ทำไมคนส่วนมากรอบตัวเราถึงคิดว่า การมีแฟนมีสามีคือการที่ชีวิตสมบูรณ์
เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุ28ปีค่ะ ลูกคนโต5ขวบ คนเล็ก2ขวบ เราเลอกขาดกับพ่อของลูกจะ3ปีแล้วก่อนจะคลอดลูกคนเล็กอีก การจบความสัมพันธ์ของเรากับพ่อของลูกคือจบและตัดขาดหมดเลยไม่ติดต่อไม่เรียกร้องความรับผิดชอบแะไรจากเค้าทั้งนั้น(เหตุผลที่เลิกเพราะปัญหาสะสมมานานมาก ความไม่เอาไหนไม่รับผิดชอบครอบครัว ความเห็นแก่ตัวและอีกเยอะมาก ที่ทำให้เราตัดขาดเขา)
เราสามคนแม่ลูกอยู่ที่บ้านกับแม่ของเราค่ะ (พ่อแม่เราแยกกันอยู่นานมากแล้ว) ทำให้คนภายนอกคิดว่าแม่เราเป็นคนเลี้ยงรับผิดชอบภาระของเราและลูกทั้งหมด เพราะที่บ้านมีงานที่แม่ทำเราก็ช่วยทุกอย่าง รายได้ตรงนั้นแม่เราได้หมด ส่วนรายได้หลักของเราได้จากสวนยางพาราค่ะ ทำให้เรามีรายได้รับผิดชอบลูกและมีเวลาเลี้ยงลูกเอง24ชม. ไม่ได้ติดขัดอะไรเลยแต่ไม่เคยขอค่าใช้จ่ายอะไรจากแม่นะคะ ส่วนทางฝ่ายปู่ย่าของหลานจะสนิทกับแม่เรา ก็มาเยี่ยมมาค้างที่บ้านหาหลานบ่อยๆ เค้าก็หยิบยื่นให้ตลอดอยู่บ่อยค่ะ
เราใช้ชีวิตเลี้ยงลูกอย่างรับผิดชอบลูกคนเดียวมาจะ 3ปีละคะ พ่อของลูกที่หายเงียบไปเพราะเราบล็อกและปิดการติดต่อทุกช่องทาง ติดต่อมาที่พ่อเลี้ยงและแม่เราบอกว่า จะมาหาลูก...(ในช่วงก่อนหน้านี้ก็มีถามข่าวลูกผ่านทางพ่อเลี้ยงเราตลอด และขอมาหาลูกแต่เราก็ไม่อนุญาตให้มา)
ครั้งนี้ทางพ่อเลี้ยงไม่ได้มาถามเราก่อนนะคะว่า เค้าขอมาหาลูก...และเขาก็มาที่บ้านเลย ปฏิกิริยาลูกคนโตก็ดีใจนะคะ วิ่งไปกอดพ่อ ส่วนลูกคนเล็กไม่รู้จักค่ะ ไม่เข้าหา ส่วนเราก็เดินเข้าไปในบ้าน เพราะความคิดเราตอนนั้นคือระหว่างเรากับเค้าจบขาดตั้งแต่วันที่เราออกไปแล้ว เราไม่มีอะไรจะคุยกับเค้าแล้ว...วันนั้นเราไม่ได้คุยกัน เค้าก็เล่นกับลูกๆและให้เงินลูกไว้
จนเค้ากลับญาติผู้ใหญ่ก็พูดคำนึงมากับเราว่า "ตอนนี้เราโกรธเกลียดเค้า คิดว่าเลี้ยงลูกเองได้ พอวันที่ลูกโตเข้าเรียนค่าใช้จ่ายมันเยอะนะ แล้วลูกสองคนด้วย มันต้องมีพ่อของลูกช่วย"
มันก็เป็นเรื่องที่เราคิดอยู่บ้างนะคะ แต่เราเคยบอกว่า ถ้าจะต้องพูดตกลงในผลประโยชน์ของลูก เราพูดได้มาตกลงเลย ยังไงคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกสำคัญที่สุด แต่ถ้ามาพูดยืดเยื้อเรื่องส่วนตัวสำหรับมันเคลียร์หมดแล้วตั้งแต่วันที่มั่นใจที่จะเป็นเลี้ยงลูกคนเดียว...
