ผมไม่ได้ทำงานประจำ แต่ก็พอมีกำลังทรัพย์ เวลาเกิดอุบัติเหตุ (ทำประกันไว้) หรือไม่สบายก็จะไปโรงพยาบาลเอกชน (ไม่ได้ทำประกันสุขภาพ) คราวนี้เรื่องเกิดว่าร่างกายมีผื่นขึ้นอาจจะแพ้ฝุ่นหรืออะไรก็ตามตอนแรกก็มีประมาณฝ่ามือนึงที่ต้นขา ก็ไม่เล็กแต่ไม่ใหญ่ก็เลยไปร้านขายยา เภสัชก็แนะนำยามาทา เหมือนจะดีขึ้นช่วงแรกแต่ก็ไม่หาย แถมนกลับลามไปที่เข่าข้อพับเพิ่ม
คราวนี้ไม่ไหวแล้วตัดสินใจจะไปโรงพยาบาลเอกชน เลยโทรไปถามระบุขอแพทย์ด้านผิวหนัง ปรากฎว่าหมอไม่เข้าวันนี้ต้องรอพรุ่งนี้ ถามว่ารอได้ไหม ก็รอได้แหละ แต่อยู่ๆก็คิดขึ้นมาได้ว่าเราน่าจะมีสิทธิบัตรทอง เลยกดดูว่ามีไหมอยู่ที่ไหน พอดูแล้วก็เป็นคลินิกไม่ไกลมาก เลยลองโทรไปถาม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าเปิด
ตัดสินใจไป คิดว่าอาจจะได้ครีมมาทาหรือยามากิน หรือถ้าไม่ได้อะไร พรุ่งนี้ค่อยไปโรงพยาบาล พอเข้าไปเจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรประชาชนและเช็คและก็บอกว่าไม่เคยใช้บริการ ก็ต้องลงทะเบียนอะไรนิดหน่อย ซึ่งไม่นาน เพราะเป็นตอนเย็น คนไข้มีแค่คนเดียวก่อนหน้าผม เสร็จแล้วก็ให้เข้าห้องตรวจ พบหมอ หมอดูผื่นและก็ตกใจนิดหน่อยเพราะบอกลามเยอะนะ แล้วหมอก็บอกว่าเดี๋ยวฉีดยาเลย คราวนี้เป็นผมที่ตกใจถามว่าขนาดนั้นเลยเหรอ หมอบอกไม่พอด้วยเดี๋ยวให้ยาทายากินไปด้วย แต่ควรฉีด แถมฉีด 2 เข็มด้วย
ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก พยาบาลก็ไปเตรียมยา ที่หมอสั่ง ก็ประมาณยาแก้แพ้ ลดผื่น ลดคัน ทั้งฉีด ทา และ กิน พยาบาลฉีดให้ 2 แขน อธิบายละเอียดว่าแขนจะตรึงๆหน่อย ก่อนกลับผมก็ถามว่าต้องเสียเงินไหม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่เสีย
นี่ผ่านมา 3-4 วัน อาการดีขึ้นมาก ยังไม่หายขาด แต่ไม่ลุกลาม และเริ่มจางลง เดี๋ยวรอกินยาหมด และครบอาทิตย์ว่าจะต้องกลับไปไหม เพราะหมอไม่ได้นัด แต่ก็บอกว่าลองดูว่าเป็นไง ถ้าไม่หายก็กลับมา
สรุปคือดีมากๆ เป็นสิทธิที่ดีมากๆจริงๆครับ ดูแลดี ยานี่จัดให้เต็มที่แบบตกใจ ลองหาข้อมูลดูถ้าฉีดยาแบบนี้+เจอหมอ+ยาทายากิน ไปโรงพยาบาลเอกชน 5000 บาท ไม่รู้จะพอไหม แต่นี่ฟรีทุกอย่าง อันนี้ต้องบอกเลยคนไทยได้สิทธินี้คือดีมากๆเลยครับ เพราะเรื่องเจ็บป่วยมันเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะรวยจะจน ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ สำหรับคนไม่ได้ทำงานประจำ ไม่ได้มีเงินเก็บ เจ็บป่วยขึ้นมาอยากให้นึกถึงสิทธิบัตรทองครับ
