นิทานสะท้านโลก เงินกงเต็กของเมืองอุษา

กระทู้สนทนา
คำเตือน เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นผลงานที่แต่งขึ้น ชื่อ ตัวละคร สถานที่ และเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ สถานที่ หรือบุคคลที่มีอยู่จริง ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว ถือเป็นเรื่องบังเอิญ

Warning: The story you are about to read is a work of fiction. Names, characters, places, and events are all the product of the author's imagination. Any resemblance to real events, places, or people, whether living or dead, is considered coincidental.

นี่คือเรื่องราวของต่างโลก ที่โลกนี้เคยมีสงครามโลกและผู้ชนะสงครามได้ขึ้นเป็นราชาของโลกก็คือเมืองอุษา (Usa City)

เมืองอุษาขึ้นเป็นราชาของโลกใบนี้ได้ไม่นานก็เริ่มแสดงสันดานอันธพาล  คือการออกเงินโดยที่ไม่อาศัยทองคำค้ำประกันและบังคับเมืองอื่นๆให้ยอมรับเงินนั้น ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เริ่มชาวโลกต่างเรียกเงินของเมืองอุษาว่าเงินกงเต็ก

เมืองต่างๆที่เหลือต่างก็ต้องอดทนยามเมื่อชาวเมืองอุษาเอาเงินกงเต็กมาซื้อขายข้าวของแลกเงินตราของประเทศตน ตลอดจนจำต้องเอาเงินกงเต็กมาเป็นทุนสำรองของประเทศ ทั้งหมดนี้ก็เพียงเพราะเมืองอุษาเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก

จนเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี สถานการณ์ก็แปรเปลี่ยน ตำแหน่งราชาของโลกของเมืองอุษาก็ถูกคุกคาม โดยเมืองแม่น้ำเหลือง (Yellow River City) ที่มีอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจจี้ติดหรืออาจจะแซงหน้าเมืองอุษาไปเสียแล้ว

เมื่อเมืองอุษาทำท่าจะเสียตำแหน่งผู้นำโลก เมืองใหญ่เมืองอื่นก็ไม่ทนใช้เงินกงเต็กกันอีกต่อไป เมืองใหญ่สี่ห้าเมืองต่างก็พร้อมใจประกาศยกเลิกใช้เงินกงเต็กและหันไปพึ่งพาเงินตราของเมืองแม่น้ำเหลืองแทน

เรื่องนี้ทำให้เจ้าเมืองอุษาร้อนใจมากเพราะหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะมีเมืองอื่นๆประกาศเลิกใช้เงินกงเต็กตามกันมา จนค่าเงิ
นกงเต็กตกไปสู่มูลค่าอันแท้จริงนั่นคือเศษกระดาษ เศรษฐกิจของเมืองอุษาจะพังยับเยินจนถึงขั้นวอดวายในที่สุด

เจ้าเมืองอุษา นายโจ ใบไม้เด่น หรือที่ทั่วโลกขนานนามว่าอันธพาลโจจึงได้กระทำการอันสุดโต่ง แสดงให้เมืองทั้งหลายในโลกนี้รับรู้ถึงความอันตรายของเมืองอุษา

เมืองอุษาคิดข่มขู่คนทั้งโลก!! หากคิดยกเลิกใช้เงินกงเต็กก็อย่าอยู่อย่างสงบสุขกันเลย มิสเตอร์ใบไม้เด่นหรือที่รู้จักกันว่าอันธพาลโจประกาศกร้าว

เริ่มที่การแพร่เชื้อโรคชนิดใหม่ใส่เมืองแม่น้ำเหลือง จากนั้นเชื้อโรคก็แพร่ลามกันทั่วโลก ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคลุ้มคลั่งเหมือนวัวบ้าจากนั้นก็เสียชีวิต ฉะนั้นโรคนี้จึงถูกขนานนามว่าโรคโคขวิด

