เรื่องสยองขวัญจากประสบการณ์จริง เรื่อง เรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวฉัน

สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมเอง อยากมาเล่าประสบการณ์น่ากลัวสมัยเด็กๆให้ทุกคนลองฟังครับ (ติชมได้นะครับ จะขอบคุณทุกการติชมและจะนำไปปรับปรุงครับ)
  เริ่มเข้าเรื่องเลยนะครับ !!! 
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณปี พ.ศ.2556-2557 โดยประมาณครับ ตอนนั้นผมอายุ 13 ปี ครอบครัวผมมักเจอเรื่องน่ากลัวอยู่ตลอด (เอาจริงๆส่วนใหญ่ก็มีแค่ตัวผมกับแม่ผม ที่เจอเรื่องแบบนี้อยู่ตลอด) ครอบครัวผมทำธุรกิจขายสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ร้านจะอยู่ต่างอำเภอเราต้องขี่รถมาเปิดร้านทุกเช้า
ที่ร้านจะเป็นเหมือนห้องแถว ที่มีพ่อค้าแม่ค้าต่างๆมาเปิดร้านกันยาวเหยียด เรื่องมันเกิดจากร้านข้างๆ ป้าแกชื่อดาว (นามสมมติ) ป้าแกเป็นแม่ค้าเหมือนกัน ตอนเรามาเปิดร้านช่วงแรกๆเขาดูเป็นคนใจดีปกติ ร้านของป้าดาวจะเปิดร้านขายน้ำปั่น และของกินเล่นต่างๆ (ผมชอบไปกินร้านของป้าดาว) แกจะเป็นคนชอบพูดชอบคุย ที่บ้านป้าดาวจะเลี้ยงหมาไว้หนึ่งตัว น่าจะเป็นพันธุ์บางแก้ว หมาของป้าดาวจะชอบเห่าเสียงดังตลอด พอเวลาผ่านไปได้ประมาณ 2-3 เดือนป้าดาวแกชอบกวาดขนหมามาที่หน้าร้านของผม แม่ผมเลยต้องไปบอกว่าไม่ให้กวาดขนของหมามาทาหน้าาร้านเพราะผมเป็นภูมิแพ้ เรื่องมันอาจจะเกิดจากตรงนี้ ป้าดาวแกอาจจะไม่พอใจ ช่วงหลังมาเวลาไปซื้อของร้านป้า แกจะทำเป็นนิ่งๆ ไม่พูดไม่คุย แม่ผมเลยไม่ให้ไปซื้อของที่ร้านป้าดาว หลังจากนั้นป้าแกจะเริ่มมาพูดว่าพูดแซะที่ร้านผม เริ่มมีปัญหากัน แต่แม่ผมกับที่บ้านจะไม่ค่อยยุ่งเพราะร้านเพิ่งมาเปิดใหม่ไม่อยากมีปัญหากับใคร เรื่องแปลกๆมันก็เริ่มจากตรงนี้ วันนั้นเป็นวันหยุด ผมเลยต้องมาเปิดร้านกับแม่ แม่ผมก็ขี่รถมาปกติ อยู่ๆก็มีอีกาบินมาชนกระจกอย่างแรง จนเลือดของนกติดกระจก ผมกับแม่ตกใจจนหักรถหลบเกือบลงข้างทาง ผมกับแม่ต่างมองหน้ากัน เพราะเคยเจอเรื่องแปลกๆมาด้วยกันก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนขี้กลัวแม่เลยบอกว่า ไม่มีอะไร เราก็ไปทำฃานกันปกติ พอไปถึงร้านเราก็เปิดร้านกันเหมือนทุกวัน แต่แปลกที่วันนี้ร้านป้าดาวแกปิดประตูเงียบและมีกระถางธูปวางอยู่หน้าร้าน ผมกับแม่ก็ได้แต่มองหน้ากันไม่มีใครพูดอะไร ระหว่างวันนั้นในร้านของป้าดาวมีเสียงไอทั้งวัน คงจะเป็นเสียงของป้าแกก็เลยไม่ได้คิดอะไร