ผมอายุ 40 กลางๆแล้ว ทำงานออฟฟิศด้วยคอมทั้งวัน จากเบื้องต้นมีอาการเจ็บคอบ่าเรื้อรัง และบ้างวันมีอาการไม่สบายตัว ล้า ปวดตามเนื้อตัวชัดเจน (ซึ่งตอนหลังเข้าใจว่าอาจ คือ อาการชาที่คนเป็นมากๆเป็นกัน) จนไปตรวจละเอียดกับแพทย์กายภาพพบว่าหมอนรองกระดูกที่คอปลิ้นเคลื่อนใกล้เส้นประสาท (แพทย์ใช้คำนั คือ ยังไม่ทับเส้นประสาท) นอกจากนี้ยังมีอาการกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่างตึงมากจนกระดูกสันหลังตรงเป๊ะ ทำให้ถ้าแอ่นหลังจะรู้สึกเจ็บ ซึ่งแพทย์บอกเลยมาจากการนั่งนานๆ เบื้องต้นแพทย์ให้ทานยาแก้ปวดปลายประสาทไปก่อน ควรคู่กับการออกกำลังกาย, เปลี่ยนพฤติกรรม และยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
เพิ่มอีกหน่อย ขอถามว่าสรุปอาการโรคนี้มันร้ายแรง หรือน่ากังวลไหมครับ คือ ผมไปรักษา 2 ที่ ที่นึงบอกเป็นไปตามวัยกินยา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็พอประคองไปได้ อีกที่บอกถึงแก่ก็ไม่ได้เป็นกันทุกคน ถ้าต้องเพิ่มยาเรื่อยๆก็เริ่มน่ากังวล ให้เอาผลไปคุยกับหมอกระดูกต่อ ว่าควรรักษาอะไรเพิ่มไหม เลยเริ่มสับสน
คำถาม คือ ยังควรนั่งทำงานกับคอมทั้งวันไหมครับ วันนึง 8 ชม.แน่อย่างต่ำ หรือควรเลิกดี ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอะไรนักแล้ว ซึ่งเอาตรงๆถ้ายังทำงานปัจจุบันไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรม และยืดเหยียดได้เท่าที่แพทย์ต้องการแน่ครับ และคงไม่สามารถขอที่ทำงานขอลดหรือเปลี่ยนลักษณะงานได้ ประมาณว่าขอผมทำงานเบากว่าชาวบ้านเพราะเริ่มป่วยคงไม่ได้ เลยมีความกังวลว่าอาการอาจรุนแรงขึ้นถ้ายังทำงานประจำต่อ แบบที่คนอื่นเค้าเป็น เช่น มือเท้าอ่อนแรง ชาตามปลายมือเท้า และควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ถ้ามันกระทบคุณชีวิตมากๆเรื่องเงินก็เป็นเรื่องรองไปละ เลยมีความคิดที่จะลาออกจากงานถ้าไม่เร็วๆนี้ ก็คงไม่เกิน 2 ปี ถ้าลาออกจะไปทำงานอิสระเกี่ยวกับการลงทุน ถ้าไม่ฟุ่มเฟื่อยอะไรก็พออยู่ได้แน่นอน (พูดชัดๆ คือ บริหารทรัพย์สินตัวเอง ยังชีพด้วยดอกเบี้ยกับปันผล)
หมอนรองกระดูกที่คอปลิ้นเคลื่อนใกล้เส้นประสาท นี่ยังควรนั่งทำงานกับคอมทั้งวันไหมครับ
เพิ่มอีกหน่อย ขอถามว่าสรุปอาการโรคนี้มันร้ายแรง หรือน่ากังวลไหมครับ คือ ผมไปรักษา 2 ที่ ที่นึงบอกเป็นไปตามวัยกินยา ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็พอประคองไปได้ อีกที่บอกถึงแก่ก็ไม่ได้เป็นกันทุกคน ถ้าต้องเพิ่มยาเรื่อยๆก็เริ่มน่ากังวล ให้เอาผลไปคุยกับหมอกระดูกต่อ ว่าควรรักษาอะไรเพิ่มไหม เลยเริ่มสับสน
คำถาม คือ ยังควรนั่งทำงานกับคอมทั้งวันไหมครับ วันนึง 8 ชม.แน่อย่างต่ำ หรือควรเลิกดี ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอะไรนักแล้ว ซึ่งเอาตรงๆถ้ายังทำงานปัจจุบันไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรม และยืดเหยียดได้เท่าที่แพทย์ต้องการแน่ครับ และคงไม่สามารถขอที่ทำงานขอลดหรือเปลี่ยนลักษณะงานได้ ประมาณว่าขอผมทำงานเบากว่าชาวบ้านเพราะเริ่มป่วยคงไม่ได้ เลยมีความกังวลว่าอาการอาจรุนแรงขึ้นถ้ายังทำงานประจำต่อ แบบที่คนอื่นเค้าเป็น เช่น มือเท้าอ่อนแรง ชาตามปลายมือเท้า และควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ ถ้ามันกระทบคุณชีวิตมากๆเรื่องเงินก็เป็นเรื่องรองไปละ เลยมีความคิดที่จะลาออกจากงานถ้าไม่เร็วๆนี้ ก็คงไม่เกิน 2 ปี ถ้าลาออกจะไปทำงานอิสระเกี่ยวกับการลงทุน ถ้าไม่ฟุ่มเฟื่อยอะไรก็พออยู่ได้แน่นอน (พูดชัดๆ คือ บริหารทรัพย์สินตัวเอง ยังชีพด้วยดอกเบี้ยกับปันผล)