นานๆจะมีเวทีที่เหล่า HR ปล่อยของ เล่าความสำเร็จเบื้องหลังขององค์กร ที่เกิดจากทุนมนุษย์เหล่าคนทำงาน เมื่อบริษัทติดท็อป 50 องค์กรในฝันที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงาน ฟัง 10 HR จากยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจเล่าภารกิจ ความมุ่งมั่นสร้างสถานที่ทำงานอย่างมีความสุข
 
"เวิร์คเวนเจอร์”(WorkVenture) ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์สร้างแบรนด์นายจ้าง และโซลูชั่นด้านทาเลนต์ชั้นนำของไทย และเจ้าของการสำรวจ “Top 50 Companies in Thailand” จัดต่อเนื่องมา 7 ปีแล้ว
 
ทุกปีที่ประกาศองค์กรใดติดโผ Top 50 Companies in Thailand 2025 คนรุ่นใหม่ต่างให้ความสนใจอย่างมาก เพราะต่างต้องการรู้ว่า “ตรงใจ” ที่ตนเองหรือไม่ โดยปี 256 แชมป์ 5 สมัยอย่าง “กูเกิล ประเทศไทย” ยังคงเป็นองค์กรในฝันอันดับ 1 ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากสุด ขณะที่บิ๊กเทคอย่าง "Apple" หลุดโผไปเลย จาก Top 5 ในปี 2567 

ส่วนท็อป 10 มีรายชื่อดังนี้อันดับ 2 เอสซีจี อันดับ 3 ปตท. อันดับ 4 คือ 4.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย อันดับ 5 ช้อปปี้ ประเทศไทย(Shopee) อันดับ 6 บางจาก อันดับ 7 ไลน์(LINE) อันดับ 8 บีเจซี บิ๊กซี อันดับ 9 เอสซีบี เอ็กซ์ และอันดับ 10บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)

นายเย็นส์ โพลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด เปิดเผยว่า Top 50 Companies in Thailand จัดทำขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกผ่านการสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ของกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่จำนวน 12,559 คน อายุ 22-35 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยไม่จำกัดเพศของผู้ตอบแบบสำรวจ

การสำรวจ ได้ให้มีการระบุองค์กรที่มีความโดดเด่นด้านแบรนด์นายจ้าง และได้รับการจดจำในฐานะองค์กรอันดับต้น (Top-of-Mind) รวมทั้งปัจจัยที่ช่วยดึงดูดและสร้างความพึงพอใจให้กับคนรุ่นใหม่ โดยใช้เวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม ปี 2567
   
ผลสำรวจ Top 50 Companies in Thailand 2025 ที่น่าสนใจพบว่าบริษัทที่ติดอันดับในปีนี้ส่วนใหญ่มีจุดเด่นในการใช้ โซเชียลมีเดีย และการสร้าง พื้นที่สื่อ รวมถึง คอนเทนต์ของตนเอง เพื่อเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ สามารถถ่ายทอดบรรยากาศการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และชีวิตการทำงาน ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ขึ้น เช่น โคตรคูล กู๊ดเดย์ ที่ต่างมีพื้นที่สื่อที่แข็งแกร่งของตนเอง

นอกจากการผลิตคอนเทนต์ทั่วไปแล้ว ยังมีคอนเทนต์ที่สะท้อนชีวิตการทำงานในองค์กร ทำให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่ติดอันดับมากที่สุดในปี 2568 พบว่า อันดับ 1 ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค(FMCG : Fast-Moving Consumer Goods) ยังคงครองพื้นที่อันดับ 1 ต่อจากปี 2567 โดย 9 บริษัท ติดอันดับ ได้แก่ ไทยเบฟ ยูนิลีเวอร์ มิตรผล โอสถสภา สหพัฒน์ ซันโตรี่เป๊ปซี่โค พีแอนด์จี บุญรอดบริวเวอรี่ ยูนิชาร์ม ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ธนาคารและสถาบันการเงิน มี 8 บริษัท ได้แก่ เอสซีบีเอ็กซ์ เคแบงก์ บิตคับ เอสซีบี กรุงศรี กรุงไทย อีวาย ตลาดหลักทรัพย์ฯ

