อที่มีการวางแผนไว้
2.6 Planned Order Release - คำสั่งซื้อที่ต้องปล่อยไปยังซัพพลายเออร์ หรือคำสั่งผลิตที่ต้องเริ่มดำเนินการ
การคำนวณ MRP ที่ไม่ถูกต้อง เช่น การคำนวณการสั่งผลิตสินค้า โดย นำเอา ยอดSale Order - สต๊อคคงเหลือ , ยอดค้างส่ง , Minimum Stock และ สูตรการผลิต (BOM) หรือ การคิดคำนวณสูตร MRP ขึ้นมาเอง หรือบางรายใช้คำนวณจาก BOM เหล่านี้คือวิธีการที่คิดขึ้นมาเองทั้งสิ้น ไม่ใช่การคำนวณ MRP ที่ถูกต้องทำให้ยอดการสั่งผลิต หรือสั่งซื้อวัตถุดิบ ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย
ตาราง MRP ของ ORACLE SOFTWARE
3. ตาราง MRP: หัวใจสำคัญของระบบ MRP แท้
การคำนวณ MRP จะแสดงผลออกมาในรูปแบบของ ตาราง MRP (MRP Table) ซึ่งเป็น เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารและฝ่ายวางแผนการผลิตสามารถดูข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย
หากระบบ ERP ของคุณไม่มีตาราง MRP แสดงว่า ระบบนั้นอาจไม่ได้มี MRP ที่แท้จริง และอาจทำให้ธุรกิจของคุณประสบปัญหาด้านการวางแผนวัตถุดิบและการผลิต
4. ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ MRP ปลอม
หากโรงงานของคุณใช้ระบบ MRP ที่ไม่ได้คำนวณ 6 Parameter อย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาดังนี้:
❌ วัตถุดิบขาดแคลน – คำสั่งผลิตต้องหยุดชะงักเพราะไม่มีวัตถุดิบที่ต้องการ
❌ สินค้าค้างสต็อกมากเกินไป – ระบบสั่งซื้อผิดพลาด ทำให้วัตถุดิบเหลือทิ้งหรือล้าสมัย
❌ กระบวนการผลิตติดขัด – ไม่สามารถกำหนดแผนการผลิตที่มีประสิทธิภาพได้
❌ ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น – การจัดซื้อที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้ต้องจ่ายเงินเกินจำเป็น
❌ ใช้ Excel คำนวณเพิ่ม – ระบบ ERP ที่ไม่มี MRP แท้จริงทำให้ต้องใช้แรงงานคนในการคำนวณแผนวัตถุดิบ
❌ เสียโอกาสในการขาย – ผลิตสินค้าไม่ทันเวลาส่งมอบให้ลูกค้า
❌ ข้อมูลสารสนเทศผิดพลาด – ข้อมูลที่ได้รับจากระบบผิดพลาดไม่สามารถนำไปใช้งานอื่นๆได้ เช่น การจัดกำลังการผลิต การวางแผนการผลิต หรือข้อมูลผู้บริหาร อื่นๆ
5. ข้อดีของการใช้ระบบ MRP แท้จริง
✅ วางแผนการผลิตได้อย่างแม่นยำ – คำนวณความต้องการวัตถุดิบล่วงหน้า ทำให้การผลิตไม่มีสะดุด
✅ ลดต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง – มีการคำนวณที่ถูกต้อง ไม่ต้องสต็อกของมากเกินไป
✅ ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดซื้อ – วางแผนคำสั่งซื้อได้ล่วงหน้าตาม Lead Time
✅ ช่วยให้โรงงานทำงานได้ต่อเนื่อง – ลดโอกาสขาดวัตถุดิบและเพิ่มความคล่องตัวในการผลิต
✅ ทำให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นอัตโนมัติ – ไม่ต้องใช้ Excel หรือทำงานแบบแมนนวลเพิ่มเติม
✅ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ – สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดเวลา
6. การเลือกระบบ ERP ที่มี MRP แท้จริง ต้องทำอย่างไร?
