ในช่วงเวลาที่ลมร้อนเริ่มคลายกลิ่นไอของละอองฝนเริ่มหล่นจางๆจากฟ้าของทุกปี มันยังห่างจากช่วงนี้อยู่ 3 - 4 เดือน
ข้างบ้านผมมีเสียงนึงได้ยินเป็นประจำ บางช่วงเวลาก็ห่างๆ บางช่วงเวลาก็ถี่ๆ และบางทีก็มีมากๆรัวเหมือนเสียงฝนตก บางทีก็เสียงเปาะแปะ บางทีก็ดังตุบแบบของตกจากที่สูง ลมพัดแรงๆจะได้ยินเสียงกระทบพื้นดังระงม ยิ่งกลางคืนดึกๆเที่ยงคืนตีหนึ่งจะดังชัดมาก
เสียงนั้นเกิดมาจากต้นหว้าต้นหนึ่ง เสียงที่ได้ยินคือเสียงลูกหว้าหล่นกระทบพื้นดินที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง
พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเหล่าภิกษุว่า“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ในชมพูทวีปชนิดใดชนิดหนึ่ง ต้นหว้าโลกกล่าวว่า เป็นยอดของต้นไม้เหล่านั้น แม้ฉันใด โพธิปักขิยธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ปัญญินทรีย์ บัณฑิตกล่าวว่า เป็นยอดแห่งโพธิปักขิยธรรมเหล่านั้น เพราะเป็นไปเพื่อความตรัสรู้ ฉันนั้นเหมือนกัน”
ต้นหว้าหรือลูกหว้า พันธุ์ไม้สำคัญที่ถูกกล่าวถึงในพุทธประวัติหรือพระธรรมบท ถ้าชื่อของไทยและอินเดียหรือบาลีเรียกตรงกัน หลังบ้านผมมีอยู่ต้นนึง สูงใหญ่ให้ร่มเงา เป็นที่พักอาศัยของนกในยามนอกฤดูและเป็นแหล่งอาหารของนกและสรรพสัตว์นานาชนิดเมื่อถึงเวลามันติดผลซึ่งก็เป็นปลายๆฤดูร้อนและต้นฤดูฝนของทุกปี
ประโยชน์ของลูกหว้าและต้นหว้าในทางโภชนาการหรือทางยามีมากเกินจนจำไม่หวาดไม่ไหว ต้องค้นข้อมูลดูถึงรู้ว่าเป็นของควรเคี้ยว เป็นของดีมีประโยชน์สูงมากอีกอย่างนึง
สำหรับผมแล้วมันเป็นแหล่งวิตามินหรือสารอาหารประจำปี ถ้ามันออกก็กิน กินเกือบทุกวัน กินเพื่อให้ได้สารอาหารบางอย่างที่อาจจะไม่มีในผลไม้ตัวอื่นหรือถึงตัวอื่นจะมีแต่บางทีก็ไม่มีกะตังค์ไปซื้อมากิน
ลูกหว้าดิบสีเขียวๆขาวๆแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดง และสีม่วงจนกระทั่งม่วงเข้มจนเห็นเป็นสีดำ เนื้ออ่อนๆมีรสหวานอมเปรี้ยวถ้าแก่ธรรมดาและหวานจัดอมฝาดเมื่อแก่จัด เราจะรู้ได้ยังไงว่าแก่จัด ลูกที่แก่แล้วก็ร่วงหล่นลงมา ถ้าเอาแผ่นพลาสติกมารองเอาไว้ก็จะได้ลูกหว้ารสชาติดี ดูให้ไม่มีรอยช้ำหรือรอยแทะกินของสัตว์ก็เอาไปล้างๆกินได้อร่อยไม่เหมือนใคร