งานใหญ่ที่เหล่าแม่ทัพทรัพยากรบุคคลหรือ HR หรือตัวแทนขึ้นไปรับรางวัล ต่างประกาศอ้าแขนรับคนรุ่นใหม่เข้าร่วมงานอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ นายจีรวัฒน์ ตั้งบวรพิเชฐ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการสร้างแบรนด์องค์กรนายจ้าง บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ จำกัด ให้ความเห็นว่า ปี 2568 สิ้นสุด “ยุคส.ว.:สูงวัย” หรือ Baby Boomer ซึ่งเป็นคนที่มีอายุระหว่าง 61-79 ปี เป็น “วัยเกษียณสำราญ” แล้ว โลกทำงานในอนาคตจึงเป็นของเจนเนอเรชั่น XYZ

เมื่อองค์กรใหญ่เป็นที่หมายตาของคนรุ่นใหม่ เหล่า HR ของท็อป 10 จาก 50 องค์กรในฝัน จึงมีประโยคสั้นๆถึงคนรุ่นใหม่ในมุมแตกต่างกันไป

   ท็อป 5 องค์กรในฝันที่คนรุ่นใหม่อยากทำงาน
เริ่มที่แชมป์ 5 สมัยซ้อนอันดับ 1 อย่าง “กูเกิล ประเทศไทย” ที่ตอกย้ำพันธกิจเดิมตั้งแต่วันแรก ในการจัดการข้อมูลทั่วโลกเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย และมีประโยชน์ใน Era ปัจจุบัน พร้อมทั้งจะนำเทคโนโลยีเอไอ มาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ส่วนอันดับ 2 อย่าง เอสซีจี(ขึ้นจากอันดับ 3 ปี 2567) องค์กรร้อยปีที่มีรายได้ระดับ “แสนล้านบาท” จากบริษัทในเครือ 300 แห่ง ครอบคลุมประเทศไทยและตลาดต่างประเทศ เอสซีจี ติดทำเนียบองค์กรในฝัน 6 ปีซ้อน เป็นบริษัทที่ “เปิดกว้าง” ให้ทำงานในสายงานที่หลากหลาย และยังมุ่งมั่นเป็นองค์กรแห่งโอกาสแก่ “คนทุกรุ่น”
   
อันดับ 3 บรรษัทพลังงานแห่งชาติ “ปตท.” (ขึ้นจากอันดับ 4 ปี 2567)ที่มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้คนไทย พร้อมเดินหน้าทรานสฟอร์มธุรกิจเพื่อเป็นยักษ์ปิโตรเคมีครบวงจร ยาหอมการได้รับรางวัลเปรียบเสมือนมอบให้คนไทยทุกคน ที่มีส่วนสร้างองค์กรให้เจริญเติบโตทุกวันนี้ และเป็นองค์กรมั่งคั่ง รายได้ระดับ “ล้านล้านบาท” และมี “กำไร” ระดับ “แสนล้านบาท”
คลื่นรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาแรงไม่พอ “ทุนจีน” ยังเข้ามามีบทบาทในเวทีการค้าโลก รวมถึงประเทศไทย 

อันดับ 4 (ขึ้นจากอันดับ 8 ปี 2567)องค์กรในฝันอย่าง “โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย” ค่ายยานยนต์ญี่ปุ่น ยืนหนึ่งในประเทศไทยมายาวนาน พร้อมจะเป็นองค์กรที่มีการขับเคลื่อนให้เกิดสังคมที่ทุกคนมีความสุข(Happiness Mobility for All) ยกให้ “พนักงานหลังบ้าน” คือบุคลากรที่สร้างสรรค์สิ่งดี มีคุณค่า และยกระดับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในองค์กรหรือ EVP สู่ “ผู้ทรงคุณค่า” หรือ Most Valuable Player: MVP นั่นเอง
   