✅ ถามหาตาราง MRP จากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ – ทุกครั้งที่เลือก ERP ต้องขอให้ผู้ขาย แสดงตาราง MRP และวิธีคำนวณอย่างชัดเจน ถ้าผู้จำหน่ายบ่ายเบี่ยง หรือหาข้ออ้าง ให้สงสัยว่าซอฟต์แวร์ตัวนั้นคงจะเป็น MRP ปลอม
✅ ตรวจสอบว่า MRP สามารถคำนวณจาก 6 Parameter ได้จริง – โดยเฉพาะ Gross Requirement, Scheduled Receipts และ On-Hand Quantity
✅ ดูตัวอย่างการทำงานจริง (Demo) ของระบบ MRP – ขอให้ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์แสดงการคำนวณ MRP ในกรณีตัวอย่าง เพื่อดูว่าระบบสามารถคำนวณการวางแผนวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำหรือไม่
✅ หลีกเลี่ยง ERP ที่มีแค่ระบบจัดซื้อและสต็อก แต่ไม่มี MRP – บางระบบ ERP อาจใช้แค่ฟังก์ชันจัดซื้อหรือสินค้าคงคลัง โดยไม่มีการคำนวณวัตถุดิบที่แท้จริง ซึ่งอาจทำให้แผนการผลิตล้มเหลว
By : Erp Factory Soft Co.,Ltd.
https://erpfactorysoft-usa.com/
https://www.erpfactorysoft.com/
ระวังเป็นเหยื่อกับการเลือกระบบซอฟต์แวร์ ERP โรงงานโดยไม่ใช่ระบบ MRP แท้!
ตาราง MRP และวิธีการคำนวณที่ถูกต้อง
1. ทำไมการเลือกระบบ ERP ที่มี MRP แท้จึงสำคัญ?
ในปัจจุบัน มีระบบ ERP มากมายที่อ้างว่ามีฟังก์ชัน MRP (Material Requirements Planning) แต่แท้จริงแล้ว ไม่ได้คำนวณ MRP อย่างถูกต้องตามหลักการที่แท้จริง ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจของคุณต้องเผชิญกับปัญหาสินค้าคงคลังที่ไม่แม่นยำ การผลิตที่ติดขัดตลอดเวลา โปรแกรมใช้วางแผนการสั่งซื้อ และสั่งผลิตทั้งงานระหวางทำ และสินค้าไม่ได้ และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น
MRP แท้จริงต้องมีการคำนวณจาก 6 Parameter หลักและ Lead Time
2. MRP ที่แท้จริงจะต้องใช้ 6 Parameter หลักและระยะเวลานำ ( Lead time ) ในการคำนวณ เพื่อช่วยให้กระบวนการวางแผนวัตถุดิบแม่นยำขึ้น ได้แก่:
2.1 Gross Requirement - ความต้องการวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำรวมที่จำเป็นต้องใช้ตามคำสั่งผลิตและแผนการขาย
2.2 Scheduled Receipts - วัตถุดิบ งานระหว่างทำหรือสินค้าสำเร็จรูปที่มีคำสั่งซื้อไว้แล้ว และคาดว่าจะได้รับเข้ามาในอนาคต
2.3 On-Hand Quantity - ปริมาณวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำที่มีอยู่ในคลัง ณ ปัจจุบัน
2.4 Net Requirement - ปริมาณวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำที่ต้องสั่งซื้อหรือผลิตเพิ่ม หลังจากคำนวณจาก Gross Requirement และ On-Hand Quantity
2.5 Planned Order Receipt - ปริมาณวัตถุดิบหรืองานระหว่างทำ ที่คาดว่าจะได้รับเข้ามาจากคำสั่งซื้อที่มีการวางแผนไว้
2.6 Planned Order Release - คำสั่งซื้อที่ต้องปล่อยไปยังซัพพลายเออร์ หรือคำสั่งผลิตที่ต้องเริ่มดำเนินการ
การคำนวณ MRP ที่ไม่ถูกต้อง เช่น การคำนวณการสั่งผลิตสินค้า โดย นำเอา ยอดSale Order - สต๊อคคงเหลือ , ยอดค้างส่ง , Minimum Stock และ สูตรการผลิต (BOM) หรือ การคิดคำนวณสูตร MRP ขึ้นมาเอง หรือบางรายใช้คำนวณจาก BOM เหล่านี้คือวิธีการที่คิดขึ้นมาเองทั้งสิ้น ไม่ใช่การคำนวณ MRP ที่ถูกต้องทำให้ยอดการสั่งผลิต หรือสั่งซื้อวัตถุดิบ ไม่ถูกต้องโดยสิ้นเชิง ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย
