กระทู้นี้ก็เล่าไปเรื่อย...โดยสะใภ้เนปาลีที่มีแม่ย่าน่ารักๆ part5

ฮัลโหลๆ นมัสการท่านผู้อ่านทุกท่านค่า 
คนละอันกับนมัสการพระ อันนี้ นมัสการ ที่แปลว่า สวัสดี
(คนที่โน่นจะออกเสียง นมัสกา แบบซ่อน ร.เรือไว้เบาๆ นมัสการรรรรร์)

รอบนี้กลับมาในแบบรวมมิตร รวมหลายสตอรี่ หลายไทม์ไลน์ไว้ในกระทู้นี้ทีเดียว
จากกระทู้แรกที่เป็นเพียง “ว่าที่สะใภ้เนปาล” สู่ สะใภ้เนปาล 
ตอนนี้อัพระบบ ติดยศลูก1 แล้วค่าา

เดิมทีแพลนจะเขียนมาเป็นๆปีๆแล้ว แต่คิดไม่ออกว่าจะเขียนออกมาแนวไหน 
เข้าใจแม่ลูกอ่อนที่เห่อลูกมั้ย เขียนไปเขียนมา เอ้าทำไมมีแต่เรื่องลูก 
ลบๆ เขียนใหม่ เขียนไปให้ถึงเนปาล เอ้าเป็นกระทู้เตรียมคลอดเฉย 
ก็เลยพักไปก่อน พักก่อน ที่แปลว่าพักยาวมากแม่
เป็นมอมมี่ฟูลไทม์เลี้ยงลูกเองคนเดียว ต้องรอลูกหลับแล้วมานั่งเคาะแป้นพิมพ์เงียบๆคนเดียว
ห้ามลูกผัวรบกวน

Part 1 นมัสเต...(ว่าที่)สะใภ้เนปาลมีเรื่องจะเล่า​ เดี๋ยวเหลาให้ฟังจ้าา
👉https://ppantip.com/topic/38815254

Part 2 นมัสเต...ว่าที่สะใภ้เนปาล(คนเดิม) มาเพิ่มเติม Part2
 👉https://ppantip.com/topic/38847396

Part 3 มาแล้วนะ.... 
👉 https://ppantip.com/topic/39327511

นมัสเต... Part 4 มัมมี่กับแด๊ดดี้เที่ยวไทย by (ว่าที่) สะใภ้เนปาล
👉https://ppantip.com/topic/39539932

ขอแปะลิ้งค์กระทู้ก่อนหน้าสำหรับผู้อ่านหน้าใหม่ที่หลงเข้ามาในนี้นะคะ
ส่วนเจ้าเก่าเจ้าเดิมขอเรียนให้ทราบว่า คุณกำลังอ่านกระทู้ที่ 5 แล้วค่า
ขอบคุณสำหรับการติดตามมากๆเลย
เดิมทีกระทู้ที่5 จะเป็นกระทู้ทริปเทรคกิ้งเกร๋ๆที่ Gosaikunda Lake, Nepal ตุลาคม2563
แต่โควิดเข้ามาพอดี  ทุกอย่างที่จองไว้เตรียมตัวไว้จบสิ้น

อัพเดตชีวิตช่วงที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าอยากรู้มั้ย
แต่ไหนๆก็กวาดสายตามาขนาดนี้แล้วอะเนาะ
(อย่าเพิ่งดราม่ากับภาษาวิบัติที่จะไปๆมาๆเป็นพักๆนะคะ เพิ่มความอรรถรส…เหมือนเดิม อิอิ)

เริ่มเลอ 👇 ปี 2565 / 2022

เดือนกุมภาติดโควิดช่วงวาเลนไทน์พอดี กักตัวอยู่ฮอสพิเทลแบบเฟ้งฟ้างเพียงลำพัง
ต้นเดือนมีนา ไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ไม่เวดดิ้ง ที่เชียงใหม่


// รอคิวไป  6เดือนกว่าจะถึงคิวถ่าย 😁
แต่ก็ยินดีรอ อยากเก็บรูปไว้ดูตอนเป็น สว. (สูงวัย)

