โดนธนาคารกสิกรปรับลดวงเงินการโอนผ่าน K plus เหลือ 50,000 บาทต่อวันค่ะ (กระทู้ระบายความในใจ)

เราโดนธนาคารปรับลดวงเงินการโอน เหลือแค่ 5หมื่นบาทต่อวันค่ะ 

รู้ตัวตอนที่ต้องจ่ายบัตรเครดิตของกสิกรเอง แล้วไม่สามารถจ่ายได้เนื่องจากเกินวงเงินทำรายการ
เลยโทรถาม call center เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นลูกค้ากลุ่มพิเศษ (?) เลยโดนปรับวงเงิน
ให้ติดต่อสาขา เพื่อขอปรับวงเงิน 

พอเราไปติดต่อที่สาขา สาขาก้ งงๆ โทรเข้าหา call center อีกที
มีการขอเอกสาร หนังสือรับรองการทำงาน เงินเดือน เอกสารการเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ และอื่นๆอีก
ทั้งๆที่เอกสารเหล่านี้ธนาคารเคยได้รับตอนเราสมัครบัตรเครดิตอยู่แล้ว

สอบถามเหตุผล ทางธนาคารแจ้งว่า เราเป็นลูกค้ากลุ่มพิเศษ เนื่องจากประกอบอาชีพอิสระ (อาชีพแพทย์)
เลยถูกปรับวงเงิน แต่ไม่พูดออกมาตรงๆว่า กลัวเราจะเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หรือกลัวว่าบัญชีของเราเป็นบัญชีม้า

สรุปเราแก้ไขปัญหาโดยการจ่ายบัตรเครดิตส่วนที่เหลือผ่านเคาท์เตอร์ และยกเลิกบัตรเครดิตทั้งหมดค่ะ
พอจะจ่าย จะเอาเงินจากในบัญชีกสิกร ก็ไม่สามารถกดเงินได้เพียงพอ เนื่องจากโดนกำหนดยอดกดเงินสดโดยไม่ใช่บัตรอีก
ต้องเดินไปธนาคารอื่น กดเงินมาจ่ายส่วนที่เหลือค่ะ 

และพึ่งทราบจากกระทู้อื่นว่า ธนาคารอ้างว่าตั้งใจบรรเทาความเสียหายให้ลูกค้าที่อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์บ้าง
ซึ่งการทำแบบนี้กระทบกับตัวเราโดยตรงค่ะ ต้องเสียเวลาไปสาขา แล้วไม่ได้อะไรเลย แถมเสียความรู้สึกอีก
การที่ต้องเตรียมเอกสารมา เพื่อขอวงเงิน ในการโอนเงินออกจากบัญชีตัวเอง เป็นอะไรที่เราคิดว่ามันไม่สมควรค่ะ 
ถ้าเป็นการขอวงเงินบัตรเครดิต อันนี้เราเข้าใจค่ะ ทำไมเราถึงไม่มีสิทธิ์ในการโอนเงินออกจากบัญชีตัวเองหรอคะ 

เราคิดว่านโยบายนี้ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องมิจฉาชีพได้ตรงจุดค่ะ
เราอาจจะเป็นลูกค้าตัวเล็กๆ ที่ธนาคารไม่ได้เห็นความสำคัญ เลยคิดจะปรับยอดเงินแบบสุ่มละมั้งคะ 

สุดท้ายนี้ ก็คงต้องบอกลา กสิกรไทยค่ะ ในเมื่อคุณไม่เห็นความสำคัญของเรา เราก็จะไม่ใช้บริการอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่