คุณแม่ผมอายุ 79 ปี ตรวจรักษาประจำกับ รพ. วิภาวดี มากกว่า 10 ปี เมื่อไม่นานมานี้ตรวจพบเลือดปนมากับอุจจาระ จึงได้ตรวจเพิ่มเติม ทางแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น มะเร็งลำไส้ใหญ่ ระยะเริ่มต้น ได้แนะนำให้ผ่าตัดแต่เนินๆ เพราะคุณแม่ยังแข็งแรงอยู่ มีโอกาสหายขาดสูง ทางน้องๆ จึงตัดสินใจ ให้คุณแม่รับการผ่าตัด
ทาง รพ. ได้แนะนำทีมแพทย์ ซึ่งมีหัวหน้าทีมที่เกษียณจาก รพ พระมงกุฎเกล้า แต่ชำนาญการด้านนี้ ทำหน้าที่ผ่าตัด เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ประสานกับ CT SCAN หาเนื้อร้ายเป้าหมาย ประเมินเวลาผ่าตัดไม่เกิน 2 ชมครึ่ง ค่าใช้จ่าย 600,000 บาท
ผลการผ่าตัด เนื้อร้ายที่พบเล็กมาก แต่ใช้เวลาผ่าตัดรวม 5 ชั่วโมง ตัดชิ้นเนื้อ 2 ครั้ง ยาวรวม 25 ซม. เนื่องจากจุดที่ประเมินได้จากกล้องและ CT SCAN ครั้งแรกผิดพลาด จึงรอเบิกเครื่อง CT SCAN เพื่อค้นหาใหม่ หลังการผ่าตัดความดันโลหิตต่ำ เสียเลือดมาก ส่งผลต่อการทำงานอวัยวะอื่นๆล้มเหลว และเสียชีวิตในวันถัดมา
หลังจากคุณแม่เสียชีวิต หัวหน้าทีมแพทย์มาสรุปผลการผ่าตัด และแสดงความเสียใจ ชี้แจงกับพวกเราโดยย่อ คือ ความผิดพลาดจากการใช้กล้องและ CT SCAN เกิดขึ้นได้ทางการแพทย์ เวลาที่ผ่าตัดนาน เพราะรอเบิกเครื่อง CT SCAN และจะช่วยเจรจากับ รพ เพื่อทุเลาค่าใช้จ่าย
แม้ไม่ยอมรับการอธิบายนี้ แต่ในช่วงเวลาที่เจ็บปวด สับสน ของครอบครัว ที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ได้แต่ดำเนินการไปตามขั้นตอน วันรุ่งขึ้น ชำระเงินประมาณ 900,000 บาท นำร่างคุณแม่ไปประกอบกิจทางศาสนา พร้อมทั้งส่งหนังสือให้ทาง รพ. ชี้แจงข้อเท็จจริงการรักษาที่ล้มเหลวนี้
หลังจากประมวลข้อมูลในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปดังนี้
1.เหมือนโดนซ้ำเติมจาก รพ : การคิดค่ารักษา ประมาณ 900,000 จากประเมินไว้ 600,000 บาท (รวมรายการเครื่องมือบางชิ้น ที่เตรียมเยื้อชีวิต แต่ยังไม่ได้ใช้) ทาง รพ. รับไปพิจารณาแก้ไข
2.ยอมรับไม่ได้ : กับคำชี้แจง การหาเนื้อร้ายจากกล้อง และ CT SCAN ผิดพลาดได้ทางการแพทย์ (ให้ความรู้สึก เหมือนเกิดขึ้นได้โดยทั่วไป) นั่นหมายถึง การเจ็บตัวฟรีของผู้ป่วย และเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากโดยสูญเปล่า เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ปกติตามมาตรฐานทางการแพทย์
3. ความเจ็บปวดจากการใช้วิจารณญาณของแพทย์มืออาชีพ : การตัดสินใจขยายเวลาการผ่าตัด แบบไม่มีกรอบเวลา ความปลอดภัยของผู้ป่วยกลายเป็นเป้าหมายรอง การหาชิ้นเนื้อให้สำเร็จเป็นเป้าหมายหลักแทน
ประเด็นอื่นๆ
*ไม่แจ้งครอบครัวถึงผลกระทบจากการขยายการผ่าตัด ด้วยอายุ ความไม่พร้อมของเครื่องช่วยชีวิต แม้คุณแม่ไม่เสียชีวิต ระบบไตและอวัยะต่างๆ อาจจะได้รับผลกระทบรุนแรง จนใช้ชีวิตปกติไม่ได้ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วหลังจากผ่าตัดไม่นาน
