แกนนำปชน. รุมย้อนทักษิณ ปราศรัยแดงกินส้ม ยันไม่เหมือนสตรอเบอรี่บางแผง บอกหวานฉ่ำ แต่ซื้อไปแล้วใจเปรี้ยว https://www.matichon.co.th/politics/news_5024112
‘ชัยธวัช’ โต้ ปราศรัย ‘แดงคายส้ม’ บอก ไม่เกี่ยวกับ ‘ทักษิณ’ ไม่อยู่ แต่ ‘ปชน.’ ไม่เคยทรยศ ปชช.หลังหาเสียง ถามกลับ เหมาะสมหรือไม่ ส่ง ‘สจ.ก๊อง’ ผู้ต้องหาคดีบอสกระทิงแดง ลง ‘นายก อบจ.’ ด้าน ‘พรรณิการ์’ เปรียบ ‘ส้ม’ ตรงปก กินแล้วดี ไม่เหมือน ‘สตรอเบอร์รี่’ บางแผง เวลาขาย บอกหวานฉ่ำ แต่ซื้อไปแล้วใจเปรี้ยว
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ จ.ลำพูน พรรคประชาชน นำโดย นาย
ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ น.ส.
พรรณิการ์ วานิช โฆษกขณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ นาย
วีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พรรคประชาชน พร้อมทีมผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เดินตลาดป่ารกฟ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
โดย นาย
ชัยธวัชให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ การมาในครั้งนี้เพื่อชนกับ นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ว่า จริงๆ แล้ว เรามารณรงค์ในช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อเชิญชวนชาวลำพูนและชาวเชียงใหม่ ให้ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งมากที่สุด เนื่องจาก อบจ.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สำคัญ
ส่วนกรณีที่ นาย
ทักษิณปราศรัยระบุ แดงคายส้มนั้น เรื่องการเลือกตั้งไม่ใช่ว่าใครกินใคร หรือสีไหนกินสีไหน แต่เป็นการใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดที่ประชาชนคิดว่าตอบโจทย์
นาย
ชัยธวัชย้ำว่า สีแดงคงไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของนาย
ทักษิณ หรือของพรรคเพื่อไทย แต่สีแดงคือสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สีแดงไม่ได้หายไปไหน อยู่ในใจทุกคน นาย
ทักษิณอาจจะคิดว่า ที่ผ่านมานาย
ทักษิณไม่อยู่ จึงแพ้การเลือกตั้งพรรคก้าวไกลในหลายเขต และมาบอกประชาชนคนเชียงใหม่ เชียงรายว่า นาย
ทักษิณกลับมาแล้ว แดงกินส้ม ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่นาย
ทักษิณไม่อยู่
เนื่องจากที่ผ่านมา ประชาชนภาคเหนือ ให้ความไว้วางใจเรามากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อมั่นในอุดมการณ์ และจุดยืนของเรา เพราะเรามีความชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่เคยทรยศหักหลังเสียง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ของประชาชน พวกเราสีส้มไม่เคยเอาเสียงเอาอำนาจที่ได้มาจากประชาชน ไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ มั่นใจว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ เราจะประสบความสำเร็จในภาคเหนือ
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากฝากไปถึงนาย
ทักษิณหรือไม่ นาย
ชัยธวัชกล่าวว่า ในหลายเวทีที่ผ่านมานาย
ทักษิณพยายามขอคะแนนเสียงจากประชาชนให้มาเลือก อบจ.จากพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่า อบจ.จะได้มาเป็นมือไม้ของนาย
ทักษิณ หรือของรัฐบาล แต่พรรคประชาชนยืนยันว่า อบจ.ไม่ใช่มือไม้พรรคการเมืองของใคร แต่เป็นองค์กรและกลไก ที่ทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง ของนายใหญ่ หรือของพรรคการเมืองรัฐบาล
ที่ผ่านมา นายทักษิณอาจจะพยายามบอกว่า ถ้ารัฐบาล และ อบจ.เป็นพวกเดียวกัน จะสามารถพัฒนาจังหวัดให้ดีขึ้น เรื่องนี้ก็ถูกพิสูจน์มาหลายยุคหลายสมัยแล้วว่า อบจ.ที่เป็นของพรรคเพื่อไทย หรือเครือข่ายทางการเมืองใด พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนในจังหวัด และการพัฒนาในแต่ละจังหวัดได้
นาย
ชัยธวัช ชี้ว่า 20 ปีที่ผ่านมา นายก อบจ.หลายที่ ก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย แต่ประชาชนก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างเชียงใหม่ ลำพูน ตนขอถามกลับว่า “
คุณทักษิณกล้าการันตีหรือไม่ ว่านายก อบจ. ทั้งสองจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ หรือ สจ.ก๊อง ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน พรรคเพื่อไทย และนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทำงานดีเป็นที่ถูกใจประชาชน”
นาย
ชัยธวัช ยังขอฝากนักข่าวไปถามนาย
ทักษิณด้วยว่า “
คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่ส่ง สจ.ก๊อง ซึ่งอยู่ในสถานะจำเลยคดีบอสกระทิงแดง มาให้ประชาชนเชียงใหม่ เลือกเป็นนายก อบจ.อีกสมัย”
ขณะที่ น.ส.