++ รีวิวใช้สิทธิบัตรทองครั้งแรกในชีวิต คือมันดีมากๆจริงๆ ++
คราวนี้ไม่ไหวแล้วตัดสินใจจะไปโรงพยาบาลเอกชน เลยโทรไปถามระบุขอแพทย์ด้านผิวหนัง ปรากฎว่าหมอไม่เข้าวันนี้ต้องรอพรุ่งนี้ ถามว่ารอได้ไหม ก็รอได้แหละ แต่อยู่ๆก็คิดขึ้นมาได้ว่าเราน่าจะมีสิทธิบัตรทอง เลยกดดูว่ามีไหมอยู่ที่ไหน พอดูแล้วก็เป็นคลินิกไม่ไกลมาก เลยลองโทรไปถาม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าเปิด
ตัดสินใจไป คิดว่าอาจจะได้ครีมมาทาหรือยามากิน หรือถ้าไม่ได้อะไร พรุ่งนี้ค่อยไปโรงพยาบาล พอเข้าไปเจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรประชาชนและเช็คและก็บอกว่าไม่เคยใช้บริการ ก็ต้องลงทะเบียนอะไรนิดหน่อย ซึ่งไม่นาน เพราะเป็นตอนเย็น คนไข้มีแค่คนเดียวก่อนหน้าผม เสร็จแล้วก็ให้เข้าห้องตรวจ พบหมอ หมอดูผื่นและก็ตกใจนิดหน่อยเพราะบอกลามเยอะนะ แล้วหมอก็บอกว่าเดี๋ยวฉีดยาเลย คราวนี้เป็นผมที่ตกใจถามว่าขนาดนั้นเลยเหรอ หมอบอกไม่พอด้วยเดี๋ยวให้ยาทายากินไปด้วย แต่ควรฉีด แถมฉีด 2 เข็มด้วย
ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก พยาบาลก็ไปเตรียมยา ที่หมอสั่ง ก็ประมาณยาแก้แพ้ ลดผื่น ลดคัน ทั้งฉีด ทา และ กิน พยาบาลฉีดให้ 2 แขน อธิบายละเอียดว่าแขนจะตรึงๆหน่อย ก่อนกลับผมก็ถามว่าต้องเสียเงินไหม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่เสีย
นี่ผ่านมา 3-4 วัน อาการดีขึ้นมาก ยังไม่หายขาด แต่ไม่ลุกลาม และเริ่มจางลง เดี๋ยวรอกินยาหมด และครบอาทิตย์ว่าจะต้องกลับไปไหม เพราะหมอไม่ได้นัด แต่ก็บอกว่าลองดูว่าเป็นไง ถ้าไม่หายก็กลับมา
สรุปคือดีมากๆ เป็นสิทธิที่ดีมากๆจริงๆครับ ดูแลดี ยานี่จัดให้เต็มที่แบบตกใจ ลองหาข้อมูลดูถ้าฉีดยาแบบนี้+เจอหมอ+ยาทายากิน ไปโรงพยาบาลเอกชน 5000 บาท ไม่รู้จะพอไหม แต่นี่ฟรีทุกอย่าง อันนี้ต้องบอกเลยคนไทยได้สิทธินี้คือดีมากๆเลยครับ เพราะเรื่องเจ็บป่วยมันเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะรวยจะจน ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ สำหรับคนไม่ได้ทำงานประจำ ไม่ได้มีเงินเก็บ เจ็บป่วยขึ้นมาอยากให้นึกถึงสิทธิบัตรทองครับ