เมืองอุษาพัฒนาเชื้อโรคนี้ให้ร้ายแรงขึ้น จากนั้นก็นำไปปล่อยใส่เมืองอื่นๆแล้วก็ขายวัคซีน วัคซีนที่เมืองอุษาปล่อยมาอันตรายมาก มีผลข้างเคียงจนผู้รับวัคซีนอาจเสียชีวิต ขณะที่วัคซีนของเมืองแม่น้ำเหลืองมีคุณภาพและปลอดภัย แต่ไม่วายถูกเมืองอุษาแพร่ข่าวเท็จด้อยค่าว่าเป็นวัคซีนด้อยคุณภาพ

โรคโคขวิดทำให้ประชาชนของเมืองต่างๆตายเป็นเบือไม่เว้นแม้แต่เมืองอุษาเอง หลายๆคนรู้กันว่าใครเป็นผู้ปล่อยเชื้อโรคแต่ไม่มีใครกล้าพูด

ต่อจากเชื้อโรคก็เป็นการใส่ร้ายสินค้าจากเมืองแม่น้ำเหลือง เป็นการใส่ร้ายลอยๆโดยไม่มีหลักฐานว่าโทรศัพท์มือถือจากเมืองแม่น้ำเหลืองมีการดักฟังข้อมูล โดยที่ความจริงแล้วแอพของเมืองอุษาต่างหากที่ดักฟังข้อมูล เรื่องเหล่านี้เคยถูกแฉเป็นข่าวซุบซิบไปทั่วโลกโดยนายเอ็ดเตลิด สโนว์การ์เด้น อดีตเจ้าหน้าที่สืบราชการลับเมืองอุษา

ความบ้าคลั่งยังไม่หยุดเมื่ออันธพาลโจบงการให้เกิดสงครามไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสงครามเมืองหมีขาวกับเมืองหมีน้อย หรือสงครามล้างเผ่าพันธุ์ของเมืองแดนศักดิ์สิทธิ์กับกลุ่มผู้อยู่อาศัยเก่าก่อน อาชญากรรมและการก่อการร้ายทั่วโลก ล้วนมีเงาร่างของอันธพาลโจเป็นผู้บงการทั้งสิ้น

การข่มขู่โลกได้ผลชะงัก ไม่มีเมืองไหนคิดยกเลิกการใช้เงินกงเต็กเพิ่มขึ้นอีก ทั้งๆที่รู้ว่าความวุ่นวายทั้งหลายเกิดขึ้นเพราะใคร แต่ก็ต้องอดทนแกล้งโง่ ก็ใครใช้ให้เป็นเมืองน้อยอำนาจน้อยกันละ

แต่ทุกอย่างยังไม่ปลอดภัย เมืองแม่น้ำเหลืองนั้นพัฒนาเร็วจนเห็นชัดว่าจะทิ้งห่างเมืองอุษาในเวลาไม่นาน อาจเป็นเวลายี่สิบสามสิบปีข้างหน้า แล้วกระแสการยกเลิกใช้เงินกงเต็กก็อาจมีขึ้นอีก

นางสาวกลับไม่ลา แหกจารีตรองเจ้าเมืองอุษาจึงได้เสนอแผนการอันแยบยล นั่นคือเปลี่ยนเงินกงเต็กให้เป็นเงินดิจิทัล แล้วบงการให้เหล่านักการเมืองคนขายชาติของเมืองเล็กเมืองน้อยเหล่านั้นนำเงินดิจิทัลมาใช้เป็นทุนสำรองในคลังเมืองของตน!!

นั่นเท่ากับว่าเมืองเล็กเมืองน้อยเหล่านั้นเอาเงินจริงๆมีค่าของตนมาแลกเงินกงเต็กที่ซับซ้อนขึ้นในรูปแบบดิจิทัล เงินกงเต็กของเมืองอุษาที่เห็นชัดว่าจะเสื่อมค่าเสื่อมราคากลายเป็นเศษกระดาษในอนาคตอันใกล้ไม่กี่สิบปี

สุนัขรับใช้ของเมืองอุษาที่แฝงตัวอยู่ในเมืองเล็กเมืองน้อยต่างได้รับคำสั่งจากนางสาวกลับไม่ลา มือขวาแห่งอันธพาลโจกันทั่วหน้า

จงขายชาติบ้านเมืองแล้วเผยแพร่เฟคนิวส์!!