พรรณิการ์กล่าวเสริมว่า เรื่องแดงกินส้มไม่ต้องให้นาย
ทักษิณมาพูดประกาศบนเวทีปราศรัยก็ได้ เพราะผลการเลือกตั้งในปี’66 สะท้อนอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อสีแดง หรือเป็นคนเสื้อสีอื่น ก็หันมากินส้มกันทั่วทั้งภาคเหนือ ทั้งประเทศ ไม่ใช่เพราะนักการเมืองคนไหน แต่เป็นเพราะเขาเห็นว่า
ส้มเป็นผลไม้ตรงปก กินแล้วดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพประชาชนในระยะยาว ไม่เหมือนสตรอเบอร์รี่บางแผง เวลาขาย บอกประชาชนว่าหวานฉ่ำ แต่พอซื้อไปแล้วใจเปรี้ยว แล้วมาบอกประชาชนว่า จำใจบังคับให้เปรี้ยว ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ได้เปรี้ยวตอนซื้อไปแล้ว แต่เปรี้ยวตั้งแต่ก่อนซื้อ สินค้าไม่ตรงปก สุดท้ายเมื่อประชาชนรู้แล้ว ก็คงไม่กลับไปรับประทานอีก ย้ำว่า ส้มตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ไม่มีแบบแดง ที่หลังหาเสียงเสร็จเป็นสีเหลือง เราเป็นสีส้มตลอด
ลิซ่า หารือกลางสภา รถโดยสารเมืองคอน ติดป้ายเว็บพนัน ชี้รบ.เอาไม่อยู่แน่ หากดัน กาสิโน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5024290
ลิซ่า หารือกลางสภา รถโดยสารเมืองคอน ติดป้ายเว็บพนันออนไลน์ วิ่งผ่านสถานีตำรวจทุกวัน เหน็บรัฐบาลเอาไม่อยู่แน่ หากดัน กาสิโน ถูกกฎหมาย
เวลา 09.00 น. วันที่ 30 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่
โดย น.ส.
ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน หารือว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช มีการโฆษณาเว็บพนัน เป็นป้ายติดข้างรถโดยสารประจำทาง ที่สำคัญรถผ่านสถานีตำรวจทุกวัน ไม่รู้ว่าอยู่กันอย่างไร ทั้งนี้ ตนได้สอบถามไปยังผู้กำกับ สภ.นครศรีธรรมราช ทราบว่า ล่าสุดปลดป้ายแล้ว แต่ปัญหามันไม่จบแค่นี้
“
ขอให้แก้ปัญหาถึงต้นตอ และขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้สักที เพราะตอนนี้รัฐบาลกำลังผลักดันกาสิโนถูกกฎหมาย ถ้าเว็บพนันออนไลน์ยังสามารถทำได้แบบนี้ ดิฉันไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะเอาอยู่” น.ส.