หลังจากวันที่เค้ามาหาลูก เว้นไปไม่ถึงอาทิตย์เขาก็แวะมาอีก เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ แต่ทางบ้านเราญาติผู้ใหญ่ก็พูดคุยทักทายเค้าปกติ แต่เรามารู้ทีหลังว่า ครั้งนี้ที่เค้ามาเค้าบอกแม่ว่าจะมานอนค้างกับลูก แล้วแม่เราก็ห้ามไป เพราะแม่รู้นิสัยเราว่าเราไม่ยอมให้เค้าค้างแน่ๆ
ผ่านเรื่องการกลับมาของพ่อของลูกไป ไม่กี่วันแม่เราพูดผ่านๆกับญาติๆต่อหน้าเราว่า เพื่อนของแม่จะให้เราลองคบกับลูกเค้าดู เพราะช่วงนี้ลูกคนโตเราติดเพื่อนแม่ของเรามาก วันรร.ปิดจะให้ไปส่งที่บ้านเค้าตลอด พอตอนเย็นเสร็จจากช่วยงานที่บ้านเราก็ไปรับลูกกลับ...ตอนที่แม่พูดเราก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เวลาเราไปรับส่งลูกก็จะเจอผช.คนนั้นบ้าง เค้าชวนคุยเราก็ตอบตามมารยาท จนหลังๆเราเริ่มอึดอัดไม่ค่อยอยากให้ลูกไป...และล่าสุดเมื่อวาน แม่เราเอาเฟสบุ๊คเราให้เค้าแอดทักมาหาเรา...ก่อนหน้านี้แม่ก็ชอบจับคนนู้คนนี้ให้ เรา คือแม่เราจะคนรู้จักเยอะแล้วพอเค้ามาเจอมาเห็นการใช้ชีวิตของเราที่เลี้ยงลูก ผู้มหญ่ก็เอ็นดูเราเอ็นดูลูกเรา แล้วจะชอบเขียร์ให้คุยกับลูกเค้า เราก็เฉยไม่รับไม่พูดมาตลอด เรารู้ตัวเองนะว่า เราทำได้ดีที่สุดในหน้าที่แม่ดูแลลูกสองคนที่เรารักมากๆ แต่กับคนอื่นเราก็คงไม่รักไม่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีได้เท่ากับทำหน้าที่แม่หรอก
ตั้งแต่ที่เลิกกับพ่อของลูก เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้เวลาทุกนาทีเลี้ยงลูก ทำงานหาเงินเพื่อลูก ทุ่มเทให้ลูกหมดเลยเพราะลูกทั้งสองคนยังอยู่ในวัยที่ต้องการความรักการดูแลความอบอุ่นจากแม่ เรื่องคนใหม่เราไม่เคยคิดวนหัวเลยค่ะ...และเราอึดอัดทุกครั้งที่แม่เราทำแบบนี้ เราพูดตลอดว่า เราอยู่คนเดียวเลี้ยงลูกได้ไม่มีปัญหาอะไรเลย เราไม่สามารถแบ่งความรักจากลูกให้ใครได้และเราจะไม่เอาความรู้สึกของลูกไปเสี่ยงเพื่อเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิตเราสามคนแม่ลูก เราไม่รู้หรอกว่าคนๆนั้นนิสัยใจคอที่แท้เป็นยังไง
เราไม่เข้าใจเลยนะคะว่า ทำไมแม่ต้องพยายามให้เรามีคนใหม่? กลัวเราจะเลี้ยงลูกไม่ไหวหรือคิดว่าเรากับลูกเป็นภาระ...
