ก้างปลาติดคอ เรื่องที่ดูเล็กน้อย ไม่อันตราย ..... (เตือนเพื่อนเพื่อเป็นอุทาหรณ์)

ผู้เขียนขออนุญาต เขียนเพื่อเตือนเพื่อนสมาชิกพันทิป หรือ เพื่อนๆที่ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ก้างปลาติดคอ แล้วใช้วิธีตามที่ค้นหาเจอใน Internet หรือ แม้กระทั่งคำสอนจากคนโบราณถึงวิธีการเอาก้างปลาออก  ขอเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เขียนเลยนะครับ
     เหตุเกิดเมื่อช่วงประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 23  ม.ค 68   ผู้เขียนได้ทำการซื้อปลาเผา (ปลานิล) มากิน ซึ่งก็กินบ่อยมาก ก้างปลาติด หรือ อยู่ในคอ ก็หลายครั้ง ทั้งก้างใหญ่ ก้างเล็ก แต่ทุกครั้งก็เอาออกมาได้โดยวิธีที่หลายๆท่านคุ้นเคย ทั้งใช้มือล้วงไปดึงออก เอาข้าวก่อนใหญ่ๆ กลืนตามลงไป กินน้ำอุ่นเยอะๆ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ น่าจะถึงคราวซวยเลยก็ได้  กินแค่คำแรก พอกลืนปลาเข้าไป รู้สึกได้ทันทีว่าก้างปลาติดคอ  ก็หลุดกินต่อ แล้วพยามยามเอาก้างปลาออกเหมือนปกติก่อนหน้า แต่ครั้งนี้ไม่ใช่และไม่โชคดีแบบก่อนหน้าอีกแล้ว พยายามททุกวิถีทางที่เคยทำแล้วประสบความสำเร็จ ทั้งไฟฉาย ทั้งโทรศัพท์ ทั้งกล้องส่องขนาดจิ๋ว ส่องเข้าไปเพื่อหา "ก้างปลานิลทมิฬ 2568"  ให้เจอให้จงได้ หาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลใน google ทำยังไงก็ไม่ออก ความรู้สึกเหมือนก้างติดไม่ลึก กลืนข้าวม น้ำ หรือแม้กระทั่งน้ำลาย ก็เจ็บ พยามยามทำทุกอย่างจนถึงเวลา 20.00 น ซึ่งผู้เขียน วิเคราะห์แล้วว่า ท่าไม่ดีแน่ หากยังดันทุรังที่จะเอาออกเองอาจจะไปเฝ้าพระถั๋งซำจั๋ง ก่อนเวลาอันควรเป็นแน่ ถึงจะเป็นครั้งแรกที่ไปโรงพยาบาลด้วยเหตุก้างปลาติดคอ มันคงน่าอายมากๆ แต่ก็ไม่ไหวจริงๆ  จึงตัดสินใจอาบน้ำ เปลี่ยนเลื้อ พร้อมกับควบม้าคันเก่า ไปโรงพยาบาลที่ผู้เขียนใช้สิทธิประกันสังคม เหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไปที่ต้องใช้บริการตามสิทธิที่จ่ายเงินสมทบแต่ละเดือน 750 บาท  ระหว่างไปโรงพยายบาลก็กลืนน้ำลายก็เจ็บแบบกลืนไม่ได้เลย ปวดร้าวไปทั้งคอ แต่ก็ด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยมสุขล้น ว่าไปหาคุณหมอ คุณหมอมีประสบการณ์และเครื่องมือที่ได้มาตราฐาน คงคีบออกมาไม่ยาก ไปถึงโรงพยาบาลสิรินธร (ขออนุญาตเอ่ยชื่อนะครับ เพราะเป็นโรงพยาบาของรัฐ หากมีผู้เกี่ยวข้องเข้ามาอ่านอยากให้ปรับปรุงในบ้างเรื่อง เข้าใจว่าคนไข้เยอะ แต่ก็ขอความเห็นใจจากผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมบ้าง) ประมาณ 