🔥 หลายบริษัทกำลังใช้ ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ โดยไม่รู้ตัว!
ERP (Enterprise Resource Planning) เป็นหัวใจสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรม แต่ ERP บางระบบที่โฆษณาว่ามี MRP อาจไม่ได้คำนวณตามหลัก MRP ที่แท้จริง ซึ่งอาจสร้าง ความเสียหายร้ายแรง ให้กับกระบวนการผลิตของคุณ
❌ MRP ที่คำนวณผิด ทำให้โรงงานของคุณต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้:
🚨 วัตถุดิบขาดแคลน → โรงงานหยุดผลิต ทำให้ส่งมอบสินค้าไม่ได้
🚨 วัตถุดิบล้นสต็อก → เงินทุนจม ขาดสภาพคล่อง
🚨 คำสั่งซื้อผิดพลาด → ลูกค้าได้รับของล่าช้า เสียโอกาสทางธุรกิจ
🚨 ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น → กำไรลดลงจากการบริหารวัตถุดิบผิดพลาด
💡 ทำไมถึงเกิดปัญหานี้? เพราะซอฟต์แวร์ ERP ที่ "แค่บอกว่ามี MRP" บางตัว คำนวณ MRP ผิดวิธี ❌
🚨 ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ – มีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง?
ซอฟต์แวร์ ERP หลายตัวอ้างว่ามี MRP แต่จริงๆ แล้วคำนวณผิดพลาด โดยใช้ สูตรคำนวณที่ง่ายเกินไป เช่น:
❌ การนำยอดขาย (Sales Order) หรือการพยากรณ์ (Forecast) มาหักลบกับสินค้าคงคลัง,สินค้าค้างส่ง, Minimum Stock, BOM
❌ คำนวณ BOM (Bill of Materials) แบบง่ายๆ → ไม่คำนึงถึง Lead Time และความต้องการวัสดุในแต่ละช่วงเวลา
❌ กำหนด Minimum Stock แล้วบังคับให้สั่งซื้ออัตโนมัติ → ไม่พิจารณากำหนดการผลิตจริง
❌ สร้างสูตรคำนวณเองโดยไม่มีหลักการ MRP → ทำให้ผลการคำนวณไม่น่าเชื่อถือ
📌 เมื่อการคำนวณ MRP ได้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง ทำให้ระบบซอฟต์แวร์เหล่านั้นไม่มีระบบการวางแผนการผลิตและคำนวณหาวัสดุ ( MPS/MRP SYSTEM ) ตามที่กล่าวอ้าง
📌 ผลลัพธ์ที่ได้: คำสั่งซื้อวัตถุดิบไม่ตรงกับการผลิตจริง → โรงงานต้องรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเสี่ยงต่อการขาดวัตถุดิบ
✅ แล้ว MRP ที่แท้จริงเป็นอย่างไร
✅ ERP/MRP ที่แท้จริง ต้องคำนวณตามหลัก MRP ทั้ง 6 Parameterพร้อมทั้งการคำนวณเรื่องเวลา
📌 MRP ของแท้ ต้องคำนวณตาม 6 องค์ประกอบหลักและผลลัพธ์ออกเป็นตาราง MRP เพื่อให้ผลลัพธ์ถูกต้องแม่นยำ 🎯
1️⃣ Gross Requirement (ความต้องการวัสดุรวม)
➡️ วัสดุที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงเวลาตามคำสั่งผลิต (Work Order)
➡️ ต้องรวมความต้องการจาก BOM ทุกระดับและช่วงเวลาที่ต้องการ
2️⃣ Scheduled Receipts (วัสดุที่มีกำหนดรับเข้า)
➡️ วัตถุดิบที่กำลังจะเข้าคลังจากคำสั่งซื้อที่เคยปล่อยไปก่อนหน้า
➡️ หากระบบไม่พิจารณาตัวนี้ จะทำให้เกิดการสั่งซื้อเกินความจำเป็น
3️⃣ On-Hand Quantity (ปริมาณคงเหลือในคลัง)
➡️ คำนวณจากจำนวนสินค้าหรือวัตถุดิบที่มีอยู่จริง
➡️ หากระบบไม่คำนวณตัวนี้ อาจทำให้เกิด Overstock หรือขาดแคลนวัตถุดิบ
4️⃣ Net Requirement (ความต้องการสุทธิ)
📌 คำนวณจากสูตรนี้:
Net Requirement = Gross Requirement - (On-Hand Quantity + Scheduled Receipts)
➡️ ถ้า On-Hand และ Scheduled Receipts มากพอ → ไม่ต้องสั่งซื้อใหม่
5️⃣ Planned Order Receipt (ปริมาณที่ต้องมีในอนาคต)
➡️ คำนวณปริมาณที่ต้องมีเพื่อรองรับกำหนดการผลิต
6️⃣ Planned Order Release (แผนการปล่อยคำสั่งผลิตหรือสั่งซื้อ)
➡️ ระบบต้องพิจารณา Lead Time ในการผลิตหรือจัดซื้อ
➡️ ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ มักไม่พิจารณา Lead Time → ทำให้คำสั่งผลิตออกช้า
✅ MRP ของแท้ต้องใช้สูตรที่พิจารณาทั้ง 6 ตัวนี้ร่วมกัน ไม่ใช่แค่หักลบยอดขายกับสต็อก หรือการคำนวณด้วยวิธีลัดอื่น !