เรื่องที่ทำมนุษย์แม่เลี้ยงเดี่ยวปวดหัว
เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุ28ปีค่ะ ลูกคนโต5ขวบ คนเล็ก2ขวบ เราเลอกขาดกับพ่อของลูกจะ3ปีแล้วก่อนจะคลอดลูกคนเล็กอีก การจบความสัมพันธ์ของเรากับพ่อของลูกคือจบและตัดขาดหมดเลยไม่ติดต่อไม่เรียกร้องความรับผิดชอบแะไรจากเค้าทั้งนั้น(เหตุผลที่เลิกเพราะปัญหาสะสมมานานมาก ความไม่เอาไหนไม่รับผิดชอบครอบครัว ความเห็นแก่ตัวและอีกเยอะมาก ที่ทำให้เราตัดขาดเขา)
เราสามคนแม่ลูกอยู่ที่บ้านกับแม่ของเราค่ะ (พ่อแม่เราแยกกันอยู่นานมากแล้ว) ทำให้คนภายนอกคิดว่าแม่เราเป็นคนเลี้ยงรับผิดชอบภาระของเราและลูกทั้งหมด เพราะที่บ้านมีงานที่แม่ทำเราก็ช่วยทุกอย่าง รายได้ตรงนั้นแม่เราได้หมด ส่วนรายได้หลักของเราได้จากสวนยางพาราค่ะ ทำให้เรามีรายได้รับผิดชอบลูกและมีเวลาเลี้ยงลูกเอง24ชม. ไม่ได้ติดขัดอะไรเลยแต่ไม่เคยขอค่าใช้จ่ายอะไรจากแม่นะคะ ส่วนทางฝ่ายปู่ย่าของหลานจะสนิทกับแม่เรา ก็มาเยี่ยมมาค้างที่บ้านหาหลานบ่อยๆ เค้าก็หยิบยื่นให้ตลอดอยู่บ่อยค่ะ
เราใช้ชีวิตเลี้ยงลูกอย่างรับผิดชอบลูกคนเดียวมาจะ 3ปีละคะ พ่อของลูกที่หายเงียบไปเพราะเราบล็อกและปิดการติดต่อทุกช่องทาง ติดต่อมาที่พ่อเลี้ยงและแม่เราบอกว่า จะมาหาลูก...(ในช่วงก่อนหน้านี้ก็มีถามข่าวลูกผ่านทางพ่อเลี้ยงเราตลอด และขอมาหาลูกแต่เราก็ไม่อนุญาตให้มา)
ครั้งนี้ทางพ่อเลี้ยงไม่ได้มาถามเราก่อนนะคะว่า เค้าขอมาหาลูก...และเขาก็มาที่บ้านเลย ปฏิกิริยาลูกคนโตก็ดีใจนะคะ วิ่งไปกอดพ่อ ส่วนลูกคนเล็กไม่รู้จักค่ะ ไม่เข้าหา ส่วนเราก็เดินเข้าไปในบ้าน เพราะความคิดเราตอนนั้นคือระหว่างเรากับเค้าจบขาดตั้งแต่วันที่เราออกไปแล้ว เราไม่มีอะไรจะคุยกับเค้าแล้ว...วันนั้นเราไม่ได้คุยกัน เค้าก็เล่นกับลูกๆและให้เงินลูกไว้
จนเค้ากลับญาติผู้ใหญ่ก็พูดคำนึงมากับเราว่า "ตอนนี้เราโกรธเกลียดเค้า คิดว่าเลี้ยงลูกเองได้ พอวันที่ลูกโตเข้าเรียนค่าใช้จ่ายมันเยอะนะ แล้วลูกสองคนด้วย มันต้องมีพ่อของลูกช่วย"
มันก็เป็นเรื่องที่เราคิดอยู่บ้างนะคะ แต่เราเคยบอกว่า ถ้าจะต้องพูดตกลงในผลประโยชน์ของลูก เราพูดได้มาตกลงเลย ยังไงคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกสำคัญที่สุด แต่ถ้ามาพูดยืดเยื้อเรื่องส่วนตัวสำหรับมันเคลียร์หมดแล้วตั้งแต่วันที่มั่นใจที่จะเป็นเลี้ยงลูกคนเดียว...