กลับมาจากเชียงใหม่ ไปจดทะเบียนสมรส 
(เคสจดกับเอเชียนด้วยกัน ยื่นเอกสารที่สนง.เขต เรารอไป 30วันถ้วน
จนท.ถึงโทรมาแจ้งว่าเอกสารผ่านแล้ว นัดวันนัดพยานไปที่ สนง.เขตได้)
เสร็จเรื่องทะเบียนสมรสปุ๊บ สองวันต่อมาเราตรวจขึ้นสองขีดกันทั้งคู่

สามีขึ้นสองขีดโควิด ก็กักตัวในห้องนอนไป 
ส่วนเราสองขีดจางๆ “ตั้งครรภ์” 
เอาที่ตรวจไปให้นางดู แบบ Social ditancing 
สามีเห็นที่ตรวจขึ้นสองขีดแล้วทิ้งตัวหงายหลังลงเตียง ตึ้มม
บอกว่า OMG เทอก็ติดด้วยหรอเนี่ย โควิดรอบสอง? เหรี่ยล หรี้?
ได้แต่ถอนหายใจ 

พอบอกว่าดูใหม่ นางก็ทำหน้าเนือยๆพร้อมเลิกคิ้วว่า “สองขีดหนิ ก็โควิดไง”
ปวดเฮดกลุ้มฮาร์ทกันเลยทีเดียว จนต้องเฉลย
เท่านั้นแหละ นิ่งกว่าเดิม นั่งนิ่งอยู่ที่ปลายเตียง มองที่ตรวจแบบนิ่งๆ
ทำไมมันไม่โรแมนติก ไม่ดีใจเอามือทาบอก 
น้ำตาไหลกอดกันไอเลิฟยู ไอเลิฟยูทูเบ๊บแบบในคลิปที่เขาลงในโซเชี่ยลนะ😂
แต่ก็เบรคสามีไว้ก่อนว่ายังไม่อยากดีใจวี้ดว้าดนะ ขอไปตรวจเลือดที่ รพ. ให้ชัวร์ก่อน

พยายามกันมาร่วมปี ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับฟูกกับหมอน 
อกหักซ้ำๆหลายรอบพอสมควร 
รอบนี้เราจะไม่ดีใจเก้อใช่ไหม ในหัวคิดแบบนี้


// เนี่ยเธอ ขีดที่สองมันจางมาก
ส่งไลน์ไปถามเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นแม่ลูก1 ได้คำตอบว่า
“จางแค่ไหนก็ท้อง ไป ไปรพ. ไปตรวจเลือด”
ครุ่นคิดๆ จริงหรอว๊าเนี้ยย สองขีดจริงหรอ
ที่ตรวจอาจจะ error ลองตรวจอีกที
ไอยะ สองขีดเหมมือนกัน แถมขีดที่สองเข้มกว่าอันแรกด้วย
อือออ หรือมันจะ error ทั้งสองอัน
พรุ่งนี้จะรีบไป รพ.เลย

รุ่งขึ้นรีบไปแผนกสูติ (คนเดียว) พร้อมยื่นแขนให้ จนท.เอากระบอกมาสูบเลือด
รอผล 1ชม.อย่างใจจดใจจ่อ ตอนนั้นเที่ยงพอดี 
แต่กินข้าวไม่ลงมันตื่นเต้นอะเนาะ นั่งเล่นเกม Puzzle วนไป 
จนถึงคิวได้พบหมอ หมอบอกว่า อืมมม ก็ท้องนะคุณ ค่า HCG 180 
กลับบ้านด้วยใจที่พองโต สามีรออัพเดตอย่างใจจดใจจ่อ
อยากบอกข่าวดีกับมอมมี่ใจจะขาด อิอิ

หลังจากที่ชัวร์แล้วว่าท้อง อาทิตย์ถัดไปอาการแพ้ท้องก็ถาโถมอย่างหนักหน่วง
คลื่นไส้ตั้งแต่ยังไม่ลืมตา ต้อนรับเช้าวันใหม่แบบสับทุกวัน…สับเท้าวิ่งไปอาเจียน ฮื่อ
แพ้ท้องอยู่เกือบสี่เดือน จะไปไหนแต่ละที เสว (=เสียว) มาก