✅ MRP ผลลัพธ์ของการคำนวณ MRP จะเป็น ตาราง MRP
Bill Of Materials
✅ ตาราง MRP และการคำนวณ MRP ที่ถูกต้องตามทฤษฎี MRP
✅ MRP แท้จะใช้ Lead Time ในการคำนวณความต้องการของ BOM แต่ละระดับที่มีผลกระทบด้วย
✅ MRP แท้ จะคำนวณด้วย 6 พารามิเตอร์อย่างถูกต้องพร้อมด้วยระยะเวลาที่ต้องการแต่ละรหัสองค์ประกอบ ด้วย
✅ ตาราง MRP ของ ORACLE SOFTWARE SYSTEM
✅ ตาราง MRP ของ SAP SOFTWARE
📊 เปรียบเทียบ ERP ที่มี MRP ของแท้ vs ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ
ERP ที่มี MRP ของแท้ ✅
คำนวณความต้องการวัสดุจริง (MRP) : ✅ คำนวณตาม 6 Parameter
มี BOM ที่แม่นยำ : ✅ รองรับหลายระดับ
คำนวณ Lead Time ในการผลิต : ✅ คำนวณเวลาสั่งซื้อและผลิตอัตโนมัติ
รองรับ Real-Time Tracking : ✅ ใช้ Barcode/QR Code ติดตามสถานะ
ป้องกันการสั่งซื้อมากเกินไป : ✅ คำนวณจาก Net Requirement
ลดต้นทุนการจัดซื้อและสต็อก : ✅ วางแผนตามความต้องการจริง
ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ ❌
คำนวณความต้องการวัสดุจริง (MRP) : ❌ ใช้สูตรง่ายๆ หักลบสต็อกหรือวิธีการคำนวณขึ้นเอง
มี BOM ที่แม่นยำ : ❌ ใช้ BOM แบบระดับเดียวหรือระดับไม่ถูกต้อง
คำนวณ Lead Time ในการผลิต : ❌ ไม่พิจารณา Lead Time
รองรับ Real-Time Tracking : ❌ ไม่มีการติดตามข้อมูลจริง
ป้องกันการสั่งซื้อมากเกินไป : ❌ สั่งซื้อตาม Minimum Stock หรือการคำนวณวิธีลัดอื่น
ลดต้นทุนการจัดซื้อและสต็อก : ❌ เงินทุนจมเพราะสั่งของผิดพลาด
🚨 ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ อาจทำให้โรงงานของคุณเสียเงินหลักล้านโดยไม่รู้ตัว!
💡 สรุป: ทำไมต้องเลือก ERP ที่มี MRP ของแท้?