*ขณะที่ทีมแพทย์มีเวลาเตรียมการหลายวัน ยังเกิดข้อผิดพลาด ภายใต้ข้อจำกัดของอายุคุณแม่ เวลาที่มีน้อย หลังล้มเหลวครั้งแรก และไม่ได้เตรียมเครื่องมือรองรับ การประเมินทางเลือกยกเลิกภารกิจ กับความเสี่ยงจากการขยายเวลาการผ่าตัด ควรพิจารณาความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก
*การขยายเวลาหาเนื้อร้ายอีกระยะหนึ่ง จาก 2 ชมครึ่ง เป็น 2.45 ถึง 3 ชั่วโมง ไม่สำเร็จ ถ้าตัดสินใจยกเลิกภารกิจ แล้วกลับมาประเมินใหม่อย่างรอบคอบ อาจทำให้ทีมแพทย์เสียหน้า ผู้ป่วยเจ็บตัวฟรี ครอบครัวมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม พวกเราอาจโกรธในช่วงแรก แต่ยังเข้าใจได้ว่าแพทย์มีจรรยาบรรณที่ดี ที่เห็นความปลอดภัยผู้ป่วยเป็นอันดับแรก
*หลายครั้งที่ต้องทำใจยอมรับ เพราะความสูญเสียย้อนคืนไม่ได้ และไม่อยากตอกย้ำ ทำให้น้องๆ รู้สึกผิด ที่ตัดสินใจผ่าตัดครั้งนี้ ยิ่งเจ็บปวด
*เดือนมกราคม ผ่าตัดวันที่ 9 เวลา 06.00-11.00 วันที่ 10 เวลา 17.23 เสียชีวิต วันที่ 11 ชำระค่ารักษา ยื่นหนังสือขอคำชี้แจง รับร่างคุณแม่
วันที่ 18 ขอรายงานการรักษา และ ขอรับคำชี้แจงการผ่าตัดที่ล้มเหลว ที่ยื่นไว้วันที่ 11 ทาง รพ. บ่ายเบี่ยง ขอเวลาเพิ่มอีก 1 สัปดาห์
จากเหตุการณ์ข้างต้น รบกวนเพื่อนๆ ผู้รู้ กรุณาให้แง่คิด มุมมอง เพื่อให้เกิดความรอบครอบ และมีอคติให้น้อยที่สุด ในการดำเนินการต่อไป
ขอบคุณครับ
ชัยยุทธ
ทำไม การทำใจยอมรับผลการผ่าตัดที่ล้มเหลว ที่ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อคุณแม่และครอบครัว ยิ่งเจ็บปวด
ทาง รพ. ได้แนะนำทีมแพทย์ ซึ่งมีหัวหน้าทีมที่เกษียณจาก รพ พระมงกุฎเกล้า แต่ชำนาญการด้านนี้ ทำหน้าที่ผ่าตัด เป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ประสานกับ CT SCAN หาเนื้อร้ายเป้าหมาย ประเมินเวลาผ่าตัดไม่เกิน 2 ชมครึ่ง ค่าใช้จ่าย 600,000 บาท
ผลการผ่าตัด เนื้อร้ายที่พบเล็กมาก แต่ใช้เวลาผ่าตัดรวม 5 ชั่วโมง ตัดชิ้นเนื้อ 2 ครั้ง ยาวรวม 25 ซม. เนื่องจากจุดที่ประเมินได้จากกล้องและ CT SCAN ครั้งแรกผิดพลาด จึงรอเบิกเครื่อง CT SCAN เพื่อค้นหาใหม่ หลังการผ่าตัดความดันโลหิตต่ำ เสียเลือดมาก ส่งผลต่อการทำงานอวัยวะอื่นๆล้มเหลว และเสียชีวิตในวันถัดมา
หลังจากคุณแม่เสียชีวิต หัวหน้าทีมแพทย์มาสรุปผลการผ่าตัด และแสดงความเสียใจ ชี้แจงกับพวกเราโดยย่อ คือ ความผิดพลาดจากการใช้กล้องและ CT SCAN เกิดขึ้นได้ทางการแพทย์ เวลาที่ผ่าตัดนาน เพราะรอเบิกเครื่อง CT SCAN และจะช่วยเจรจากับ รพ เพื่อทุเลาค่าใช้จ่าย
