เริ่มพรุ่งนี้! ธปท. สกัด "บัญชีม้า" โอนเงินเข้า-ออกไม่ได้ สั่งแบงก์ส่งข้อความเตือนทันที




เริ่มพรุ่งนี้! ธปท. สกัด "บัญชีม้า" โอนเงินเข้า-ออกไม่ได้ สั่งแบงก์ส่งข้อความเตือนทันที

เริ่มพรุ่งนี้! ธปท. เปิดยุทธการ “ปิดปากม้า” สกัด “บัญชีม้า” โอนเงินเข้า-ออกไม่ได้ สั่งแบงก์ส่งข้อความเตือนลูกค้าทันที หากทำธุรกรรมกับบัญชีต้องสงสัย

วันที่ 30 ม.ค. 2568 นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.มีการยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน โดยจะเพิ่มความเข้มข้นและขยายผลการจัดการบัญชีม้าต้องสงสัย เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการได้เชิงรุกในการป้องกันความเสี่ยง และแก้ปัญหาภัยทางการเงิน

ทั้งนี้ จะมีการยกระดับป้องกันด้วยกัน 3 ด้าน ได้แก่ 1.การกวาดล้างบัญชีม้า ธปท.จะมีการเพิ่มเฉดสีของม้าในส่วนของสีเทาเข้มและอ่อน และน้ำตาลเข้มและอ่อน แม้ว่าไม่มีผู้เสียหาย แต่ธนาคารเห็นพฤติกรรมน่าสงสัย จะช่วยป้องกันความเสียหายของเหยือ และกวาดล้างบัญชีม้าได้วงกว้างมากขึ้น

2.Action เข้มข้น ภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 จะดำเนินการ “ปิดปากม้า” ซึ่งจะเป็นวันแรกที่ให้ทุกสถาบันการเงิน ห้ามทำธุรกรรม หรือห้ามโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัย เป็นบัญชีม้า โดยหากเป็นบัญชีต้องสงสัยจะไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวได้ และธนาคารจะมีการส่งแจ้งเตือนถึงผู้ใช้บริการทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันทำได้บางแห่ง แต่คาดว่าการเตือนจะสามารถทำได้ทุกธนาคารภายในเดือนมีนาคม และบัญชีม้าเทาเข้ม-เทา ภายในเดือนมีนาคมจะสามาถปิดปากม้า “กันเงินเข้า” ได้เช่นกัน รวมถึงม้านิติจะทำเข้มข้นมากขึ้น

3.ขยายวงกว้าง โดยการตรวจจับบัญชีม้า โดยสถาบันการเงินร่วมกันแชร์ข้อมูลบัญชีม้า และบัญชีต้องสงสัยร่วมกันทั้งระบบได้ เพื่อให้เห็นบัญชีต้องสงสัยทั้งระบบร่วมกัน จากเดิมที่ธนาคารไม่สามารถแชร์ข้อมูลร่วมกันได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากบัญชีม้าในอนาคต

เช่น ที่ผ่านมาจำนวนเคสที่เกิดขึ้น จะพบว่า 75% ของความเสียหายเกิดขึ้น เส้นทางถูกโอนไปบัญชี “คริปโตเคอร์เรนซี” เพื่อสกัดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที ซึ่งอาจมีการติดรหัสเป็นบัญชีต้องสงสัย หรือนำไปสู่การสั่งระงับ การห้ามโอนเงินออกได้ เพื่อป้องกันเงินไหลออกนอกระบบ หรือไหลออกไปต่างประเทศ โดยจะมีการแชร์ข้อมูลภายในไตรมาส 1/2568

“ระยะถัดไป แต่เป็นการต่อเนื่อง โดยม้านิติก็ทำเข้มข้นขึ้น หรือบัญชีคริปโต โดยการป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพเข้าถึงเหยื่อ คือ แต่ละฝ่าย ทั้งผู้เสียหาย ธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม (Telco) รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ มีขอบเขตความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง และหากทำไม่ได้ ก็ควรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยใช้มาตรฐานที่ผู้กำกับดูแลขีดไว้อย่างชัดเจน”

ทั้งนี้ ในส่วนของพ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามป้องกันอาญชกรทางออนไลน์ หรือ ในความรับผิดชอบร่วมนั้น ซึ่งที่ผ่านมาศาลจะเป็นผู้ตัดสิน แต่ภายใต้พ.ร.ก.ใหม่ฉบับนี้ จะให้ผู้กำกับดูแล (Regulator) ในแต่ละหน่วยงานเป็นผู้ตัดสิน โดยแต่ละหน่วยงานจะต้องขีดเส้นกำหนดหน้าที่ให้ชัดเจน อย่างไรก็ดี ธปท.มีการเสนอกลไกให้มีคณะกรรมการของผู้กำกับในการตัดสิน

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่