✅ คำนวณความต้องการวัสดุ แบบแม่นยำ
✅ คำนวณการวางแผนการผลิตของงานประกอบและสินค้าแบบแม่นยำ การประกอบเป็นสินค้าจะทันกับกำหนดส่งของออร์เดอร์ลูกค้า
✅ ลดต้นทุนการจัดซื้อ และลดของเสียในคลังสินค้า
✅ วางแผนการผลิตให้ ตรงกับความเป็นจริง
✅ ป้องกันปัญหาสต็อกขาด/ล้น เพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน
✅ รองรับ Real-Time Production Monitoring
😊ดังนั้นการเลือกซอฟต์แวร์ ERP/MRP จากผู้ให้บริการรายใดก็ตามควรให้ความสำคัญกับโมดูลระบบ MPS/MRP SYSTEM อย่างถี่ถ้วน
และเทคนิค !! วิธีการสกรีนเบื้องต้น โปรดถามหา ตาราง MRP จากผู้ค้าซอฟต์แวร์ จะเป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็ว 😊
Erp Factory Soft Co.,Ltd ( Thailand )
https://erpfactorysoft-usa.com/
https://www.erpfactorysoft.com/
🏭 เปรียบเทียบ ERP/MRP ของแท้ กับ ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ – ทำไมคุณต้องเลือกให้ถูก ✅
ERP (Enterprise Resource Planning) เป็นหัวใจสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรม แต่ ERP บางระบบที่โฆษณาว่ามี MRP อาจไม่ได้คำนวณตามหลัก MRP ที่แท้จริง ซึ่งอาจสร้าง ความเสียหายร้ายแรง ให้กับกระบวนการผลิตของคุณ
❌ MRP ที่คำนวณผิด ทำให้โรงงานของคุณต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้:
🚨 วัตถุดิบขาดแคลน → โรงงานหยุดผลิต ทำให้ส่งมอบสินค้าไม่ได้
🚨 วัตถุดิบล้นสต็อก → เงินทุนจม ขาดสภาพคล่อง
🚨 คำสั่งซื้อผิดพลาด → ลูกค้าได้รับของล่าช้า เสียโอกาสทางธุรกิจ
🚨 ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น → กำไรลดลงจากการบริหารวัตถุดิบผิดพลาด
💡 ทำไมถึงเกิดปัญหานี้? เพราะซอฟต์แวร์ ERP ที่ "แค่บอกว่ามี MRP" บางตัว คำนวณ MRP ผิดวิธี ❌
🚨 ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ – มีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง?
ซอฟต์แวร์ ERP หลายตัวอ้างว่ามี MRP แต่จริงๆ แล้วคำนวณผิดพลาด โดยใช้ สูตรคำนวณที่ง่ายเกินไป เช่น:
❌ การนำยอดขาย (Sales Order) หรือการพยากรณ์ (Forecast) มาหักลบกับสินค้าคงคลัง,สินค้าค้างส่ง, Minimum Stock, BOM
❌ คำนวณ BOM (Bill of Materials) แบบง่ายๆ → ไม่คำนึงถึง Lead Time และความต้องการวัสดุในแต่ละช่วงเวลา
❌ กำหนด Minimum Stock แล้วบังคับให้สั่งซื้ออัตโนมัติ → ไม่พิจารณากำหนดการผลิตจริง
❌ สร้างสูตรคำนวณเองโดยไม่มีหลักการ MRP → ทำให้ผลการคำนวณไม่น่าเชื่อถือ
📌 เมื่อการคำนวณ MRP ได้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง ทำให้ระบบซอฟต์แวร์เหล่านั้นไม่มีระบบการวางแผนการผลิตและคำนวณหาวัสดุ ( MPS/MRP SYSTEM ) ตามที่กล่าวอ้าง
📌 ผลลัพธ์ที่ได้: คำสั่งซื้อวัตถุดิบไม่ตรงกับการผลิตจริง → โรงงานต้องรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเสี่ยงต่อการขาดวัตถุดิบ
✅ แล้ว MRP ที่แท้จริงเป็นอย่างไร
✅ ERP/MRP ที่แท้จริง ต้องคำนวณตามหลัก MRP ทั้ง 6 Parameterพร้อมทั้งการคำนวณเรื่องเวลา
📌 MRP ของแท้ ต้องคำนวณตาม 6 องค์ประกอบหลักและผลลัพธ์ออกเป็นตาราง MRP เพื่อให้ผลลัพธ์ถูกต้องแม่นยำ 🎯
1️⃣ Gross Requirement (ความต้องการวัสดุรวม)
➡️ วัสดุที่ต้องใช้ในแต่ละช่วงเวลาตามคำสั่งผลิต (Work Order)
➡️ ต้องรวมความต้องการจาก BOM ทุกระดับและช่วงเวลาที่ต้องการ
2️⃣ Scheduled Receipts (วัสดุที่มีกำหนดรับเข้า)
➡️ วัตถุดิบที่กำลังจะเข้าคลังจากคำสั่งซื้อที่เคยปล่อยไปก่อนหน้า
➡️ หากระบบไม่พิจารณาตัวนี้ จะทำให้เกิดการสั่งซื้อเกินความจำเป็น
3️⃣ On-Hand Quantity (ปริมาณคงเหลือในคลัง)
➡️ คำนวณจากจำนวนสินค้าหรือวัตถุดิบที่มีอยู่จริง
➡️ หากระบบไม่คำนวณตัวนี้ อาจทำให้เกิด Overstock หรือขาดแคลนวัตถุดิบ
4️⃣ Net Requirement (ความต้องการสุทธิ)
📌 คำนวณจากสูตรนี้:
Net Requirement = Gross Requirement - (On-Hand Quantity + Scheduled Receipts)
➡️ ถ้า On-Hand และ Scheduled Receipts มากพอ → ไม่ต้องสั่งซื้อใหม่
5️⃣ Planned Order Receipt (ปริมาณที่ต้องมีในอนาคต)
➡️ คำนวณปริมาณที่ต้องมีเพื่อรองรับกำหนดการผลิต
6️⃣ Planned Order Release (แผนการปล่อยคำสั่งผลิตหรือสั่งซื้อ)
➡️ ระบบต้องพิจารณา Lead Time ในการผลิตหรือจัดซื้อ
➡️ ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ มักไม่พิจารณา Lead Time → ทำให้คำสั่งผลิตออกช้า
✅ MRP ของแท้ต้องใช้สูตรที่พิจารณาทั้ง 6 ตัวนี้ร่วมกัน ไม่ใช่แค่หักลบยอดขายกับสต็อก หรือการคำนวณด้วยวิธีลัดอื่น !