ก่อนไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่เชียงใหม่ สามีชวนเราเข้ายิมออกกำลังกาย 
เรามันก็อินซะด้วย คลาสเต้นใดๆเก็บเกือบครบ
ใช้เครื่องออกกำลังกายทุกเครื่องในยิมเกือบครบ
ไม่รู้ตัวและเลิกคาดหวังว่าเบบี๋จะมา เลยลุยซะหนัก ลูกเกือบหลุด
คุณหมอจ่ายยากันแท้งมาให้  กินทุก 12ชม. ขอบคุณไอต้าวที่เกาะแม่มาแน่นหนึบ 

(อวด) ทุกครั้งที่มีนัดพบหมอ สามีไปด้วยไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียวจนคลอด
ยกเว้นครั้งแรกที่ไปตรวจเลือดคนเดียว เพราะยังไม่หายจากโควิด
อายุครรภ์เข้า13 สัปดาห์ ไปเจาะเลือดฝากครรภ์ + เจาะเลือดตรวจ NIFTY


// กำลังนั่งรถจาก กทม. ไปทริปวัยรุ่นพูลวิลล่าหัวหิน
ทันทีที่ได้รับสายจาก รพ. เรารีบหรี่เสียงเพลงในรถลง บอกเพื่อนๆ ขอคุยสายสำคัญแปบ
สามีขับรถอยู่อยากจะเงี่ยหูมาฟังด้วยใจจะขาด
คุณหมอแจ้งผ่านสายว่าโครโมโซมปกติดีนะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ส่วนเพศลูก จะให้หมอบอกเลยมั้ย เราบอก ค่ะๆ บอกเลยค่ะ
พอรู้เพศลูกแล้วก็กรี๊ดกร๊าดวี๊ดว๊าดดีใจสุดๆ 
By the way เพื่อนเราชาวคณะส่วนใหญ่จะเป็นแนว Event organizer manager สุดๆ
เพื่อนเบรคไว้ว่า เอางี้ Let’s throw the party เลย, gender reveal party this evening นะ!
ว่าแล้วก็เช็คกูเกิลแมพหาร้านแถวๆที่พัก โทรเช็คว่าที่ไหนขายอุปกรณ์สำหรับจัดปาร์ตี้
ตื่นเต้นกันทุกคน แต่สามีตื่นเต้นสุด เพราะต้องรอรู้ทีเดียวตอนเย็นเลย
พอแวะกินข้าวกลางวันกันระหว่างทาง เราสั่งนมชมพูมาแก้วนึง
เพื่อนรีบแซวว่า เอ๊ะ น้ำสีชมพูอ่ะ ลูกสาวไหม 
หือออ หรือกำลังพยายามทำให้หลงกลว่าเป็นลูกสาวแต่จริงๆแล้วลูกชายหล่ะสิ รู้ทันๆ
พอสามีมานั่งข้างๆ เพื่อนก็แซวอีกว่า นั่นๆๆๆๆ แอบเฉลยบีกอลใช่ไหม ไม่ได้ๆๆๆๆ
เป็นวันที่ดีอีกวันนึงในชีวิตเลย มีความสุขรายล้อมไปด้วยเพื่อนที่น่าว๊าก เอ้ย น่ารักค่ะ
(พูดเพราะเป็นพิเศษ55555)

หลังจากทราบผลตรวจ NIFTY เราดีใจตัวลอย ไม่ได้ทำใจตั้งรับสถานการณ์อะไรแล้ว 
จนกระทั่ง คุณหมอโทรแจ้งผลเลือดฝากครรภ์ บอกว่าเลือดจางและเป็นพาหะธาลัสซีเมีย
ให้พาสามีมาตรวจเลือดด้วย ถ้าสามีไม่เป็นพาหะเหมือนกัน ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
แต่…..

