คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
มาขอรีวิวสิทธิบัตรทองครั้งแรกของเราบ้าง เมื่อ 11 ปีก่อนหลังจากออกจากงานประจำมาเป็นฟรีแลนซ์และสิทธิประกันสังคมหมดและไม่ได้ต่อ จังหวะช่วงนั้นเจอเพจที่เค้าแชร์เกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลว่าอยู่ที่ไหนเลยลองตรวจสอบบ้าง พบว่าเรามีสิทธิรักษาอยู่ที่ รพ.สต.ในซอยบ้านกะสิทธิรองที่รพ.ประจำจังหวัด (ร่วมจ่าย 30 บาท)
ปะเหมาะเคราะห์ร้ายคืนนั้นไปห้ามศึกแมวเลยโดนกัดเข้าที่มือขวา 6 รู เลยต้องรีบล้างน้ำฟอกสบู่ทำความสะอาดแล้วออกไปหาหมอ ตอนแรกไป รพ.เอกชนที่เคยใช้บริการอยู่ เตรียมเงินไป 7-8,000 แต่กลายเป็นว่าเนื่องจากโดนกัดครั้งแรกต้องฉีดทั้งวัคซีนและเซรุ่ม แล้วด้วยน้ำหนักตัวตอนนั้นเมื่อคำนวณปริมาณโดสยาแล้วครั้งนั้นต้องเสียค่ารักษาประมาณ 20,000
เลยคุยกับบุรุษพยาบาลที่ทำแผลให้ว่าไม่สะดวกเรื่องค่าใช้จ่ายจะขอไป รพ.รัฐ เค้าก็เอาใบปฏิเสธการรักษามาให้เซ็นและกำชับให้รีบไปคืนนั้น (ตอนแรกบอกเค้าว่าจะไปวันรุ่งขึ้น) ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณ รพ.เอกชนนั้นด้วยที่ทำแผลเบื้องต้นให้โดยไม่คิดเงิน
คืนนั้นเรานั่งพี่วินต่อไปที่รพ.รัฐตามสิทธิ เป็นการไปรพ.นั้นครั้งแรก ก็ยื่นบัตร ปชช. ทำบัตรประจำตัวผู้ป่วยครั้งแรก แล้วเข้าแผนกฉุกเฉินทำแผลเทสยารวมทั้งฉีดยาทั้งบาดทะยักและพิษสุนัขบ้า รวมๆ แล้วโดนไป 12 เข็ม ยิ่งตอนโดนฉีดเข้าแผลที่หลังมือขวา 6 เข็มด้วยนะ ปวดแปล๊บบบบ ขนาดเป็นคนไม่กลัวเข็มยังน้ำตาแทบไหล
ถึงเวลาจ่ายเงิน เสียไป 30 บาท คราวนี้ได้ไหลจริงๆ ซึ้งมากจากแทนที่จะเสีย 20,000 พอมาใช้สิทธิบัตรทอง จ่ายไปแค่ 30 บาท รู้สึกขอบคุณจริงๆ กับสิทธิที่ได้รับ
ปะเหมาะเคราะห์ร้ายคืนนั้นไปห้ามศึกแมวเลยโดนกัดเข้าที่มือขวา 6 รู เลยต้องรีบล้างน้ำฟอกสบู่ทำความสะอาดแล้วออกไปหาหมอ ตอนแรกไป รพ.เอกชนที่เคยใช้บริการอยู่ เตรียมเงินไป 7-8,000 แต่กลายเป็นว่าเนื่องจากโดนกัดครั้งแรกต้องฉีดทั้งวัคซีนและเซรุ่ม แล้วด้วยน้ำหนักตัวตอนนั้นเมื่อคำนวณปริมาณโดสยาแล้วครั้งนั้นต้องเสียค่ารักษาประมาณ 20,000
เลยคุยกับบุรุษพยาบาลที่ทำแผลให้ว่าไม่สะดวกเรื่องค่าใช้จ่ายจะขอไป รพ.รัฐ เค้าก็เอาใบปฏิเสธการรักษามาให้เซ็นและกำชับให้รีบไปคืนนั้น (ตอนแรกบอกเค้าว่าจะไปวันรุ่งขึ้น) ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณ รพ.เอกชนนั้นด้วยที่ทำแผลเบื้องต้นให้โดยไม่คิดเงิน