ภคมน กล่าว
อสังหารายกลาง-เล็กซึมพิษ ‘รีเจ็กต์เรต’ รื้อแผนลงทุน เร่งระบายสต๊อก ลุยโมเดลเช่า
https://www.matichon.co.th/economy/news_5023945
อสังหารายกลาง-เล็กซึมพิษ ‘รีเจ็กต์เรต’ รื้อแผนลงทุน เร่งระบายสต๊อก ลุยโมเดลเช่า
วันที่ 29 มกราคม นาย
วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพ เพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2568 เบื้องต้นเน้นขายโครงการเดิม และเปิดตัวใหม่ 6 โครงการ เป็นแนวราบทั้งหมด โดยเป็นโครงการเลื่อนมาจากปี 2567 เพราะภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่แล้วยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว มีปัญหาหนี้ครัวเรือน การรีเจ็กต์เรตยังคงอยู่ระดับสูงถึง 70% ทำให้บริษัทเลื่อนเปิดโครงการมาเป็นปีนี้แทน ทั้งนี้ปัญหาใหญ่ของตลาดอสังหาฯในขณะนี้คือ คนไม่มีกำลังซื้อ การเข้าถึงสินเชื่อยากแทบจะทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะราคาต่ำ 3 ล้านบาทที่ปัญหามากสุด อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เช่น ลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ผ่อนปรนมาตรการLTV เป็นต้น
นาย
สุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2568 บริษัทเน้นการบาลานซ์สต๊อกเก่าที่พร้อมขายพร้อมโอนและการสร้างโครงการใหม่ โดยจะปรับลดการพัฒนาสินค้าสร้างเสร็จก่อนขายลงให้สอดรับกับระยะเวลาขาย เพื่อไม่ให้มีสต๊อกสินค้าไว้มากเหมือนที่ผ่านมา ยังเป็นการเพิ่มความระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เพราะหากสต๊อกมาก เช่น จากลูกค้ากู้ไม่ผ่าน บริษัทก็ต้องจัดงบทำการตลาดและการขายเพิ่มอีกรอบ
“
ปี 2568 ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องรีเจ็กต์เรต ที่แนวโน้มจะยังไม่ปรับตัวลดลง ทำให้สถานการณ์ตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการเน้นขายสินค้าเก่า เพื่อรักษากระแสเงินสด ยังไม่กล้าลงทุนใหม่ เพื่อรอเศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัว ส่วนของสถาพรเองก็ต้องรอดูจังหวะเวลาเปิดตัวโครงการใหม่เช่นกัน” นาย
สุนทรกล่าว
นาย
นิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมรีเจ้นท์ โฮม กล่าวว่า ปี 2568 บริษัทจะเริ่มก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ประมาณ 5 โครงการ สูง 8 ชั้น ประมาณ 5,000 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 1.2 ล้านบาทต่อยูนิต ได้แก่ ทำเลหัวหมาก พหลโยธิน 52 สุขุมวิท 93 สุขุมวิท 107 สุขุมวิท 109 ยังมีอีก 2 โครงการใหม่รออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ได้แก่ โครงการวุฒากาศและวงศ์สว่าง เป็นอาคารสูงเกิน 30 ชั้น ประมาณ 4,000 ยูนิต ส่วนโครงการที่พระราม4 รอความชัดเจนโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ภาครัฐจะพัฒนาย่านท่าเรือคลองเตย ถ้าหากบริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมขายราคา 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต คงไม่คุ้มกับราคาที่ดินปัจจุบัน จึงชะลอไว้ก่อน
“
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อตลาดอสังหาฯยังไม่ค่อยดี รีเจ็กต์สูง แต่กว่าคอนโดฯแต่ละโครงการจะสร้างเสร็จก็ใช้เวลาเป็นปี ซึ่งปัจจุบันเรามีสต๊อกเหลืออยู่ประมาณ 1,000 ยูนิตหรือ 10% จากที่เปิดไป 9,000 ยูนิต โดยมีแนวคิดปรับรูปแบบการขายใหม่ จากเดิมเป็นการขายขาด จะแบ่งห้องของแต่ละโครงการประมาณ 25% มาทำเป็นการให้เช่าแทน เพื่อรองรับกับเทรนตด์ตลาดปัจจุบัน ที่คนรุ่นใหม่หันมาเช่ามากกว่าซื้อ” นายนิรัตน์กล่าว