ณ เมืองขวานทอง (Golden Axe City)  ทาสแห่งเมืองอุษาพร้อมแล้วที่จะทรยศบ้านเมืองเพื่อการคงอยู่ของเงินกงเต็ก!!

เมืองขวานทองอดีตผู้ขายข้าวอันดับหนึ่งของโลก ทุกวันนี้กลับตกต่ำเป็นเพียงย่านขายอาหารตามสั่งราคาถูกสำหรับนักท่องเที่ยว และแหล่งค้าบริการของคนหลากเพศ ชนช้างน้อย ขุดทอง ผีขนุน ทุกอย่างเพียบพร้อมที่ขวานทองแลนด์

ความพินาศทางเศรษฐกิจของเมืองขวานทองเป็นเพราะชายคนหนึ่ง เขาคือนายเหลี่ยม ชินโกงกิน และน้องสาวของเขา นางสาวหญิงเละ ชินโกงกิน

ก่อนนายเหลี่ยมจะเล่นการเมือง เมืองขวานทองพัฒนาอย่างรวดเร็วจนจะกลายเป็นเสือตัวที่ห้าของทวีป แม้ผู้ปกครองเมืองจะมีข่าวโกงกินเป็นกังฉิน เมืองขวานทองก็เดินหน้าไปได้

จนถึงยุคที่นายเหลี่ยมเป็นเจ้าเมืองทุกอย่างก็เปลี่ยนไป การโกงบ้านโกงเมืองที่สาหัสกว่ารัฐบาลกังฉินเก่าก่อนเป็นร้อยเท่า ตัวเลขการโกงที่สูงจนไม่เคยเห็นมาก่อน ผลาญทรัพย์สินในคลังของเมือง จนเมืองทำท่าอยู่ไม่ได้ โดยนายเหลี่ยมและน้องสาวนางสาวหญิงเละ

ขณะที่นายเหลี่ยมกระทำหยาบช้า สิทธิเสรีภาพของประชาชนชาวเมืองก็ตกต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน สื่อถูกคุกคาม และข่าวปลอมก็มีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนทหารประจำเมืองทนไม่ไหวต้องขับไล่นายเหลี่ยมและนางสาวหญิงเละออกไปจากเมืองขวานทอง

แต่นายเหลี่ยมก็กลับมามีอำนาจในเมืองขวานทองอีกจนได้เพราะมีเมืองอุษาหนุนหลัง ครั้งนี้นายเหลี่ยมจะกระทำการเย้ยกฏหมายบ้านเมืองอย่างไรก็ไม่มีใครกล้าต่อกร เพราะอำนาจของเมืองอุษาคุ้มกบาลนายเหลี่ยมอยู่

สิ่งที่นายเหลี่ยมต้องกระทำการตอบแทนเมืองอุษาก็แค่ผลักดันโครงการเงินดิจิทัล เพื่อที่จะรับเงินกงเต็กมาเป็นทุนสำรองของคลังเมืองในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นและยากยกเลิกยิ่งขึ้น เพราะเงินดิจิทัลมีสกุลเงินของเมืองต่าง ๆ ปะปนกันมั่วซั่ว รวมถึงเงินกงเต็กแห่งเมืองอุษาที่พร้อมจะหมดค่าในอนาคตอันใกล้

เมืองขวานทองจะเสียหายอย่างหนักอย่างไรนายเหลี่ยมไม่สน นายเหลี่ยมรู้แต่ว่าตราบใดที่มีเมืองอุษาคุ้มกะลาหัว นายเหลี่ยมก็ไม่ต้องนอนคุก และมีอำนาจโกงบ้านกินเมืองต่อไปหลายแสนล้านเป็นปกติสุข

สื่อในเมืองต่างรับใช้เลียแข้งขานายเหลี่ยม สื่อที่ไม่ยอมก้มหัวนายเหลี่ยมก็เอาเงินฟาดหัวเสีย จากนั้นสื่อที่มีศักดิ์ศรีก็กลายสภาพเป็นสุนัขรับใช้อย่างรวดเร็ว

กาลเวลาผ่านไปขณะที่นายเหลี่ยมกำลังผลักดันโครงการเงินดิจิทัลกงเต็กในเมืองขวานทองอยู่ ทางด้านเมืองอุษาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำคือเปลี่ยนจากนายโจ ใบไม้เด่น เป็นนายดั๊มป์ เพี๊ยนเรียกพี่