ผมได้ยินเสียงลูกหว้าตกอยู่เสมอๆ บางทีก็ปนกับเสียงนกร้องเซ็งแซ่ ทั้งร้องดีใจในหมู่เดียวกันหรือร้องระวังภัย ร้องด่าทอกันเมื่อมีการเข้าใกล้กันเกินไปของนกต่างสายพันธุ์ เป็นช่วงเวลาดีๆของนก เป็นช่วงที่มีอาหารกินอย่างเหลือเฟือโดยไม่ต้องบินไปไหนไกล ที่นี่มีของกิน ข้างๆไปอีกไม่ไกลมีน้ำดื่ม ลูกหว้าที่อยู่บนต้นเป็นอาหารของนก กระรอกกระแต แมลง เมื่อมันตกลงสู่พื้นยังมีสัตว์เล็กๆกว่านั้นหรือแมลงดินมากินเป็นอาหาร และถึงที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน แลกเปลี่ยนเคมีจากดินชั้นล่างขึ้นสู่ดินชั้นบน เติมอินทรีย์วัตถุให้ระบบนิเวศน์
ที่ดีอีกอย่างก็คือกินได้นี่แหละ มันเป็นอาหารของคนเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ขาดอาหารหรือมีภาวะต้องการสารอาหาร บางวันที่เป็นวันดีๆละมั้ง ผมเดินไปเดินมาแล้วคิดในใจว่าจะต้องปีนขึ้นไปเก็บลูกหว้ามากินซักจานนึง ท่ามกลางสายตางวยงงสงสัยของเมียและลูกๆว่าตาแก่นี่จะขึ้นไปทำอะไร จะปีนขึ้นไปจริงๆเหรอ
รวบรวมพละกำลังและความกล้าพิจารณาทุกอย่างแล้วผมก็ขึ้นไปบนบันไดนั่นจริงๆ หนึ่งขั้นสองขั้น สามขั้น สี่ขั้น เอาละมั้ง เราน่าจะขึ้นมาพอแล้ว เรามาอยู่ในจุดสูงสุดที่เราพอใจแล้ว ดูซิว่าในระดับชีวิตขั้นนี้มีสิ่งใดที่เราปรารถนาบ้าง ชายเกือบแก่คนนึงอยู่ในสภาพที่เดินไม่ค่อยจะได้ ยักแย่ยักยัน เอากล้องถ่ายรูปห้อยคอมือนึงถือฝาหม้อสนามปีนบันได้อลูมิเนียมขึ้นไปถึงกิ่งหว้า
มุมมองแปลกใหม่ของโลกใบเดิม แสงแดดรำไรส่องทะลุช่องว่างของใบไม้ นกหลายตัวกระพือปีกย้ายไปย้ายมา แมลงเล็กน้อยหลายตัวบินส่ายไปมาส่งเสียงหงึ่งหงั่ง บางตัวก็มาเกาะตามตัวตามแขน ถ้าดูแล้วไม่ใช่ผึ้งใช่แตนผมมักจะปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้มันใช้ชีวิตของมัน เดี๋ยวมันก็ไป คิดๆดูแล้วหลายชีวิตที่ขึ้นมาบนต้นหว้านี่เพื่อหวังจะกินลูกหว้า ทั้งนกทั้งกระแตหรือแมลงต่างๆเชี่ยวชาญการอยู่บนที่สูง นกบางตัวก็จับกิ่งไม้ห้อยหัวลงจิกกินลูกหว้าอย่างชำนาญและเปี่ยมสุข บางตัวจิกกินที่นั่น บางตัวคาบกลับไป ให้นกบางตัวที่ไม่ได้มาและเฝ้ารออยู่ที่รัง
คิดๆดูแล้วผมคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับลูกหว้าน้อยที่สุด คือเก่งสู้นกก็ไม่ได้ ลูกๆผมถ้าจะกินหว้าก็จับกิ่งดึงโน้มลงมาหรือเอาไม้เขี่ยๆให้มันตกลงพื้น มันจะยังไม่แตกเพราะรองไว้ด้วยใบไม้แห้ง ถ้าเมียผมต้องการลูกหว้าจะเอามากินหรือเก็บไว้ใส่บาตรหรือปั่นเป็นน้ำลูกหว้า ก็แค่ปูรองพื้นด้วยแผ่นพลาสติกแล้วดึงขย่มด้วยไม้ ลูกหว้าที่แก่ๆก็จะตกลงมาโดยง่าย
มีแมวหลายตัวมักจะมาใช้ชีวิตอยู่ละแวกนี้ ไม่ได้มากินหว้าแต่มาอาศัยร่มเงารำไร ได้คอยซุ่มจับนกหรือกระโดดตะครุบให้พอได้ความตื่นเต้นตามประสาแมวๆ