JJNY : รุมย้อนทักษิณปราศรัยแดงกินส้ม│ลิซ่าชี้เอาไม่อยู่แน่│อสังหารายกลาง-เล็กซึมพิษ‘รีเจ็กต์เรต’│ทรัมป์สั่งขยายกวนตานาโม
‘ชัยธวัช’ โต้ ปราศรัย ‘แดงคายส้ม’ บอก ไม่เกี่ยวกับ ‘ทักษิณ’ ไม่อยู่ แต่ ‘ปชน.’ ไม่เคยทรยศ ปชช.หลังหาเสียง ถามกลับ เหมาะสมหรือไม่ ส่ง ‘สจ.ก๊อง’ ผู้ต้องหาคดีบอสกระทิงแดง ลง ‘นายก อบจ.’ ด้าน ‘พรรณิการ์’ เปรียบ ‘ส้ม’ ตรงปก กินแล้วดี ไม่เหมือน ‘สตรอเบอร์รี่’ บางแผง เวลาขาย บอกหวานฉ่ำ แต่ซื้อไปแล้วใจเปรี้ยว
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ จ.ลำพูน พรรคประชาชน นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกขณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และ นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พรรคประชาชน พร้อมทีมผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เดินตลาดป่ารกฟ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
โดย นายชัยธวัชให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่ การมาในครั้งนี้เพื่อชนกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ว่า จริงๆ แล้ว เรามารณรงค์ในช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อเชิญชวนชาวลำพูนและชาวเชียงใหม่ ให้ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งมากที่สุด เนื่องจาก อบจ.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สำคัญ
ส่วนกรณีที่ นายทักษิณปราศรัยระบุ แดงคายส้มนั้น เรื่องการเลือกตั้งไม่ใช่ว่าใครกินใคร หรือสีไหนกินสีไหน แต่เป็นการใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดที่ประชาชนคิดว่าตอบโจทย์
นายชัยธวัชย้ำว่า สีแดงคงไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของนายทักษิณ หรือของพรรคเพื่อไทย แต่สีแดงคือสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สีแดงไม่ได้หายไปไหน อยู่ในใจทุกคน นายทักษิณอาจจะคิดว่า ที่ผ่านมานายทักษิณไม่อยู่ จึงแพ้การเลือกตั้งพรรคก้าวไกลในหลายเขต และมาบอกประชาชนคนเชียงใหม่ เชียงรายว่า นายทักษิณกลับมาแล้ว แดงกินส้ม ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการที่นายทักษิณไม่อยู่
เนื่องจากที่ผ่านมา ประชาชนภาคเหนือ ให้ความไว้วางใจเรามากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อมั่นในอุดมการณ์ และจุดยืนของเรา เพราะเรามีความชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่เคยทรยศหักหลังเสียง ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ ของประชาชน พวกเราสีส้มไม่เคยเอาเสียงเอาอำนาจที่ได้มาจากประชาชน ไปแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ มั่นใจว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ เราจะประสบความสำเร็จในภาคเหนือ
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากฝากไปถึงนายทักษิณหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ในหลายเวทีที่ผ่านมานายทักษิณพยายามขอคะแนนเสียงจากประชาชนให้มาเลือก อบจ.จากพรรคเพื่อไทย โดยอ้างว่า อบจ.จะได้มาเป็นมือไม้ของนายทักษิณ หรือของรัฐบาล แต่พรรคประชาชนยืนยันว่า อบจ.ไม่ใช่มือไม้พรรคการเมืองของใคร แต่เป็นองค์กรและกลไก ที่ทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง ของนายใหญ่ หรือของพรรคการเมืองรัฐบาล