20.30 น ไปถึงโรงพยาบาลติดต่อห้องฉุกเฉินขั้นตอนบอกเลยว่ายุ่งยากมาก เข้าใจว่าเป็นขั้นตอน แต่มันเยอะเกินไปหรือเปล่า จุดแรก เริ่มติดต่อจุดคัดกรองผู้ป่วย แจ้งว่าก้างปลาติดคอ (ยื่นบัตร ปปช+ประกันสังคม) จุดนี้กดบัตรคิวรอ ประมาณ 10 นาที ไปจุดที่ 2 จุดเวชระเบียน (ยื่นบัตร ปปช+ประกันสังคม)  สอบถามข้อมูลเหมือนเดิม รอประมาณ 5 นาที จึงปจุดที่ 3 จุดรอตรวจ จุดนี้คือจุดวิกฤตของผู้ป่วยทั้งหลายจริงๆ การเฝ้ารอการรับการตรวจของคุณหมอนานมาก ความรู้สึกของผู้เขียนรอนานประมาณหนังภาคต่อของ squid game 2 (ในความรู้สึกเลยก็ได้) ตอนนั้นเจ็บกลืนน้ำลายเริ่มไม่ได้แล้ว ระยะเวลารอคุณพยาบาลเรียกให้รอคิวเวลาประมาณ 21.20  ระยะเวลา ชั่วเคี้ยวหมากแหลก ของผู้เขียนก็มาถึง คุณหมอเรียกตรวจและเข้ามาสอบถามว่าเป็นอะไร ก้างปลาชนิดไหน ติดตอนกี่โมง หลังจากให้ปากคำกับคุณหมอครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ในใจก็คิดว่า เอาละ ได้เวลาเอาออกแล้วสินะ.... แต่เปล่าเลย คุณหมอหายไปอีก เกือบๆ 40 นาที ระยะเวลาชั่วเคี้ยวหมาแหลกอีกรอบ สรุปคุณหมอเริ่มตรวจตอนเวลาเกือบ  22.00 น คุณหมอให้นั่งบนเตียงที่จัดเตรียมไว้ (เตียงเสริม เข็นมาจากไหนไม่รู้) หลังจากนั้นก็ไม่พูดพร่ำ ทำเพลงแล้ว ให้ผู้เขียน นอนอ้าปาก โดยใช้ยาชาแบบฉีดพ่นเข้าไปในปาก แล้วใช้คีมที่มีกล้องส่องกดหา "ก้างปลานิลทมิฬ 2568"  พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ คือไม้ไอติมกับคีมล็อคแบบปากนกแก้ว ที่มีปลายติดลำกล้องลำและจอแสดงผลแบบ LCD พร้อมจอภาพขนาดไม่เกิน 3 นิ้วติดอยู่ที่อุปกรณ์  ทั้งกดลิ้น กดตรงจุดที่มีเลือดออก เพื่อให้ "ก้างปลานิลทมิฬ 2568"  โผล่มาแสดงตัวให้ได้ ซึ่งผู้เขียนก็อยากจะบอกคุณหมอเหลือเกินว่าสิ่งที่คุณหมอทำมันกระทุ้งไปถึงลิ้นไก่ ทำให้รู้สึกจะอาเจียน ไอ สำลักน้ำลายมากๆๆ คุณหมอใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็เลิกล้มความตั้งใจที่จะค้นหา "ก้างปลานิลทมิฬ 2568" พร้อมกับแจ้งข่าวดีกับผมว่า ให้มาพรุ้งนี้ อีกรอบนะ รอบนี้อุปกรณ์ไม่พร้อม ต้องมาพบคุณหมอ หู คอ จมูก อีกครั้ง เดี๋ยวคุณหมอจะทำใบนัดให้ ระยะเวลาที่คุณหมอดำเนินเอกสารบรจงลายมือส่งมอบ "ก้างปลานิลทมิฬ 2568"  ให้กับคุณหมอ หู คอ จมูก ใช้เวลาอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง เห็นจะได้ก็เดินถือ เอกสารสำคัญใบนัดพบอพทย์ในวันถัดไป  บอกคืนนี้ คนไข้กลับไปก่อนแล้วค่อยมาใหม่วันพรุ้งนี้อีกครั้ง   (ขอออนุญาตเล่าเหตุการณ์ในกระทู้ถัดไปต่อนะครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่