โอ้เอ้อ้อยอิ่งอยู่บนคาคบไม้นั่นหลายนาที จริงๆอยากอยู่หลายชั่วโมงแต่กลัวขาจะอ่อนจนตกลงมาตายซะก่อน ลูกหว้าในช่วงเวลาดีๆของฤดูมีมากมายดารดาษให้เลือกเก็บได้ตามใจ เก็บลูกนี้ เก็บลูกนั้น บางทีเก็บลูกนี้ก็ทำให้ลูกนั้นสั่นไหวจนหลุดจากขั้วร่วงหล่นลงพื้นไปเปล่าๆเหมือนไร้ค่า แต่จริงๆแล้วมันเป็นของมันอย่างนั้น ห่าฝนที่ตกกระหน่ำบางส่วนที่ไม่มีใครกักเก็บไว้มันหายไปในพื้นดินพื้นน้ำมันเป็นของมันอย่างนั้น มันทำหน้าที่ของมัน มันเกิดขึ้นแล้ว มันเป็นสุขแล้ว ถึงมันจะเปลี่ยนแปลงและถึงมันจะดับไป อย่างน้อยมันก็ได้พบความสุข
ทุกๆปีหลังฤดูฝนมักจะมีต้นหว้าต้นใหม่เกิดขึ้นจากการร่วงหล่นของลูกและเมล็ดหว้า บางต้นสวยงาม หลายต้นเปล่งปลั่งสดใสท้าทายต่อการเจริญเติบโต แต่ต้องแข็งใจขุดมันออกหรือตัดทำลายมันลงไปอย่างน่าเศร้า ที่นี่มีพื้นที่จำกัดแม้แต่กับสิ่งดีงาม
ถ้าวันไหนไม่ค่อยสบายหรือกลัวเกลือผมก็จะกินเปล่าๆ ถ้าไม่กลัวเกลือก็จิ้มเกลือกินหน่อยนึงครับ ค่อยๆกิน ค่อยๆเล็มเอาเนื้อมันออกมา เม็ดก็คายทิ้งไป พยายามยัดมันลงไปในทางเดินอาหารให้ได้สำหรับทดแทนวิตามินและสารอาหารจากผลไม้ กินเสร็จก็มีเข็ดฟันหรือเสียวฟันบ้างครับ มันเป็นซะอย่างนี้เมื่อวิกาลแห่งอินทรีย์มาถึง
โอ้ เราชราแล้ว เราชราแล้ว
วันว่างนั่งกินหว้า
ข้างบ้านผมมีเสียงนึงได้ยินเป็นประจำ บางช่วงเวลาก็ห่างๆ บางช่วงเวลาก็ถี่ๆ และบางทีก็มีมากๆรัวเหมือนเสียงฝนตก บางทีก็เสียงเปาะแปะ บางทีก็ดังตุบแบบของตกจากที่สูง ลมพัดแรงๆจะได้ยินเสียงกระทบพื้นดังระงม ยิ่งกลางคืนดึกๆเที่ยงคืนตีหนึ่งจะดังชัดมาก
เสียงนั้นเกิดมาจากต้นหว้าต้นหนึ่ง เสียงที่ได้ยินคือเสียงลูกหว้าหล่นกระทบพื้นดินที่ปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง
พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเหล่าภิกษุว่า“ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ในชมพูทวีปชนิดใดชนิดหนึ่ง ต้นหว้าโลกกล่าวว่า เป็นยอดของต้นไม้เหล่านั้น แม้ฉันใด โพธิปักขิยธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ปัญญินทรีย์ บัณฑิตกล่าวว่า เป็นยอดแห่งโพธิปักขิยธรรมเหล่านั้น เพราะเป็นไปเพื่อความตรัสรู้ ฉันนั้นเหมือนกัน”
ต้นหว้าหรือลูกหว้า พันธุ์ไม้สำคัญที่ถูกกล่าวถึงในพุทธประวัติหรือพระธรรมบท ถ้าชื่อของไทยและอินเดียหรือบาลีเรียกตรงกัน หลังบ้านผมมีอยู่ต้นนึง สูงใหญ่ให้ร่มเงา เป็นที่พักอาศัยของนกในยามนอกฤดูและเป็นแหล่งอาหารของนกและสรรพสัตว์นานาชนิดเมื่อถึงเวลามันติดผลซึ่งก็เป็นปลายๆฤดูร้อนและต้นฤดูฝนของทุกปี