คืนนั้นเรานั่งพี่วินต่อไปที่รพ.รัฐตามสิทธิ เป็นการไปรพ.นั้นครั้งแรก ก็ยื่นบัตร ปชช. ทำบัตรประจำตัวผู้ป่วยครั้งแรก แล้วเข้าแผนกฉุกเฉินทำแผลเทสยารวมทั้งฉีดยาทั้งบาดทะยักและพิษสุนัขบ้า รวมๆ แล้วโดนไป 12 เข็ม ยิ่งตอนโดนฉีดเข้าแผลที่หลังมือขวา 6 เข็มด้วยนะ ปวดแปล๊บบบบ ขนาดเป็นคนไม่กลัวเข็มยังน้ำตาแทบไหล
ถึงเวลาจ่ายเงิน เสียไป 30 บาท คราวนี้ได้ไหลจริงๆ ซึ้งมากจากแทนที่จะเสีย 20,000 พอมาใช้สิทธิบัตรทอง จ่ายไปแค่ 30 บาท รู้สึกขอบคุณจริงๆ กับสิทธิที่ได้รับ
แสดงความคิดเห็น
++ รีวิวใช้สิทธิบัตรทองครั้งแรกในชีวิต คือมันดีมากๆจริงๆ ++
คราวนี้ไม่ไหวแล้วตัดสินใจจะไปโรงพยาบาลเอกชน เลยโทรไปถามระบุขอแพทย์ด้านผิวหนัง ปรากฎว่าหมอไม่เข้าวันนี้ต้องรอพรุ่งนี้ ถามว่ารอได้ไหม ก็รอได้แหละ แต่อยู่ๆก็คิดขึ้นมาได้ว่าเราน่าจะมีสิทธิบัตรทอง เลยกดดูว่ามีไหมอยู่ที่ไหน พอดูแล้วก็เป็นคลินิกไม่ไกลมาก เลยลองโทรไปถาม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าเปิด
ตัดสินใจไป คิดว่าอาจจะได้ครีมมาทาหรือยามากิน หรือถ้าไม่ได้อะไร พรุ่งนี้ค่อยไปโรงพยาบาล พอเข้าไปเจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรประชาชนและเช็คและก็บอกว่าไม่เคยใช้บริการ ก็ต้องลงทะเบียนอะไรนิดหน่อย ซึ่งไม่นาน เพราะเป็นตอนเย็น คนไข้มีแค่คนเดียวก่อนหน้าผม เสร็จแล้วก็ให้เข้าห้องตรวจ พบหมอ หมอดูผื่นและก็ตกใจนิดหน่อยเพราะบอกลามเยอะนะ แล้วหมอก็บอกว่าเดี๋ยวฉีดยาเลย คราวนี้เป็นผมที่ตกใจถามว่าขนาดนั้นเลยเหรอ หมอบอกไม่พอด้วยเดี๋ยวให้ยาทายากินไปด้วย แต่ควรฉีด แถมฉีด 2 เข็มด้วย
ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก พยาบาลก็ไปเตรียมยา ที่หมอสั่ง ก็ประมาณยาแก้แพ้ ลดผื่น ลดคัน ทั้งฉีด ทา และ กิน พยาบาลฉีดให้ 2 แขน อธิบายละเอียดว่าแขนจะตรึงๆหน่อย ก่อนกลับผมก็ถามว่าต้องเสียเงินไหม เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าไม่เสีย
นี่ผ่านมา 3-4 วัน อาการดีขึ้นมาก ยังไม่หายขาด แต่ไม่ลุกลาม และเริ่มจางลง เดี๋ยวรอกินยาหมด และครบอาทิตย์ว่าจะต้องกลับไปไหม เพราะหมอไม่ได้นัด แต่ก็บอกว่าลองดูว่าเป็นไง ถ้าไม่หายก็กลับมา
สรุปคือดีมากๆ เป็นสิทธิที่ดีมากๆจริงๆครับ ดูแลดี ยานี่จัดให้เต็มที่แบบตกใจ ลองหาข้อมูลดูถ้าฉีดยาแบบนี้+เจอหมอ+ยาทายากิน ไปโรงพยาบาลเอกชน 5000 บาท ไม่รู้จะพอไหม แต่นี่ฟรีทุกอย่าง อันนี้ต้องบอกเลยคนไทยได้สิทธินี้คือดีมากๆเลยครับ เพราะเรื่องเจ็บป่วยมันเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะรวยจะจน ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ สำหรับคนไม่ได้ทำงานประจำ ไม่ได้มีเงินเก็บ เจ็บป่วยขึ้นมาอยากให้นึกถึงสิทธิบัตรทองครับ