ตอนกลางวันแม่ผมจะเป็นคนออกไปซื้อข้าวแล้วผมต้องนั่งเฝ้าที่ร้าน ตอนนั้นผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อย่างเมามันส์ ไม่ได้สนใจอะไร ระหว่างที่เล่นเกมส์อยู่ผมก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในร้าน ก็คิดว่าเป็นแม่กลับมา เสียงเดินนั้น กำลังเดินเข้าไปหลังร้าน หลังร้านผมมันจะเป็นห้องครัว ผมก็ได้ยินแต่เสียงจานเสียงอะไร คิดว่าแม่คงจะเอาจานออกมากินข้าว แต่ได้ยินอยู่แบบนั้นสัก 5-10 นาทีได้ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร จนมีเสียงเรียกชื่อผมอยู่ที่หลังร้าน มันเป็นเสียงแม่ผมว่า มานี่หน่อย!! ผมก็กำลังลุกจากโต๊ะคอมกำลังจะเดินไปที่หลังร้าน จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงรถที่ผมคุ้นเคย เป็นเสียงรถของแม่ผมกำลังขี่มาจอดที่หน้าร้าน ตอนนั้นผมหยุดนิ่งและหันไปมองด้วยสีหน้าที่ตกใจ จนแม่ผมทักว่า เป็นอะไร!! เหมือนผมได้สติรีบวิ่งกระโดดข้ามโต๊ะคอมไปยืนเกาะแขนแม่อยู่หน้าร้าน แม่ผมได้แต่ถามว่าเป็นอะไรอยู่ซ้ำๆ ผมตอบอย่างช้าๆว่า มีเสียงแม่เรียกมาจากหลังบ้าน ผมกับแม่ยังยืนนิ่งกันอยู่หน้าร้าน เพราะยังได้ยินเสียงเหมือนคนจับนู่นจับนี่อยู่ข้างหลัง แต่แม่ผมเป็นคนใจแข็ง แม่บอกกับผมว่า เดี๋ยวเดินไปดูเองไม่มีอะไรหรอก!! แม่ผมกำลังเดินเข้าไปดู ส่วนผมคงไม่ยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวแน่นอน เกาะแขนแม่เดินตามต้อยๆ ไปหลังร้านพอเดินไปถึงประตูหน้าห้องครัว เสียงกับเงียบหายไป แต่ของที่หลังร้านกระจัดกระจายไปหมด วันนั้นทั้งวันผมไม่กล้าอยู่คนเดียวเพราะกลัว แม่ผมจึงตัดสินใจ ปิดร้านและกลับบ้าน ระหว่างเดินทางกลับผมไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่ตัวเองเจอมา จนถึงบ้านผมก็ไม่ได้เล่าอะไรให้แม่ฟัง รีบเดินเข้าไปในห้องนอน ได้แต่นอนคิดกับตัวเองว่าที่เราเจอมันคืออะไร จนลอยยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ช่วง 2 ทุ่มแล้วเพราะได้ยินเสียงพ่อผมกลับมาจากที่ทำงาน เรากำลังจะออกไปกินข้าวกัน ครอบครัวผมมีกัน 5 คน ตอนออกไปกินอะไรข้างนอกเลยต้องรถมอเตอร์ไซค์ไป 2 คัน ผมนั่งซ้อนไปกับพ่อ 2 คน ส่วนพี่กับน้องผมไปกับแม่ ระหว่างทางที่ไปกินข้าวผมกับพ่อก็คุยกันอย่างสนุกเฮฮาจนผมลืมเรื่องที่เกิดไปซะสนิท เราไปนั่งกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุข ขากลับผมก็มากับพ่อเหมือนเดิม ตอนที่นั่งซ้อนท้ายพ่อผม ผมจะชอบชะเง้อหน้าไว้ตรงหัวไหล่ทางด้านขวาของพ่อ เพราะชอบนั่งดูทาง จู่ๆแม่ผมขี่เข้ามาตีคู่ พูดว่า ให้แผ่เมตตาเดี๋ยวนี้ ทั้งคู่เลย!!! ผมกับพ่อก็งงกันทั้งคู่ ว่าตู่ๆทำไมถึงต้องให้แผ่เมตตาด้วย พ่อผมขำแล้วก็ตอบกลับไปว่า หนูเป็นอะไร พ่อผมกับผมก็ยังนั่งหัวเราะกันอยู่ จนแม่ตะคอกว่าให้สวดมนต์แผ่เมตตาเดี๋ยวนี้!!!! จนผมกับพ่อต้องแผ่เมตตา พอถึงบ้านผมกับพ่อก็ถามแม่ว่า ทำไมต้องให้แผ่เมตตาด้วย ตอนนั้นแม่ผมไม่ได้ตอบอะไรกับมาวักคำ แต่ด้วยความรู้สึกของผมที่เจอเรื่องแปลกๆกับแม่มาตลอดเลยรู้เลยว่าแม่ต้องเห็นหรือเจออะไรแน่นอน ส่วนผมก็ขี้กลัว พอคิดแบบนั้นก็รีบกระโดดลงรถวิ่งขึ้นบ้าน พอขึ้นมาบนบ้าน พ่อผมถามย้ำกับแม่อีกครั้งว่าให้แผ่เมตตาทำไม มีอะไรหรือเปล่า สิ่งที่แม่ผมตอบมา ทำเอาผมกับพ่อขนลุกซู่ แม่ผมบอกว่า ขากลับจากร้านข้าวระหว่างทางที่ขี่มาแม่ผมเห็นผู้หญิงตัวขาวซีดนั่งหันหน้าเข้าหาตัวพ่อละโอบพ่อผมไว้ แล้วชะเง้อหน้าออกมาข้างหลังมามองแม่ แต่สิ่งที่น่าขนลุกคือ ผู้หญิงคนนั้นชะเง้อหน้ามาทางเดียวกับผม แม่บอกว่าหน้าผมกับผู้หญิงคนนั้นแทบจะชนกันผมแทบจะทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งมองหน้าพ่อกับแม่ ขนก็พลางลุกวาบมาจากสันหลัง ทุกคนต่างกลัวกับสิ่งที่แม่ผมเห็นและเล่ามา แม่ผมสั่งให้ทุกคนรีบไปอาบน้ำนอน ผมได้อาบคนสุดท้ายหลังจากอาบเสร็จก็เดินออกมาเห็นแม่กำลังนั่นดูทีวีอยู่คนเดียว ผมก็เลยมานั่งดูกับแม่ผมที่ห้องหน้าบ้าน ระหว่างที่ดูจู่ๆก็มีเสียงดัง ตุ้ม!!! เสียงมันมาจากทางหน้าต่าง หน้าต่างบ้านผมจะเป็นกระจก สามารถมอเห็นข้างนอกได้ ตอนที่ได้ยินเสียง ผมกับแม่หันหน้าควับ! ไปทางหน้าต่างพร้อมกันอย่างไว สิ่งที่ผมกับแม่เห็นนั้น มันคือหน้าคน!!! ผมกระโจนอัตโนมัติขึ้นมานั่งอยู่บนตักแม่ พอได้สติผมแทบจะลุกวิ่ง แต่ผมจับแขนไว้แล้วบอกว่าอย่าวิ่ง ตอนนั้นทั้งผมและแม่ต่างก็กลัวกันทั้งคู่ เราค่อยๆลุกกัน ทำเป็นไม่เห็นสิ่งที่เราทั้งค่เห็นเมื่อกี้นี้ พอลุกขึ้นได้ก็ค่อยๆเดินเข้าห้องกัน ผมกับแม่นอนมองหน้ากัน แล้วผมก็ถามขึ้นมาว่า เมื่อกี้นี้แม่ก็เห็นใช่ไหม แม่ผมตอบสั้นๆ อืม!! ผมได้แต่พยายามข่มตานอน แต่ภาพสิ่งที่เพิ่งได้เห็นมามันยังติดตาอยู่ ยิ่งหลับตายิ่งเห็นชัด วันนั้นทั้งคืน ผมกับแม่นอนกันไม่หลับ มานอนกันอีกทีก็เกือบเช้า --------------------- ไว้จะมาเล่าต่อครับ ขณะที่พิมพ์อยู่ก็ทั้งกลัวทั้งง่วงครับ สามารถติชมได้นะครับ ขอตัวไปนอนก่อนครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่