วิเคราะห์พฤติกรรมการตัดสินใจในซีรีส์ Squid Game 2 : ตอนที่ 4 'หากมีคนใดคนหนึ่งล้มเหลว' ทั้งทีมก็ต้อง"พ่ายแพ้"

 วิเคราะห์พฤติกรรมการตัดสินใจในซีรีส์ Squid Game 2 : ตอนที่ 4 ““เพนทาธลอนหกขา” (Six-Legged Pentathlon)”
(เนื้อหาต่อไปนี้คือ สปอยด์ในตอนที่ 4 ของ Squid Game ซีซั่น 2)
ความเข้มข้นพุ่งทะยานเมื่อคนที่คิดว่าเป็นทีม เริ่มถูกทดสอบให้มองคนอื่นกลายเป็นศัตรู กลยุทธ์ต่างๆ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างและเพิ่มความโหดร้ายมากขึ้น รวมถึงเกมต่อไปจะไม่เหมือนเดิมดั่งภาคที่แล้ว 'กีฮุน' พระเอกที่เคยเป็นแชมป์และเป็นความหวังของคนในเกม เริ่มไม่สามารถเดาเกมส์ต่อไปได้แล้ว ขณะเดียวกัน ผู้เล่น 001 ก็เริ่มแสดงตัวตนชัดมากขึ้น ทุกการกระทำของเค้า ก่อให้เกิดความสงสัยในใจของพระเอกอยู่เสมอ
นี่คือจุดเริ่มต้นของความท้าทายและความยากที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้

ผู้เล่น 001 เปิดเผยแผนการของเขา

หลังจากผู้เล่น 001 ที่เป็นดั่ง The Frontman คือผู้ลงคะแนนคนสุดท้ายของตอนเปิดของ Episode 4 เริ่มต้นด้วยเขาเข้าใกล้กีฮุนและสารภาพในบทสนทนาอันเยือกเย็นว่า จะโหวตให้เกมเล่นต่อไป และประกาศโน้มน้าวใจให้คนอื่นด้วยการชักจูงว่า 'จะไปกลัวอะไรกับเกมต่อไป เรามีคนที่เคยเป็นแชมป์ อยู่ในเกมครั้งนี้' จากชื่อเสียงของกีฮุนนั้น ที่เป็นที่ 1 ของเกมในภาคก่อน 

จากนั้นผู้เล่น 001 ค่อยๆ ใช้เล่ห์เหลี่ยมในการชักจูงผู้เล่นคนอื่นให้ไว้ใจพระเอกและตัวเขาเอง โดยแสร้งทำเป็นสร้างมิตรและกำลังใจอยู่เสมอๆ ต่อมา ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อ 'ทานอส' และ 'มยองกี' ต่อยกันกลางห้องโถง ผู้เล่น 001 เข้าขัดขวางและล้มทานอสลง ทำคนในเกมตะลึงว่าเขาที่ดูนิ่งๆ จะต่อยคนเก่งได้ถึงขนาดนี้ เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงผู้เล่น 001 นั่นไม่ธรรมดา !

“เพนทาธลอนหกขา” (Six-Legged Pentathlon)

เกมใหม่สุดท้าทายที่เปิดตัวในตอนนี้คือ “เพนทาธลอนหกขา” ซึ่งเป็นเกมแบบทีมที่ประกอบด้วยมินิเกม 5 เกม ได้แก่

 • ทักจี (Ddakji)
 • Flying Stone
 • กงกี (Gong-gi)
 • ลูกข่าง (Spinning Top)
 • เจกี (Jegi)

ผู้เล่นแต่ละทีมต้องผูกขาของพวกเขาเข้าด้วยกัน และเคลื่อนตัวผ่านสนามแข่งขันพร้อมเล่นมินิเกมในแต่ละจุดที่กำหนดไว้ ความสำเร็จของทีมขึ้นอยู่กับผู้เล่นแต่ละคนในแต่ละเกม และการเล่นเกมทั้งหมดต้องทำให้เสร็จภายในเวลา 5 นาที หากล้มเหลว สมาชิกทั้งทีมจะถูกยิงตายทันที

ทีมของกีฮุน ประกอบด้วย
 • ผู้เล่น 390 (จองแบ): อดีตเพื่อนสนิทของกีฮุน
 • ผู้เล่น 001 (อินโฮ): ชายหนุ่มจอมวางแผน
 • ผู้เล่น 222 (จุนฮี): หญิงสาวที่กำลังตั้งท้องอยู่
 • ผู้เล่น 388 (แดโฮ): อดีตนาวิกโยธิน

การแข่งขันที่โหดร้าย

สองทีมแรกเข้าสู่สนามพร้อมความตึงเครียด ทีม 1 เจอปัญหากับเกมทันทีตั้งแต่ด่านแรก เพราะต้องใช้ความอดทนและความแม่นยำในการเล่นทักจี ส่วน ทีม 2 เกือบเจอกับหายนะใน Flying Stone เมื่อหินที่ปาได้กระเด็นออกจากสนาม