แม้ไม่ยอมรับการอธิบายนี้ แต่ในช่วงเวลาที่เจ็บปวด สับสน ของครอบครัว ที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ได้แต่ดำเนินการไปตามขั้นตอน วันรุ่งขึ้น ชำระเงินประมาณ 900,000 บาท นำร่างคุณแม่ไปประกอบกิจทางศาสนา พร้อมทั้งส่งหนังสือให้ทาง รพ. ชี้แจงข้อเท็จจริงการรักษาที่ล้มเหลวนี้
หลังจากประมวลข้อมูลในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปดังนี้
1.เหมือนโดนซ้ำเติมจาก รพ : การคิดค่ารักษา ประมาณ 900,000 จากประเมินไว้ 600,000 บาท (รวมรายการเครื่องมือบางชิ้น ที่เตรียมเยื้อชีวิต แต่ยังไม่ได้ใช้) ทาง รพ. รับไปพิจารณาแก้ไข
2.ยอมรับไม่ได้ : กับคำชี้แจง การหาเนื้อร้ายจากกล้อง และ CT SCAN ผิดพลาดได้ทางการแพทย์ (ให้ความรู้สึก เหมือนเกิดขึ้นได้โดยทั่วไป) นั่นหมายถึง การเจ็บตัวฟรีของผู้ป่วย และเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากโดยสูญเปล่า เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ปกติตามมาตรฐานทางการแพทย์
3. ความเจ็บปวดจากการใช้วิจารณญาณของแพทย์มืออาชีพ : การตัดสินใจขยายเวลาการผ่าตัด แบบไม่มีกรอบเวลา ความปลอดภัยของผู้ป่วยกลายเป็นเป้าหมายรอง การหาชิ้นเนื้อให้สำเร็จเป็นเป้าหมายหลักแทน
ประเด็นอื่นๆ
*ไม่แจ้งครอบครัวถึงผลกระทบจากการขยายการผ่าตัด ด้วยอายุ ความไม่พร้อมของเครื่องช่วยชีวิต แม้คุณแม่ไม่เสียชีวิต ระบบไตและอวัยะต่างๆ อาจจะได้รับผลกระทบรุนแรง จนใช้ชีวิตปกติไม่ได้ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วหลังจากผ่าตัดไม่นาน
*ขณะที่ทีมแพทย์มีเวลาเตรียมการหลายวัน ยังเกิดข้อผิดพลาด ภายใต้ข้อจำกัดของอายุคุณแม่ เวลาที่มีน้อย หลังล้มเหลวครั้งแรก และไม่ได้เตรียมเครื่องมือรองรับ การประเมินทางเลือกยกเลิกภารกิจ กับความเสี่ยงจากการขยายเวลาการผ่าตัด ควรพิจารณาความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก
*การขยายเวลาหาเนื้อร้ายอีกระยะหนึ่ง จาก 2 ชมครึ่ง เป็น 2.45 ถึง 3 ชั่วโมง ไม่สำเร็จ ถ้าตัดสินใจยกเลิกภารกิจ แล้วกลับมาประเมินใหม่อย่างรอบคอบ อาจทำให้ทีมแพทย์เสียหน้า ผู้ป่วยเจ็บตัวฟรี ครอบครัวมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม พวกเราอาจโกรธในช่วงแรก แต่ยังเข้าใจได้ว่าแพทย์มีจรรยาบรรณที่ดี ที่เห็นความปลอดภัยผู้ป่วยเป็นอันดับแรก
*หลายครั้งที่ต้องทำใจยอมรับ เพราะความสูญเสียย้อนคืนไม่ได้ และไม่อยากตอกย้ำ ทำให้น้องๆ รู้สึกผิด ที่ตัดสินใจผ่าตัดครั้งนี้ ยิ่งเจ็บปวด
*เดือนมกราคม ผ่าตัดวันที่ 9 เวลา 06.00-11.00 วันที่ 10 เวลา 17.23 เสียชีวิต วันที่ 11 ชำระค่ารักษา ยื่นหนังสือขอคำชี้แจง รับร่างคุณแม่
วันที่ 18 ขอรายงานการรักษา และ ขอรับคำชี้แจงการผ่าตัดที่ล้มเหลว ที่ยื่นไว้วันที่ 11 ทาง รพ. บ่ายเบี่ยง ขอเวลาเพิ่มอีก 1 สัปดาห์
จากเหตุการณ์ข้างต้น รบกวนเพื่อนๆ ผู้รู้ กรุณาให้แง่คิด มุมมอง เพื่อให้เกิดความรอบครอบ และมีอคติให้น้อยที่สุด ในการดำเนินการต่อไป
ขอบคุณครับ
ชัยยุทธ