✅ MRP ผลลัพธ์ของการคำนวณ MRP จะเป็น ตาราง MRP
Bill Of Materials
✅ ตาราง MRP และการคำนวณ MRP ที่ถูกต้องตามทฤษฎี MRP
✅ MRP แท้จะใช้ Lead Time ในการคำนวณความต้องการของ BOM แต่ละระดับที่มีผลกระทบด้วย
✅ MRP แท้ จะคำนวณด้วย 6 พารามิเตอร์อย่างถูกต้องพร้อมด้วยระยะเวลาที่ต้องการแต่ละรหัสองค์ประกอบ ด้วย
ERP ที่มี MRP ของแท้ ✅
คำนวณความต้องการวัสดุจริง (MRP) : ✅ คำนวณตาม 6 Parameter
มี BOM ที่แม่นยำ : ✅ รองรับหลายระดับ
คำนวณ Lead Time ในการผลิต : ✅ คำนวณเวลาสั่งซื้อและผลิตอัตโนมัติ
รองรับ Real-Time Tracking : ✅ ใช้ Barcode/QR Code ติดตามสถานะ
ป้องกันการสั่งซื้อมากเกินไป : ✅ คำนวณจาก Net Requirement
ลดต้นทุนการจัดซื้อและสต็อก : ✅ วางแผนตามความต้องการจริง
ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ ❌
คำนวณความต้องการวัสดุจริง (MRP) : ❌ ใช้สูตรง่ายๆ หักลบสต็อกหรือวิธีการคำนวณขึ้นเอง
มี BOM ที่แม่นยำ : ❌ ใช้ BOM แบบระดับเดียวหรือระดับไม่ถูกต้อง
คำนวณ Lead Time ในการผลิต : ❌ ไม่พิจารณา Lead Time
รองรับ Real-Time Tracking : ❌ ไม่มีการติดตามข้อมูลจริง
ป้องกันการสั่งซื้อมากเกินไป : ❌ สั่งซื้อตาม Minimum Stock หรือการคำนวณวิธีลัดอื่น
ลดต้นทุนการจัดซื้อและสต็อก : ❌ เงินทุนจมเพราะสั่งของผิดพลาด
🚨 ERP ที่ไม่มี MRP จริงๆ อาจทำให้โรงงานของคุณเสียเงินหลักล้านโดยไม่รู้ตัว!
💡 สรุป: ทำไมต้องเลือก ERP ที่มี MRP ของแท้?
✅ คำนวณความต้องการวัสดุ แบบแม่นยำ
✅ คำนวณการวางแผนการผลิตของงานประกอบและสินค้าแบบแม่นยำ การประกอบเป็นสินค้าจะทันกับกำหนดส่งของออร์เดอร์ลูกค้า
✅ ลดต้นทุนการจัดซื้อ และลดของเสียในคลังสินค้า
✅ วางแผนการผลิตให้ ตรงกับความเป็นจริง
✅ ป้องกันปัญหาสต็อกขาด/ล้น เพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน
✅ รองรับ Real-Time Production Monitoring
😊ดังนั้นการเลือกซอฟต์แวร์ ERP/MRP จากผู้ให้บริการรายใดก็ตามควรให้ความสำคัญกับโมดูลระบบ MPS/MRP SYSTEM อย่างถี่ถ้วน
และเทคนิค !! วิธีการสกรีนเบื้องต้น โปรดถามหา ตาราง MRP จากผู้ค้าซอฟต์แวร์ จะเป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็ว 😊
Erp Factory Soft Co.,Ltd ( Thailand )
https://erpfactorysoft-usa.com/
https://www.erpfactorysoft.com/