โตโยต้า เป็นองค์กรเก่าแก่ในประเทศไทย มีคนทำงานร่วมหัวจมท้ายจนเกษียณ ทั้งมีความหลากหลายทางเพศ เพราะธุรกิจคือการผลิตรถยนต์ และมีโรงงาน องค์กรจึงเต็มไปด้วยคนทำงานใช้แรงงาน ใช้ฝีมือหรือ Blue Collar สัดส่วนถึง 80% ขณะที่คนทำงานออฟฟิศหรือ White Collar มี 20%

อันดับ 5 ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง ช้อปปี้ ประเทศไทย(Shopee)(ขึ้นจากอันดับ 22 เดิมปี 2567 คือ Apple) นับตั้งแต่สร้างฐานทัพธุรกิจในไทย องค์กรล้วนอยู่คู่ “คนรุ่นใหม่” มาโดยตลอด จึงเข้าใจสิ่งที่คนทำงานเหล่านั้นมองหา ทั้งความท้าทายใหม่ๆ โอกาส “ลองผิดลองถูก” โอกาสได้เรียนรู้ และสร้างสรรค์สังคมที่น่าทำงาน บุคลากรมีวิธีการคิดหรือ Mindset ตลอดจนเป้าหมาย(Goal) การทำงานคล้ายกัน
   
50 องค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่อยากร่วมงาน
อันดับ 6 อีกบริษัทพลังงาน “บางจาก”(ขึ้นจากอันดับ 12 ปี 2567 และเดิมคือ Agoda) ยกองค์กรได้รับการออกแบบสถานที่ทำงานจากหัวใจและความต้องการของพนักงาน เพื่อให้การทำงานเต็มไปด้วยความสดชื่น และผ่อนคลาย(Ralax) จึงถือโอกาสขอบคุณพนักงานที่ทำให้องค์กรเป็น work place Happiness สำหรับคน “ทุกเจนเนอเรชั่น”

อันดับ 7 อย่าง ไลน์(LINE)(ตกอันดับจากที่ 2 ปี 2567) องค์กรที่มีรูปแบบการทำงาน “ไฮบริด” และบุคลากรสามารถทำงานที่ออฟิศ และที่ไหนในโลก

อันดับ 8 บีเจซี บิ๊กซี(ขึ้นจากอันดับ 10 ในปี 2567) บริษัทไม่เพียงเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต แต่ยังดูแล “สุขภาพการเงินพนักงาน” เมื่อสุขภาพการเงินส่วนตัวดีจะส่งผลต่อการทำงาน จนบริษัทเป็นหนึ่งในองค์กรยอมรับ “คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วย” โดยบีเจซี บิ๊กซี คู่ประเทศไทยยาวนาน 143 ปี ยังมุ่งมั่นพัฒนาองค์กร เพื่อขับเคลื่อนที่ดีสร้างการเติบโตคู่สังคมไทย

อันดับ 9 ยานแม่ “เอสซีบี เอ็กซ์” (ขึ้นจากอันดับ 15 ในปี 2567) เชื่อว่าองค์กรที่ยอดเยี่ยมเริ่มจากบุคลากร จึงเปิดกว้างให้พนักงานมีโอกาสสร้างเรียนรู้ต่อเนื่อง เป็นแรงบัลดาลใจ ในการสร้างสรรค์องค์กรในฝัน ซึ่งบุคคลากรทั้งพนักงานและผู้บริหารคือรางวัลแห่งความสำเร็จนี้
ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มอาเซียน อาณาจักรแสนล้านบาท 

อันดับ 10 อย่าง “ไทยเบฟเวอเรจ” (หล่นจากอันดับ 9 ในปี 2567) ที่มีพนักงานหลายหมื่นชีวิต เคลื่อนธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก การดูแลพนักงานถือว่า “จัดเต็ม” ทั้งยังเปิดโอกาส “ไร้ขีดจำกัด” ให้คนทำงาน เปิดรับทุกความหลาหลาย และในฐานะบริษัทเครื่องดื่มใหญ่สุดในอาเซียน จึงตระหนักคุณค่าของบุคลากร มีความเชื่อมั่นในศักยภาพทุกคน เพื่อที่จะสร้างสรรค์แบ่งปันคุณค่าเติบโต และย้ำโอกาสไร้ขีดจำกัดสำหรับทุกคน

Cr. https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1163980