ประโยชน์ของลูกหว้าและต้นหว้าในทางโภชนาการหรือทางยามีมากเกินจนจำไม่หวาดไม่ไหว ต้องค้นข้อมูลดูถึงรู้ว่าเป็นของควรเคี้ยว เป็นของดีมีประโยชน์สูงมากอีกอย่างนึง
สำหรับผมแล้วมันเป็นแหล่งวิตามินหรือสารอาหารประจำปี ถ้ามันออกก็กิน กินเกือบทุกวัน กินเพื่อให้ได้สารอาหารบางอย่างที่อาจจะไม่มีในผลไม้ตัวอื่นหรือถึงตัวอื่นจะมีแต่บางทีก็ไม่มีกะตังค์ไปซื้อมากิน
ลูกหว้าดิบสีเขียวๆขาวๆแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดง และสีม่วงจนกระทั่งม่วงเข้มจนเห็นเป็นสีดำ เนื้ออ่อนๆมีรสหวานอมเปรี้ยวถ้าแก่ธรรมดาและหวานจัดอมฝาดเมื่อแก่จัด เราจะรู้ได้ยังไงว่าแก่จัด ลูกที่แก่แล้วก็ร่วงหล่นลงมา ถ้าเอาแผ่นพลาสติกมารองเอาไว้ก็จะได้ลูกหว้ารสชาติดี ดูให้ไม่มีรอยช้ำหรือรอยแทะกินของสัตว์ก็เอาไปล้างๆกินได้อร่อยไม่เหมือนใคร
ผมได้ยินเสียงลูกหว้าตกอยู่เสมอๆ บางทีก็ปนกับเสียงนกร้องเซ็งแซ่ ทั้งร้องดีใจในหมู่เดียวกันหรือร้องระวังภัย ร้องด่าทอกันเมื่อมีการเข้าใกล้กันเกินไปของนกต่างสายพันธุ์ เป็นช่วงเวลาดีๆของนก เป็นช่วงที่มีอาหารกินอย่างเหลือเฟือโดยไม่ต้องบินไปไหนไกล ที่นี่มีของกิน ข้างๆไปอีกไม่ไกลมีน้ำดื่ม ลูกหว้าที่อยู่บนต้นเป็นอาหารของนก กระรอกกระแต แมลง เมื่อมันตกลงสู่พื้นยังมีสัตว์เล็กๆกว่านั้นหรือแมลงดินมากินเป็นอาหาร และถึงที่สุดก็สลายกลายเป็นดิน แลกเปลี่ยนเคมีจากดินชั้นล่างขึ้นสู่ดินชั้นบน เติมอินทรีย์วัตถุให้ระบบนิเวศน์
ที่ดีอีกอย่างก็คือกินได้นี่แหละ มันเป็นอาหารของคนเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ขาดอาหารหรือมีภาวะต้องการสารอาหาร บางวันที่เป็นวันดีๆละมั้ง ผมเดินไปเดินมาแล้วคิดในใจว่าจะต้องปีนขึ้นไปเก็บลูกหว้ามากินซักจานนึง ท่ามกลางสายตางวยงงสงสัยของเมียและลูกๆว่าตาแก่นี่จะขึ้นไปทำอะไร จะปีนขึ้นไปจริงๆเหรอ
รวบรวมพละกำลังและความกล้าพิจารณาทุกอย่างแล้วผมก็ขึ้นไปบนบันไดนั่นจริงๆ หนึ่งขั้นสองขั้น สามขั้น สี่ขั้น เอาละมั้ง เราน่าจะขึ้นมาพอแล้ว เรามาอยู่ในจุดสูงสุดที่เราพอใจแล้ว ดูซิว่าในระดับชีวิตขั้นนี้มีสิ่งใดที่เราปรารถนาบ้าง ชายเกือบแก่คนนึงอยู่ในสภาพที่เดินไม่ค่อยจะได้ ยักแย่ยักยัน เอากล้องถ่ายรูปห้อยคอมือนึงถือฝาหม้อสนามปีนบันได้อลูมิเนียมขึ้นไปถึงกิ่งหว้า
มุมมองแปลกใหม่ของโลกใบเดิม แสงแดดรำไรส่องทะลุช่องว่างของใบไม้ นกหลายตัวกระพือปีกย้ายไปย้ายมา แมลงเล็กน้อยหลายตัวบินส่ายไปมาส่งเสียงหงึ่งหงั่ง บางตัวก็มาเกาะตามตัวตามแขน ถ้าดูแล้วไม่ใช่ผึ้งใช่แตนผมมักจะปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้มันใช้ชีวิตของมัน เดี๋ยวมันก็ไป คิดๆดูแล้วหลายชีวิตที่ขึ้นมาบนต้นหว้านี่เพื่อหวังจะกินลูกหว้า ทั้งนกทั้งกระแตหรือแมลงต่างๆเชี่ยวชาญการอยู่บนที่สูง นกบางตัวก็จับกิ่งไม้ห้อยหัวลงจิกกินลูกหว้าอย่างชำนาญและเปี่ยมสุข บางตัวจิกกินที่นั่น บางตัวคาบกลับไป ให้นกบางตัวที่ไม่ได้มาและเฝ้ารออยู่ที่รัง
คิดๆดูแล้วผมคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับลูกหว้าน้อยที่สุด คือเก่งสู้นกก็ไม่ได้ ลูกๆผมถ้าจะกินหว้าก็จับกิ่งดึงโน้มลงมาหรือเอาไม้เขี่ยๆให้มันตกลงพื้น มันจะยังไม่แตกเพราะรองไว้ด้วยใบไม้แห้ง ถ้าเมียผมต้องการลูกหว้าจะเอามากินหรือเก็บไว้ใส่บาตรหรือปั่นเป็นน้ำลูกหว้า ก็แค่ปูรองพื้นด้วยแผ่นพลาสติกแล้วดึงขย่มด้วยไม้ ลูกหว้าที่แก่ๆก็จะตกลงมาโดยง่าย
มีแมวหลายตัวมักจะมาใช้ชีวิตอยู่ละแวกนี้ ไม่ได้มากินหว้าแต่มาอาศัยร่มเงารำไร ได้คอยซุ่มจับนกหรือกระโดดตะครุบให้พอได้ความตื่นเต้นตามประสาแมวๆ
โอ้เอ้อ้อยอิ่งอยู่บนคาคบไม้นั่นหลายนาที จริงๆอยากอยู่หลายชั่วโมงแต่กลัวขาจะอ่อนจนตกลงมาตายซะก่อน ลูกหว้าในช่วงเวลาดีๆของฤดูมีมากมายดารดาษให้เลือกเก็บได้ตามใจ เก็บลูกนี้ เก็บลูกนั้น บางทีเก็บลูกนี้ก็ทำให้ลูกนั้นสั่นไหวจนหลุดจากขั้วร่วงหล่นลงพื้นไปเปล่าๆเหมือนไร้ค่า แต่จริงๆแล้วมันเป็นของมันอย่างนั้น ห่าฝนที่ตกกระหน่ำบางส่วนที่ไม่มีใครกักเก็บไว้มันหายไปในพื้นดินพื้นน้ำมันเป็นของมันอย่างนั้น มันทำหน้าที่ของมัน มันเกิดขึ้นแล้ว มันเป็นสุขแล้ว ถึงมันจะเปลี่ยนแปลงและถึงมันจะดับไป อย่างน้อยมันก็ได้พบความสุข
ทุกๆปีหลังฤดูฝนมักจะมีต้นหว้าต้นใหม่เกิดขึ้นจากการร่วงหล่นของลูกและเมล็ดหว้า บางต้นสวยงาม หลายต้นเปล่งปลั่งสดใสท้าทายต่อการเจริญเติบโต แต่ต้องแข็งใจขุดมันออกหรือตัดทำลายมันลงไปอย่างน่าเศร้า ที่นี่มีพื้นที่จำกัดแม้แต่กับสิ่งดีงาม
ถ้าวันไหนไม่ค่อยสบายหรือกลัวเกลือผมก็จะกินเปล่าๆ ถ้าไม่กลัวเกลือก็จิ้มเกลือกินหน่อยนึงครับ ค่อยๆกิน ค่อยๆเล็มเอาเนื้อมันออกมา เม็ดก็คายทิ้งไป พยายามยัดมันลงไปในทางเดินอาหารให้ได้สำหรับทดแทนวิตามินและสารอาหารจากผลไม้ กินเสร็จก็มีเข็ดฟันหรือเสียวฟันบ้างครับ มันเป็นซะอย่างนี้เมื่อวิกาลแห่งอินทรีย์มาถึง
โอ้ เราชราแล้ว เราชราแล้ว