ที่ผ่านมา นายทักษิณอาจจะพยายามบอกว่า ถ้ารัฐบาล และ อบจ.เป็นพวกเดียวกัน จะสามารถพัฒนาจังหวัดให้ดีขึ้น เรื่องนี้ก็ถูกพิสูจน์มาหลายยุคหลายสมัยแล้วว่า อบจ.ที่เป็นของพรรคเพื่อไทย หรือเครือข่ายทางการเมืองใด พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนในจังหวัด และการพัฒนาในแต่ละจังหวัดได้
นายชัยธวัช ชี้ว่า 20 ปีที่ผ่านมา นายก อบจ.หลายที่ ก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย แต่ประชาชนก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างเชียงใหม่ ลำพูน ตนขอถามกลับว่า “คุณทักษิณกล้าการันตีหรือไม่ ว่านายก อบจ. ทั้งสองจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ หรือ สจ.ก๊อง ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน พรรคเพื่อไทย และนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทำงานดีเป็นที่ถูกใจประชาชน”
นายชัยธวัช ยังขอฝากนักข่าวไปถามนายทักษิณด้วยว่า “คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่ส่ง สจ.ก๊อง ซึ่งอยู่ในสถานะจำเลยคดีบอสกระทิงแดง มาให้ประชาชนเชียงใหม่ เลือกเป็นนายก อบจ.อีกสมัย”
ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์กล่าวเสริมว่า เรื่องแดงกินส้มไม่ต้องให้นายทักษิณมาพูดประกาศบนเวทีปราศรัยก็ได้ เพราะผลการเลือกตั้งในปี’66 สะท้อนอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อสีแดง หรือเป็นคนเสื้อสีอื่น ก็หันมากินส้มกันทั่วทั้งภาคเหนือ ทั้งประเทศ ไม่ใช่เพราะนักการเมืองคนไหน แต่เป็นเพราะเขาเห็นว่า
ส้มเป็นผลไม้ตรงปก กินแล้วดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพประชาชนในระยะยาว ไม่เหมือนสตรอเบอร์รี่บางแผง เวลาขาย บอกประชาชนว่าหวานฉ่ำ แต่พอซื้อไปแล้วใจเปรี้ยว แล้วมาบอกประชาชนว่า จำใจบังคับให้เปรี้ยว ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ได้เปรี้ยวตอนซื้อไปแล้ว แต่เปรี้ยวตั้งแต่ก่อนซื้อ สินค้าไม่ตรงปก สุดท้ายเมื่อประชาชนรู้แล้ว ก็คงไม่กลับไปรับประทานอีก ย้ำว่า ส้มตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ไม่มีแบบแดง ที่หลังหาเสียงเสร็จเป็นสีเหลือง เราเป็นสีส้มตลอด
ลิซ่า หารือกลางสภา รถโดยสารเมืองคอน ติดป้ายเว็บพนัน ชี้รบ.เอาไม่อยู่แน่ หากดัน กาสิโน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5024290
ลิซ่า หารือกลางสภา รถโดยสารเมืองคอน ติดป้ายเว็บพนันออนไลน์ วิ่งผ่านสถานีตำรวจทุกวัน เหน็บรัฐบาลเอาไม่อยู่แน่ หากดัน กาสิโน ถูกกฎหมาย
เวลา 09.00 น. วันที่ 30 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่
โดย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน หารือว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช มีการโฆษณาเว็บพนัน เป็นป้ายติดข้างรถโดยสารประจำทาง ที่สำคัญรถผ่านสถานีตำรวจทุกวัน ไม่รู้ว่าอยู่กันอย่างไร ทั้งนี้ ตนได้สอบถามไปยังผู้กำกับ สภ.นครศรีธรรมราช ทราบว่า ล่าสุดปลดป้ายแล้ว แต่ปัญหามันไม่จบแค่นี้
“ขอให้แก้ปัญหาถึงต้นตอ และขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้สักที เพราะตอนนี้รัฐบาลกำลังผลักดันกาสิโนถูกกฎหมาย ถ้าเว็บพนันออนไลน์ยังสามารถทำได้แบบนี้ ดิฉันไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะเอาอยู่” น.ส.ภคมน กล่าว