.
โอ้วว หลังจากสามีไปตรวจเลือด ผลเลือดออกมา….
เอ้า แกรก็เป็นพาหะเหมือนกันเหรอ

หมอเลยเรียกให้มาตรวจเพิ่มทั้งคู่ เรียกว่าตรวจ PCR-Thalassemia 
วันนัดฟังผล หมอบอกให้พากันมาทั้งคู่
เอาละใจไม่ดีเท่าเท่าไหร่ยังทำใจดีเข้าสู้ 
คิดบวกไว้มันคงไม่บังเอิญขนาดที่จะเป็นพาหะตัวเดียวกัน 
อยู่ห่างกันคนละฟากฟ้า กั้นด้วยภูเขาเอเวอร์เรสต์เลยนะวึ้ยย

ที่ไหนได้…
พาหะตัวเดียวกัน ชนิดเดียวกันไปอีก เนื้อคู่กันยันระบบเลือด 
แทบเป็นลมคาเก้าอี้ในห้องหมอ 
หมอขอส่งต่อให้อาจารย์หมออีกท่านที่เชี่ยวชาญด้านนี้ 
ขอคิวหมอแบบเร็วสุดภายในวันสองวันนี้ได้ไหม เพราะรุ่งขึ้นแพลนบินกลับเนปาล
คือตอนนั้นตื้อไปหมด ควรเลื่อนตั๋วไปช่วงไหนดี 
หมอบอกอายุครรภ์ที่จะเจาะน้ำคร่ำได้ยังไม่ใช่ภายในเร็ววัน หรือในสัปดาห์น้ี
คุณรอพบอาจารย์หมออีกท่านเเล้วบินไปก่อนก็ได้ยังพอมีเวลา
สบายใจเรื่องตั๋วไป1 แค่เลื่อนวันเดินทางออกไป ไม่ต้องยกเลิก

ในวันที่นัดหมายพบอาจารย์หมออีกท่านมาถึง
อาจารย์หมออธิบายถึงความเสี่ยงว่ามีโอกาส 1ใน4 ที่ลูกในท้องมีโอกาสเป็นโรค
และผลที่จะตามมาคือ ทารกตายในครรภ์ 
หรือถ้าเก็บไว้ คลอดออกมาไม่นาน ก็จากเราไปอยู่ดี จะต้องยุติการตั้งครรภ์ 
โอย น้ำตาแตกเเบบเต็มระบบ 
มือไม้อ่อนแรงไปหมด แม้ 3ใน 4 มันอาจจะโอเค ไม่ต้องกังวล 
แต่ลูกในท้องทั้งคน ที่เราเฝ้ารอกันมา 
คำว่า “1ใน 4 ที่อาจจะต้องเอาออก” มันก้องในหูทุกวัน 
ใจเสียได้ทุกวัน ไปไหนทำอะไร  เห็นเด็กตัวเล็กตัวน้อยที่ไหนก็พาเซ้นสิถีบไปหมด
น้ำตาคาอยู่ปลายท่อพร้อมไหล

หมอให้ทางเลือกมาว่าจะเจาะน้ำคร่ำแล้วรู้ผลเลย 
หรือ อัลตร้าซาวด์แล้วลุ้นเอา ชั้นเลือกเจาะน้ำคร่ำ 
แต่ต้องรออายุครรภ์ที่เหมาะสมถึงจะเจาะได้ นั่นคือ 4เดือนไม่เกิน 5เดือน 
(ณ วันนั้น อายุครรภ์ 16w 6d )

วันรุ่งขึ้นบินกลับไปเยี่ยมมัมมี่แดดี้ในรอบ 2ปี 8เดือน ที่ไม่ได้กลับไปเนปาล
หมอออกเอกสาร Fit to fly ให้เรียบร้อย
พร้อมนั่งวีลแชร์จากจุดเช็คอินผู้โดยสารขาออก ไปสู่ Gate รอเครื่อง
เดินเยอะแล้วหน่วงท้องมาก วีลเเชร์ตอบโจทย์ดีมากในการเดินทางครั้งนี้
ทางสนามบิน, สายการบินมีให้บริการ ♿︎

