คนไทยเหวอ ! ผ่านมา 20 วันในปี 2025 ปัญหารายล้อมเกินเยียวยา

ประเทศไทยในปี 2025 เริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่ไม่สดใสและเต็มไปด้วยปัญหาที่ดูเหมือนจะกดทับประชาชนทุกเพศวัยและทุกภาคส่วนของสังคมอย่างไม่สิ้นสุด เสียงสะท้อนจากวงสนทนาในหลากหลายแวดวงล้วนบ่งชี้ถึงความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้น ปัญหาโครงสร้างในระบบเศรษฐกิจ การศึกษา การเมือง และสิ่งแวดล้อมกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ไม่ใช่ในฐานะความท้าทาย แต่เป็นปัญหาที่ดูเหมือนจะห่างไกลจากการแก้ไข

ฝุ่น PM2.5: ปัญหาตั้งแต่ลมหายใจแรก
เด็กทารกที่เพิ่งลืมตาดูโลกต้องเผชิญฝุ่น PM2.5 ตั้งแต่ลมหายใจแรก ในขณะที่ผู้ใหญ่ต่างต้องพึ่งเครื่องฟอกอากาศเพื่อความอยู่รอด ระบบที่ควรดูแลประชาชนกลับเงียบงัน และพรบ.อากาศสะอาดที่เคยเป็นความหวัง ก็ยังดูเลือนรางที่จะสร้างผลในระยะยาว

การศึกษาไทย: คะแนนต่ำ แต่ความคาดหวังสูง
ระบบการศึกษาที่คะแนน PISA รั้งท้ายและขาดความทันสมัยยังคงเป็นปัญหาเดิมที่ไม่มีวี่แววการพัฒนา ขณะที่มหาวิทยาลัยยังปรับตัวไม่ทันกับโลกยุคใหม่ ผลลัพธ์คือวัยรุ่นจำนวนมากต้องดิ้นรนหาทางรอดในระบบเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

เศรษฐกิจ: โอกาสที่ไม่เคยเท่าเทียม
วัยทำงานต้องแบกรับทั้งหนี้สินส่วนตัวและหนี้ครัวเรือนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ธุรกิจขนาดเล็กแข่งขันลำบากกับทุนใหญ่ที่ดูเหมือนจะครองระบบเศรษฐกิจไว้
เทคโนโลยีและการพัฒนาวิจัยแทบไม่มีการส่งเสริม คนเก่งด้านเทคโนโลยีหลั่งไหลออกไปทำงานในบริษัทต่างชาติ ขณะที่บริษัทไทยยังคงซื้อนวัตกรรมจากต่างประเทศ โดยไม่มีการวางแผนเพื่อพัฒนาความสามารถในระยะยาว

การเมืองและระบบที่ไร้เสถียรภาพ
ความไม่แน่นอนของระบบการเมืองทำให้บรรยากาศการลงทุนดูน่าหวาดหวั่น นายกรัฐมนตรีเอย พรรคการเมืองเอย ทุกอย่างดูผันผวนจนไม่มีใครอยากเสี่ยงทำธุรกิจในประเทศที่ไร้เสถียรภาพ
ดัชนีคอร์รัปชันของประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 108 จาก 180 ประเทศ สะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในระบบการบริหารจัดการ

สังคมที่ขาดการเชื่อมโยง
ประชากรไทยกำลังลดลงจากอัตราการเกิดที่ต่ำกว่าอัตราการตาย สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแล
ความโดดเดี่ยวและปัญหาสุขภาพจิตเพิ่มสูงขึ้นในทุกช่วงวัย จากวัยรุ่นที่ต้องเผชิญกับความกดดันในการศึกษา วัยทำงานที่เหนื่อยล้าจากการดิ้นรน ไปจนถึงผู้สูงวัยที่เผชิญความเหงา

สิ่งแวดล้อมที่ล่มสลาย
ข้าว พันธุ์พืช และสัตว์น้ำหลายชนิดกำลังลดลงอย่างน่าใจหาย ขณะที่เทคโนโลยีสีเขียว เช่น โซลาร์เซลล์ ไม่ได้รับการสนับสนุนเพียงเพราะไปกระทบผลประโยชน์ของกลุ่มทุนบางส่วน ประชาชนยังคงต้องเผชิญกับน้ำท่วมและฝุ่นพิษในทุกปี โดยไม่มีนโยบายระยะยาวที่จริงจัง

วงการบันเทิงไทยเตรียมล่มสลาย
ปัญหาในวงการบันเทิงไทยเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคและการแข่งขันกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลกที่เพิ่มขึ้น ผู้ผลิตละครไทยต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ยังต้องรักษาคุณภาพให้เทียบเท่าหรือสูงกว่าผลงานจากต่างประเทศที่มีทุนสร้างมหาศาล การปรับตัวด้วยการบริหารทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด 

อนาคตที่เต็มไปด้วยคำถาม
ปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาสะท้อนถึงโครงสร้างที่บิดเบี้ยวและไร้วิสัยทัศน์ การบริหารประเทศที่มุ่งเน้นชัยชนะระยะสั้น ขาดการวางแผนระยะยาวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก กลายเป็นภาระที่ประชาชนต้องแบกรับ


แล้วเราจะอยู่กันแบบนี้ต่อไปจริงหรือ?
คำถามที่คนไทยทุกคนควรถามตัวเองคือ เราจะยอมรับความเป็นจริงแบบนี้ไปตลอดหรือไม่ หรือจะลุกขึ้นมาร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างเพื่ออนาคตที่ดีกว่า? เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย ความหวังในการแก้ปัญหาเหล่านี้อาจกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าที่ไม่เคยเป็นจริง.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่