นายเหลี่ยมส่งลูกสาวคือนางสาวเอ๋งเอ๋ง ชินโกงกินไปสวามิภักดิ์มิสเตอร์เพี๊ยนเรียกพี่โดยทันที ไม่ได้คำนึงเลยว่าชาวเมืองขวานทองจะคิดอย่างไรในยามเห็นนางสาวเอ๋งเอ๋งกระดิกหางแสดงความภักดีแก่นายดั๊มป์ (นี่คือเรื่องราวต่างโลกครับ ตระกูลชินโกงกินเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีหางสีแดง มีเกล็ดสีเงินสีทองขึ้นตามตัว)

ณ เมืองอุษา พิธีแสดงความภักดีแก่นายดั๊มป์ เจ้าเมืองชราอดีตนักมวยปล้ำ ในพิธีนี้นายดั๊มป์ต้องถอดกางเกงโชว์ก้นเหี่ยวๆให้ข้าทาสบริวารบรรจง kiss ass หรือจูบตูดแสดงความภักดี

เอ๋งเอ๋ง...หญิงสาวแห่งตระกูลชินโกงกินแม้จะแต่งงานมีผัวแล้ว แต่พัฒนาการทางสมองของเธอเทียบเท่าเด็กไม่กี่ขวบ หมอลงความเห็นว่าเอ๋งเอ๋งป่วยเป็นโรคซอฟต์เบรนพาวเวอร์ แปลเป็นไทยว่าโรคพลังสมองนิ่ม

เธอไม่รู้หรอกว่าเธอมาเมืองอุษาทำไม ทั้งหมดที่เธอมาเพียงเพราะพ่อและลูกน้องของพ่อเธอบอกให้มา ทำนองว่าพยายามอยู่นอกเมืองขวานทองเข้าไว้ โดยเฉพาะช่วงเปิดสภาเมืองหรือช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจเจ้าเมือง เพราะหากเธออยู่ความหายนะย่อมบังเกิดแก่นายเหลี่ยมและคณะเป็นแน่

อ้อ ลืมบอกไป...เอ๋งเอ๋งเป็นเจ้าเมืองขวานทองคนปัจจุบันนะครับ แม้เธอจะอยู่ในฐานะหุ่นเชิดไปไหนมาไหนต้องมีองครักษ์พิทักษ์เจ้าเมืองอยู่ตลอดเวลาก็ตาม

เอ๋งเอ๋งพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะ ยามนักข่าวถามเรื่องน้ำท่วมเธอกลับตอบไปว่าเธอรักผัวมาก ก็เธอป่วยเป็นโรคซอฟต์เบรนพาวเวอร์ทำให้ระดับสติปัญญาตกต่ำพอๆกับอาสาวของเธอที่ป่วยเป็นโรคสมองข้าวเน่า

พิธีการแสดงความภักดีเริ่มแล้ว นายดั๊มป์ถอดกางเกงโชว์ตูดเหี่ยวๆ อุ้ยตายเมื่อกี๊ขี้แล้วลืมเช็ดก้น ช่างมันฉันไม่แคร์ เลยตามเลยแล้วกัน

เอ๋งเอ๋งไม่คิดมาก เธอไม่ค่อยมีความคิดเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เธอก้มลงไปที่ตูดเหี่ยวๆตรงหน้าแล้วกระทำพิธี kiss ass อันศักดิ์สิทธิ์ เอ๊ะ...กลิ่นอะไรคุ้นๆ ช่างเถิดรีบจูบรีบเลียจะได้รีบกลับบ้านไปหาผัวคนใต้

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เงินกงเต็กของเมืองอุษาจะไปรอดหรือไม่ และเมืองขวานทองจะพินาศภายใต้การบริหารเมืองของตระกูลชินโกงกินหรือเปล่า ชะตากรรมของเอ๋งเอ๋งจะได้อยู่ที่เมืองขวานทองต่อไปหรือจะถูกทหารรักษาเมืองปฏิวัติแบบเดียวกับนายเหลี่ยม โปรดติดตามตอนต่อไป

To be continued...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่