ตัดมาที่บ้าน ณ กรุงกาฐมาณฑุ, เนปาล
มอมมี่แดดดี้ดีใจน้ำตาแทบไหล กลับบ้านรอบนี้แบบ 2+1
เเต่ก็เหมือนจะไม่เข้าใจกับพาหะธาลัสซีเมียที่ทำเราสองคนกลัดกลุ้มเท่าไหร่
บอกว่ากินของดีมีประโยชน์ กินยาบำรุงเลือดเดี๋ยวก็หาย
พี่สะใภ้ถอนหายใจเลย 

ณ จุดนี้ ขอเบิกตัวสมาชิกใหม่ของบ้านที่ยังไม่ได้เขียนลงพันทิป
ได(พี่ชายของสามี) เข้าพิธีแต่งงานเมื่อ พ.ย. 2020
เราและสามี (ฮั่นแน่ ใช้คำว่าสามีไม่หยุด อิอิ) ไม่ได้กลับไปร่วมงานด้วย 
เพราะโควิดที่เนปาลช่วงนั้นดุพอสมควร ตั๋วแพงด้วย 
ตามธรรมเนียมหลังแต่งงาน ผู้หญิงเเต่งเข้าบ้านผู้ชาย 
พี่สะใภ้ก็จะอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย 24/7

การกลับมาเนปาลครั้งนี้ ถือเป็นการพบกันตัวเป็นๆครั้งแรกระหว่างพวกเราและพี่สะใภ้
พี่สะใภ้ซึ่งเราต้องเรียกว่า ดีดี้ อายุมากกว่าเราเกือบ 2ปี 
ดีดี้ทำงาน Lab อยู่ในโรงพยาบาล 
ทีนี้เรื่องการแพทย์การหมออะไร ค่อนข้างจะเบาใจและหมดห่วง
เพราะดีดี้เปิดคลินิก Lab เองด้วย ก็จะมีหมอ จนท.โภชนาการ พยาบาลที่คลินิกให้เราเบาใจ

มาต่อที่พาหะธาลัสซีเมียที่เราทั้งคู่เป็น คุณหมออธิบายไว้อย่างนี้
1 ใน 4 มีโอกาสที่เด็กในครรภ์ "ปกติ" ไม่เป็นทั้งพาหะ และไม่เป็นโรค
2 ใน 4 เป็น”พาหะ”ธาลัสซีเมีย
1 ใน 4 เป็น”โรคธาลัสซีเมีย” เคสนี้ต้องยุติการตั้งครรภ์ เนื่องจาก ทารกมักจะมีภาวะซีดมากตั้งแต่ในครรภ์ หัวใจโต ตับม้ามโต มีน้ำในช่องอกและช่องท้อง ผิวหนังบวมน้ำ และมักเสียชีวิตตั้งแต่ อยู่ในครรภ์หรือภายหลังคลอด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 

กลับมาที่เนปาล  เรายังคงแพ้ท้องไม่หยุดหย่อน
กินอะไรได้ทีละนิดละน้อย อาศัยกินบ่อยๆ 
จมูกไวเหม็นไปทุกกลิ่นไม่ว่าจะกลิ่นหอมหวนหรือเหม็น จมูกเหมาว่าเหม็นหมด 
สามีงดทาโรลออนตั้งแต่รู้ว่าเราแพ้ท้อง
กลิ่นข้าวหอมๆที่เพิ่งหุงสุกจากหม้อ เราก็ไม่สามารถทนกลิ่นได้ไหว 
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ทำกับข้าว เพราะทนกลิ่นไม่ได้จริงๆ
มอมมี่และดีดี้เอาอกเอาใจดีมาก 
เป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องล้างจานอ่ะเธอ แค่ยืนอยู่หน้าซิงค์ 
มอมมี่จะเรียกอย่างเดียวบอกว่าห้ามล้างจานนะ อย่ายืนนาน ไปนั่งๆนอนๆในห้อง


นี่เลย ของโปรดช่วงท้อง เผา อบ นึ่ง เอาหมด ขอแค่ให้ได้กินมัน
หลังๆรู้สึกว่าลำบาก ซื้อแบบสุกพร้อมทานตามฟู๊ดคอร์ทในห้าง ง่ายสุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่