แม้ทั้งสองทีมพยายามอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีทีมใดสามารถทำเพนทาธลอนได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด ส่งผลให้สมาชิกของทั้งสองทีมถูกประหารทั้งหมด ความโหดร้ายนี้ย้ำให้เห็นถึงเกมนรกที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน

ความสำเร็จของทีม ขึ้นอยู่กับทุกคนในทีม: บทเรียนจาก Squid Game 2

ในซีรีส์ Squid Game ซีซั่น 2 ตอนที่ 4 ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ การทำงานเป็นทีม ผ่านเกมที่เรียกว่า “เพนทาธลอนหกขา” ซึ่งทุกคนในทีมต้องผูกขาเข้าด้วยกันและเล่นมินิเกม 5 เกมด้วยความสามัคคี การแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความกดดันของสถานการณ์ในเกมเท่านั้น แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญที่นำมาปรับใช้กับชีวิตจริง โดยเฉพาะในเรื่อง การทำงานเป็นทีมเพื่อความสำเร็จร่วมกัน

บทเรียนจากเกม: ความเหลาะแหละของคนๆหนึ่ง ส่งผลต่อทั้งทีม

ในเกมนี้ ความสำเร็จของทีมไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ “ความเก่ง” ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในทีม หากมีคนใดคนหนึ่งล้มเหลว ทั้งทีมก็ต้องพ่ายแพ้และเผชิญกับจุดจบที่เลวร้าย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการทำงานเป็นทีมต้องการทั้งความรับผิดชอบส่วนตัวและความสามารถในการประสานงานร่วมกัน

สิ่งที่ชัดเจนในเกมนี้คือ

 1. ความเชื่อมโยงของทุกคน: การผูกขาเข้าด้วยกันทำให้ทุกคนต้องเคลื่อนไหวอย่างเป็นหนึ่งเดียว หากคนใดคนหนึ่งพลาด ไม่เพียงแต่เขาจะล้ม แต่คนทั้งทีมจะล้มไปด้วย

 2. ความสำคัญของการปรับตัว: แต่ละเกมในเพนทาธลอนต้องใช้ทักษะที่แตกต่างกัน ทุกคนในทีมต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวและแบ่งหน้าที่ตามความถนัดของตน

 3. ความไว้วางใจ: ทุกคนต้องเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม แม้ว่าความกดดันและความกลัวจะทำให้เกิดความลังเล

ข้อคิดการทำงานเป็นทีมจาก Squid Game

 1. “คนเก่ง” ต้องยกทีมไปข้างหน้า ไม่ใช่ฉายเดี่ยว:
คนเก่งที่แท้จริงไม่ใช่คนที่ทำงานได้ดีคนเดียว แต่คือคนที่ช่วยยกระดับทีมและสร้างความสำเร็จร่วมกัน หากคนเก่งมัวแต่ทำทุกอย่างด้วยตัวเองโดยไม่สนใจทีม คนอื่นจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และทีมจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้

 2. “ความเหลาะแหละ” ทำลายทีม:
หากมีใครคนหนึ่งในทีมที่ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง ความล้มเหลวของเขาจะกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำลายความพยายามของทุกคน การทำงานในทีมจึงต้องการความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบจากทุกคน

 3. “ความสามัคคี” คือหัวใจ:
ใน Squid Game 2 ไม่มีใครสามารถอยู่รอดได้โดยลำพัง เช่นเดียวกับการทำงานในชีวิตจริง ความสำเร็จที่แท้จริงเกิดจากการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่การแข่งขันกันเอง

 4. การแบ่งหน้าที่ตามความถนัด:
แต่ละคนในทีมมีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง การทำงานเป็นทีมที่ดีคือการรู้จักแบ่งหน้าที่ตามความถนัด และใช้ศักยภาพของแต่ละคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Squid Game สอนเราว่า ความสำเร็จของทีมไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเก่งของใครคนใดคนหนึ่ง แต่ขึ้นอยู่กับความสามัคคี ความมุ่งมั่น และการทำงานร่วมกัน หากคนใดคนหนึ่งเหลาะแหละ ทีมย่อมล้มเหลว แต่หากทุกคนในทีมใส่ใจในหน้าที่ของตัวเองและทำงานด้วยใจที่พร้อมช่วยเหลือกัน ทีมย่อมก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ไม่ยาก

ในชีวิตจริง การทำงานเป็นทีมคือทักษะสำคัญที่ทุกคนต้องเรียนรู้ จงเป็นคนที่ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ยังช่วยผลักดันทีมไปข้างหน้า เพราะเมื่อทีมสำเร็จ ความสำเร็จนั้นจะเป็นของทุกคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่