ตาราง MRP ของ ORACLE SOFTWARE
3. ตาราง MRP: หัวใจสำคัญของระบบ MRP แท้
การคำนวณ MRP จะแสดงผลออกมาในรูปแบบของ ตาราง MRP (MRP Table) ซึ่งเป็น เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารและฝ่ายวางแผนการผลิตสามารถดูข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย หากระบบ ERP ของคุณไม่มีตาราง MRP แสดงว่า ระบบนั้นอาจไม่ได้มี MRP ที่แท้จริง และอาจทำให้ธุรกิจของคุณประสบปัญหาด้านการวางแผนวัตถุดิบและการผลิต
4. ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ MRP ปลอม
หากโรงงานของคุณใช้ระบบ MRP ที่ไม่ได้คำนวณ 6 Parameter อย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาดังนี้:
❌ วัตถุดิบขาดแคลน – คำสั่งผลิตต้องหยุดชะงักเพราะไม่มีวัตถุดิบที่ต้องการ
❌ สินค้าค้างสต็อกมากเกินไป – ระบบสั่งซื้อผิดพลาด ทำให้วัตถุดิบเหลือทิ้งหรือล้าสมัย
❌ กระบวนการผลิตติดขัด – ไม่สามารถกำหนดแผนการผลิตที่มีประสิทธิภาพได้
❌ ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น – การจัดซื้อที่ไม่มีประสิทธิภาพทำให้ต้องจ่ายเงินเกินจำเป็น
❌ ใช้ Excel คำนวณเพิ่ม – ระบบ ERP ที่ไม่มี MRP แท้จริงทำให้ต้องใช้แรงงานคนในการคำนวณแผนวัตถุดิบ
❌ เสียโอกาสในการขาย – ผลิตสินค้าไม่ทันเวลาส่งมอบให้ลูกค้า
❌ ข้อมูลสารสนเทศผิดพลาด – ข้อมูลที่ได้รับจากระบบผิดพลาดไม่สามารถนำไปใช้งานอื่นๆได้ เช่น การจัดกำลังการผลิต การวางแผนการผลิต หรือข้อมูลผู้บริหาร อื่นๆ
5. ข้อดีของการใช้ระบบ MRP แท้จริง
✅ วางแผนการผลิตได้อย่างแม่นยำ – คำนวณความต้องการวัตถุดิบล่วงหน้า ทำให้การผลิตไม่มีสะดุด
✅ ลดต้นทุนวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง – มีการคำนวณที่ถูกต้อง ไม่ต้องสต็อกของมากเกินไป
✅ ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดซื้อ – วางแผนคำสั่งซื้อได้ล่วงหน้าตาม Lead Time
✅ ช่วยให้โรงงานทำงานได้ต่อเนื่อง – ลดโอกาสขาดวัตถุดิบและเพิ่มความคล่องตัวในการผลิต
✅ ทำให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นอัตโนมัติ – ไม่ต้องใช้ Excel หรือทำงานแบบแมนนวลเพิ่มเติม
✅ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ – สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดเวลา
6. การเลือกระบบ ERP ที่มี MRP แท้จริง ต้องทำอย่างไร?
✅ ถามหาตาราง MRP จากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ – ทุกครั้งที่เลือก ERP ต้องขอให้ผู้ขาย แสดงตาราง MRP และวิธีคำนวณอย่างชัดเจน ถ้าผู้จำหน่ายบ่ายเบี่ยง หรือหาข้ออ้าง ให้สงสัยว่าซอฟต์แวร์ตัวนั้นคงจะเป็น MRP ปลอม
✅ ตรวจสอบว่า MRP สามารถคำนวณจาก 6 Parameter ได้จริง – โดยเฉพาะ Gross Requirement, Scheduled Receipts และ On-Hand Quantity
✅ ดูตัวอย่างการทำงานจริง (Demo) ของระบบ MRP – ขอให้ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์แสดงการคำนวณ MRP ในกรณีตัวอย่าง เพื่อดูว่าระบบสามารถคำนวณการวางแผนวัตถุดิบได้อย่างแม่นยำหรือไม่
✅ หลีกเลี่ยง ERP ที่มีแค่ระบบจัดซื้อและสต็อก แต่ไม่มี MRP – บางระบบ ERP อาจใช้แค่ฟังก์ชันจัดซื้อหรือสินค้าคงคลัง โดยไม่มีการคำนวณวัตถุดิบที่แท้จริง ซึ่งอาจทำให้แผนการผลิตล้มเหลว
By : Erp Factory Soft Co.,Ltd.
https://erpfactorysoft-usa.com/
https://www.erpfactorysoft.com/