หลังจากวันที่เค้ามาหาลูก เว้นไปไม่ถึงอาทิตย์เขาก็แวะมาอีก เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันค่ะ แต่ทางบ้านเราญาติผู้ใหญ่ก็พูดคุยทักทายเค้าปกติ แต่เรามารู้ทีหลังว่า ครั้งนี้ที่เค้ามาเค้าบอกแม่ว่าจะมานอนค้างกับลูก แล้วแม่เราก็ห้ามไป เพราะแม่รู้นิสัยเราว่าเราไม่ยอมให้เค้าค้างแน่ๆ
ผ่านเรื่องการกลับมาของพ่อของลูกไป ไม่กี่วันแม่เราพูดผ่านๆกับญาติๆต่อหน้าเราว่า เพื่อนของแม่จะให้เราลองคบกับลูกเค้าดู เพราะช่วงนี้ลูกคนโตเราติดเพื่อนแม่ของเรามาก วันรร.ปิดจะให้ไปส่งที่บ้านเค้าตลอด พอตอนเย็นเสร็จจากช่วยงานที่บ้านเราก็ไปรับลูกกลับ...ตอนที่แม่พูดเราก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เวลาเราไปรับส่งลูกก็จะเจอผช.คนนั้นบ้าง เค้าชวนคุยเราก็ตอบตามมารยาท จนหลังๆเราเริ่มอึดอัดไม่ค่อยอยากให้ลูกไป...และล่าสุดเมื่อวาน แม่เราเอาเฟสบุ๊คเราให้เค้าแอดทักมาหาเรา...ก่อนหน้านี้แม่ก็ชอบจับคนนู้คนนี้ให้ เรา คือแม่เราจะคนรู้จักเยอะแล้วพอเค้ามาเจอมาเห็นการใช้ชีวิตของเราที่เลี้ยงลูก ผู้มหญ่ก็เอ็นดูเราเอ็นดูลูกเรา แล้วจะชอบเขียร์ให้คุยกับลูกเค้า เราก็เฉยไม่รับไม่พูดมาตลอด เรารู้ตัวเองนะว่า เราทำได้ดีที่สุดในหน้าที่แม่ดูแลลูกสองคนที่เรารักมากๆ แต่กับคนอื่นเราก็คงไม่รักไม่ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีได้เท่ากับทำหน้าที่แม่หรอก
ตั้งแต่ที่เลิกกับพ่อของลูก เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้เวลาทุกนาทีเลี้ยงลูก ทำงานหาเงินเพื่อลูก ทุ่มเทให้ลูกหมดเลยเพราะลูกทั้งสองคนยังอยู่ในวัยที่ต้องการความรักการดูแลความอบอุ่นจากแม่ เรื่องคนใหม่เราไม่เคยคิดวนหัวเลยค่ะ...และเราอึดอัดทุกครั้งที่แม่เราทำแบบนี้ เราพูดตลอดว่า เราอยู่คนเดียวเลี้ยงลูกได้ไม่มีปัญหาอะไรเลย เราไม่สามารถแบ่งความรักจากลูกให้ใครได้และเราจะไม่เอาความรู้สึกของลูกไปเสี่ยงเพื่อเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิตเราสามคนแม่ลูก เราไม่รู้หรอกว่าคนๆนั้นนิสัยใจคอที่แท้เป็นยังไง
เราไม่เข้าใจเลยนะคะว่า ทำไมแม่ต้องพยายามให้เรามีคนใหม่? กลัวเราจะเลี้ยงลูกไม่ไหวหรือคิดว่าเรากับลูกเป็นภาระ...