อสังหารายกลาง-เล็กซึมพิษ ‘รีเจ็กต์เรต’ รื้อแผนลงทุน เร่งระบายสต๊อก ลุยโมเดลเช่า
https://www.matichon.co.th/economy/news_5023945
อสังหารายกลาง-เล็กซึมพิษ ‘รีเจ็กต์เรต’ รื้อแผนลงทุน เร่งระบายสต๊อก ลุยโมเดลเช่า
วันที่ 29 มกราคม นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพ เพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2568 เบื้องต้นเน้นขายโครงการเดิม และเปิดตัวใหม่ 6 โครงการ เป็นแนวราบทั้งหมด โดยเป็นโครงการเลื่อนมาจากปี 2567 เพราะภาวะเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีที่แล้วยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว มีปัญหาหนี้ครัวเรือน การรีเจ็กต์เรตยังคงอยู่ระดับสูงถึง 70% ทำให้บริษัทเลื่อนเปิดโครงการมาเป็นปีนี้แทน ทั้งนี้ปัญหาใหญ่ของตลาดอสังหาฯในขณะนี้คือ คนไม่มีกำลังซื้อ การเข้าถึงสินเชื่อยากแทบจะทุกเซกเมนต์ โดยเฉพาะราคาต่ำ 3 ล้านบาทที่ปัญหามากสุด อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เช่น ลดค่าโอนและจำนองเหลือ 0.01% ผ่อนปรนมาตรการLTV เป็นต้น
นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2568 บริษัทเน้นการบาลานซ์สต๊อกเก่าที่พร้อมขายพร้อมโอนและการสร้างโครงการใหม่ โดยจะปรับลดการพัฒนาสินค้าสร้างเสร็จก่อนขายลงให้สอดรับกับระยะเวลาขาย เพื่อไม่ให้มีสต๊อกสินค้าไว้มากเหมือนที่ผ่านมา ยังเป็นการเพิ่มความระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เพราะหากสต๊อกมาก เช่น จากลูกค้ากู้ไม่ผ่าน บริษัทก็ต้องจัดงบทำการตลาดและการขายเพิ่มอีกรอบ
“ปี 2568 ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องรีเจ็กต์เรต ที่แนวโน้มจะยังไม่ปรับตัวลดลง ทำให้สถานการณ์ตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการเน้นขายสินค้าเก่า เพื่อรักษากระแสเงินสด ยังไม่กล้าลงทุนใหม่ เพื่อรอเศรษฐกิจและกำลังซื้อฟื้นตัว ส่วนของสถาพรเองก็ต้องรอดูจังหวะเวลาเปิดตัวโครงการใหม่เช่นกัน” นายสุนทรกล่าว
นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมรีเจ้นท์ โฮม กล่าวว่า ปี 2568 บริษัทจะเริ่มก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ประมาณ 5 โครงการ สูง 8 ชั้น ประมาณ 5,000 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 1.2 ล้านบาทต่อยูนิต ได้แก่ ทำเลหัวหมาก พหลโยธิน 52 สุขุมวิท 93 สุขุมวิท 107 สุขุมวิท 109 ยังมีอีก 2 โครงการใหม่รออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ได้แก่ โครงการวุฒากาศและวงศ์สว่าง เป็นอาคารสูงเกิน 30 ชั้น ประมาณ 4,000 ยูนิต ส่วนโครงการที่พระราม4 รอความชัดเจนโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ภาครัฐจะพัฒนาย่านท่าเรือคลองเตย ถ้าหากบริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมขายราคา 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต คงไม่คุ้มกับราคาที่ดินปัจจุบัน จึงชะลอไว้ก่อน
“แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อตลาดอสังหาฯยังไม่ค่อยดี รีเจ็กต์สูง แต่กว่าคอนโดฯแต่ละโครงการจะสร้างเสร็จก็ใช้เวลาเป็นปี ซึ่งปัจจุบันเรามีสต๊อกเหลืออยู่ประมาณ 1,000 ยูนิตหรือ 10% จากที่เปิดไป 9,000 ยูนิต โดยมีแนวคิดปรับรูปแบบการขายใหม่ จากเดิมเป็นการขายขาด จะแบ่งห้องของแต่ละโครงการประมาณ 25% มาทำเป็นการให้เช่าแทน เพื่อรองรับกับเทรนตด์ตลาดปัจจุบัน ที่คนรุ่นใหม่หันมาเช่ามากกว่าซื้อ” นายนิรัตน์กล่าว