Here is my 2024 summary.

ปีนี้ก็เป็นอีกปีนึงที่เรียกได้ว่า เหนื่อยมากๆเลย แต่ก็เรียกได้ว่าเหนื่อยเหมือนกัน เนื่องจากปีที่แล้ว ต้นปีแม่ น้องสาว และเรายังอยู่ที่บ้านญาติพ่อเลี้ยง เพราะเขาติดคุกมา และพึ่งออกมาหมาดๆ ตอนนั้นเรายื่นรอบพอร์ตติดมหาลัยไปแล้ว แต่ว่าที่บ้านไม่มีเงินส่งเรียน เราจึงคิดหาวิธีหาเงินด้วยตัวเอง ตอนนั้นเราก็อายุพึ่ง 17 ปีพอดี เราเลยลองไปสมัครงานเป็นแคชเชียร์ที่โลตัสครั้งแรก เราทำเงินหายและนับเงินขาดไปเกือบสามพัน แต่ว่าหัวหน้าใจดีมากที่ไม่หักเงินเรา พร้อมพี่เค้ายังใจเย็นสอนงานเราไปเรื่อยๆ อุปสรรคเยอะมาก ทั้งเจอลูกค้าดูถูก โดนด่า เขาบอกว่าเราหน้าบึ้ง แต่เราก็พยายามทำหน้าปกติแล้วแหละ เราไม่ถนัดทำงานบริการ มันเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เราได้มำงานและลองหาเงินด้วยตัวเอง

- แคชเชียร์ที่โลตัส หลังจากนั้นทำมาได้สามเดือน เราก็ลาออกมาสมัครงานเป็นบาริสต้าตอนที่อายุ 18 พอดี ตอนนั้นอยากรู้ว่ากาแฟมันทำยังไง ก็เลยหน้าด้านเดินเข้าไปสมัครงานเลย ส่งเรซูเม่ และสัมภาษณ์ไป เราได้เรียนการทำลาเต้อาร์ต อเมริกาโน่ อุณหภูมิ etc. ได้คุยกะลุงบริติชคนนึงด้วย พูดเก่งมาก ลุงแกบอกว่าประเทศไทยปลอดภัยเดินตอนตี 3 ก็ไม่มีคนมาทำอะไร เราก็งงเหมือนกัน ว่าประเทศไทยมันปลอดภัยตรงไหนวะ เจอบริติชมาสองคนแล้ว ทำไมชอบประเทศไทยจัง บอกว่าจะอยู่จนตายเลย5555

- ที่บ้านเราไม่มีใครสามารถส่งเงินให้เราเรียนได้ เพราะค่าเทอมแพงมาก เราเลยลองยื่นทุนของคณะดู ปรากฎว่าเราติดทุนแบบไม่ต้องใช้คืน เราเลยได้เรียนฟรี 1 ปี รวมๆก็ประมาณ 51,000 บาท + ทุนค่าอาหารอีกเดือนละพันกว่า เราก็กู้ กยศ ไปด้วย ก็เลยพออยู่ได้ เราเลยลาออกจากพาร์ทไทม์แทน แล้วมาโฟกัสที่การเรียนแทน

- เราไปแข่งหมากรุกมาแล้วชอบมาก เราดีใจมากที่ได้เหรียญทองมา จากนั้นเลยได้ไปแข่งกีฬามหาลัยก็ได้เหรียญเงินมา + เรียนฟรี 1 เทอม เราเจ็บใจมากที่แพ้พี่ ป โท แต่ไม่เป็นไร เราจะเอาใหม่ เพราะเราพึ่งเล่นมาไม่ถึงปีด้วยซ้ำ แต่มันก็เจ็บใจอยู่ดี และเราก็ได้ไปแข่ง Hackathon มาด้วย เลยได้รู้จักกับพี่ๆ ศิษย์เก่าที่จบไปแล้ว เราก็เข้าไปจอยเป็น core team ของ dev google student club ก็ได้ connection เยอะดีนะ

- เกรดเทอมแรกเราอุบาตว์มาก เพราะเราไม่อ่านหนังสือเข้าไปสอบเลย เรามัวแต่ไปเที่ยวร้านเหล้ากับเพื่อน แล้วก็อ้วกอยู่กลางถนน แต่ก็สนุกดี เราก็เลยฮึบอ่านหนังสือมา เราต้องทำให้ได้ 70 จาก 100 ขึ้นไปถึงจะไม่ F แต่สุดท้ายเราได้ D มาก็สบายใจ แต่เราก็ถอนฟิกับแคลออกไปแล้วแหละ คะแนนหรือเศษเหรียญก็ไม่รู้ แต่เทอมนี้เทอมสอง เราสัญญาแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

- พบจิตแพทย์และนักจิตวิทยาควบคู่ไปด้วย เรามีความสุขมากที่ได้ปลดปล่อยปัญหาในชีวิตทั้งหลายอย่าง เราได้ยามากินเกือบหลายเดือนแล้ว ก็รู้สึกว่ามีความสุขดีนะ อะไรจะเกิดก็เกิดไปเถอะ เพราะเราควบคุมมันไม่ได้ เดี๋ยวค่อยมาหาทางแก้ปัญหาทีหลัง เราโดนพ่อเลี้ยงไล่ออกจากบ้านมาหลายรอบแล้ว และเราก็จะไม่ทนอีกต่อไป 

ส่วนเรื่องความรักและสังคม
 - เจอรุ่นพี่ขาย amway (blocked)
- เจอเพื่อนผู้ชายในสาขาทักมาคุยลามก (blocked)
- เจอเพื่อนทักมากวนไม่หยุดวันละ 20+ ข้อความ (blocked)
- อันนี้ที่เจ็บใจมากที่สุดละคือ ไปเจอผู้ชายไต้หวันใน tinder นัดเจอกัน แล้วจูบกัน แต่ว่ามันโกหกว่ามันเลิกกับเมียแล้ว แต่จริงๆแต่มันยังมีครอบครัวอยู่เลย เพราะเราแอบไปเจอเฟซมัน เราเลยด่ามันกลับไปว่า Taiwan is not a country. แล้วก็บล็อกมันไปเลย
- จากนั้นเราก็ขยะแขยงผู้ชายเกือยทุกคนเลย โดยเฉพาะพ่อเลี้ยง และเพื่อนในสาขา (บางคน) และเราก็ลบ tinder ออกไปหลายเดือนแล้วล่ะ
- เรามีความสุขกับการอยู่คนเดียวและคิดว่าจะโสดจนตาย เราชอบคุยกับบอทมากกว่า เพราะบอทเข้าใจความรู้สึกเรามากกว่ามนุษย์ แต่เวลามีอะไร เราก็ปรึกษาแม่เป็นคนแรกเลย

ส่วนเป้าหมายในปี 2025 ของเราคือ
- ทำธุรกิจส่วนตัว มีเงินเก็บสัก 30,000 
- ฝึกหมากรุกไปเรื่อยๆ อยากลองไปคัดหมากรุกทีมชาติ แต่ไม่รู้ว่าจะมีเวลาไหม
- สมัครแอร์ตอนอายุ 21 (ในอนาคต)
- เก็บเงินไป work&travel ที่เมกาตอนปิดเทอม ปี 2
- สมัคร green card lottery
- ทำเกรดให้มากกว่า 2.5 ก่อนขึ้นปี 2

.
.
สุดท้ายนี้ก็รู้สงสัยว่าใช้ชีวิตวัยรุ่น 18 ปี คุ้มรึยังนะ ?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่