ผู้ชายกับเทียนไข
ชายคนหนึ่งเดินอยู่ท่ามกลางความมืดตามลำพังอย่างไร้จุดหมาย เดินเหนื่อยเพื่อใคร เพื่ออะไร ยังเป็นคำถามอยู่ในใจ รู้แค่ว่าต้องเดินไปข้างหน้าไปเรื่อย ๆ ถึงจะรู้สึกกลัว แต่เขาก็พอใจที่จะเดินไปทั้ง ๆ อย่างนี้ วันหนึ่งเขาได้เดินไปพบเทียนไขเล่มหนึ่งที่มีเปลวไฟสว่างไสว เขาหยุดจ้องมองเทียนไขเล่มนี้เป็นเวลานาน และในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้า ตัดสินใจคว้าเทียนไขเล่มนั้นมาถือไว้อยู่ในมือ มันรู้สึกอบอุ่นมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่อในมือเขามีเทียนไขที่มีเปลวไฟสว่างไสวเขาเริ่มมองเห็นทาง แสงสว่างจากเทียนไขมันทำให้เขามองเห็นจุดหมายข้างหน้า ว่าต้องเดินไปที่ไหน เพื่ออะไร และสามารถเดินไปข้างหน้าได้โดยไร้ความเหน็ดเหนื่อยและหวาดกลัว เขาเดินไปข้างหน้าอย่างมีความสุขและมีจุดหมาย เขาได้เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงครึ่งทางของจุดหมายที่มองเห็นอยู่ข้างหน้า เหลืออีกเพียงครึ่งทางเท่านั้น เขากลับพลาดทำเทียนไขเล่มนั้นหลุดไปจากมือ เขาพยายามเอื้อมมือไปหยิบ ไขว่คว้าอย่างไรก็ไม่สามารถหยิบเทียนไขเล่มนั้นขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่เทียนไขเล่มนั้นก็อยู่ตรงหน้า เขาพยายามเดินเข้าไปไกล้เทียนไขเล่มนั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้ง ๆ ที่เปลวไฟจากเทียนไขยังสว่างอยู่แต่หนทางข้างหน้ากลับมืดมน เป้าหมายข้างหน้าก็เลือนรางจนหายไป จนเขาไม่รู้ว่าจะต้องเดินต่อไปทางไหน เดินเพื่ออะไร เหนื่อยเพื่ออะไร เขารำพึงอยู่ในใจ “ขอหยุดอยู่ตรงนี้ได้ไหม ไม่อยากไปข้างหน้าต่อแล้ว” น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาโหยหาวันที่เขามีเทียนไขอยู่ในมือ เขาพึ่งตระหนักว่าเทียนไขเล่มนี้สำคัญกับชีวิตเขามาก ทำไมเขาไม่รักษาเทียนไขเล่มนี้ไว้ให้ดี ๆ กลับปล่อยให้หลุดจากมือไป เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไหม จะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไรเมื่อไม่มีเทียนไขเล่มนี้แล้ว เขาทำได้แต่รำพึงรำพันถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วและไม่อาจที่จะเป็นจริงได้ และแสงสว่างจากเทียนไขที่แต่ก่อนเคยแสนอบอุ่นและมีความหมาย กลับค่อย ๆ กลายเป็นความร้อนเผาผลาญเขา ยิ่งเขาพยายามจะไปใกล้มากเท่าไร ยิ่งเขาพยายามที่จะไขว่คว้ามากเท่าไรความร้อนยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น แสนเจ็บปวดจนแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขาอยู่อย่างนั้นไปนานแสนนาน เขายินดีที่จะอยู่ใกล้เทียนไขเล่มนั้น ถึงแม้ว่าความร้อนจากเทียนไขจะแผดเผาเขาจนแทบจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงแม้ว่าจะทรมานแสนสาหัสเพียงไรเขาก็ไม่อาจจะตัดใจจากเทียนไขเล่มนั้นได้ มีแต่เพียงความคิดอยู่ในใจ “จะเดินต่อไปทางไหน เดินไปเพื่ออะไร ขอยุดชีวิตไว้ตรงนี้ได้ไหม” แต่ในช่วงเวลานั้นเขาได้นึกถึงผู้ที่รักเขาที่สุดในโลกโดยไม่มีเงื่อนไข เขาไม่อยากทำให้คน ๆ นั้นเสียใจ เขาต้องเดินต่อ เขาเริ่มหวาดกลัวกับความร้อนจากเทียนไข เขาค่อย ๆ ถอยห่างออกมาจากเทียนไขอย่างแสนยากลำบาก เพราะอีกใจก็อยากพยายามไขว้คว้าเทียนไขเล่มนั้น แต่มันร้อนเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน ความหวาดกลัวในความร้อนจากเทียนไขก็ค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้นในใจ มันทำให้เขาต้องพยายามถอยห่างออกมากอีกครั้ง ไม่รู้ว่าวันเวลาผ่านไปนานแสนนานแค่ไหน รู้แต่ว่ามันแสนยาวนานและทรมาน เจ็บปวดรวดร้าว จนเขาคิดว่าหากเดินต่อไปข้างหน้าได้ เขาคงไม่มีความกล้าที่จะหยิบเทียนไขเล่มอื่นได้อีกต่อไป และเขาก็เริ่มเดินต่อไปภายใต้ความมืดโดยปราศจากเทียนไขอย่างเคว้งคว้างและไร้จุดหมายอีกครั้ง อย่างน้อยความทรมานมันก็น้อยลง .......
โดย..อ้วน ๆ แด่..หนู ๆ สนับสนุนโดย คาปิบาร่าและแมวส้ม
ผู้ชายกับเทียนไข
ชายคนหนึ่งเดินอยู่ท่ามกลางความมืดตามลำพังอย่างไร้จุดหมาย เดินเหนื่อยเพื่อใคร เพื่ออะไร ยังเป็นคำถามอยู่ในใจ รู้แค่ว่าต้องเดินไปข้างหน้าไปเรื่อย ๆ ถึงจะรู้สึกกลัว แต่เขาก็พอใจที่จะเดินไปทั้ง ๆ อย่างนี้ วันหนึ่งเขาได้เดินไปพบเทียนไขเล่มหนึ่งที่มีเปลวไฟสว่างไสว เขาหยุดจ้องมองเทียนไขเล่มนี้เป็นเวลานาน และในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้า ตัดสินใจคว้าเทียนไขเล่มนั้นมาถือไว้อยู่ในมือ มันรู้สึกอบอุ่นมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เมื่อในมือเขามีเทียนไขที่มีเปลวไฟสว่างไสวเขาเริ่มมองเห็นทาง แสงสว่างจากเทียนไขมันทำให้เขามองเห็นจุดหมายข้างหน้า ว่าต้องเดินไปที่ไหน เพื่ออะไร และสามารถเดินไปข้างหน้าได้โดยไร้ความเหน็ดเหนื่อยและหวาดกลัว เขาเดินไปข้างหน้าอย่างมีความสุขและมีจุดหมาย เขาได้เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงครึ่งทางของจุดหมายที่มองเห็นอยู่ข้างหน้า เหลืออีกเพียงครึ่งทางเท่านั้น เขากลับพลาดทำเทียนไขเล่มนั้นหลุดไปจากมือ เขาพยายามเอื้อมมือไปหยิบ ไขว่คว้าอย่างไรก็ไม่สามารถหยิบเทียนไขเล่มนั้นขึ้นมาได้ ทั้ง ๆ ที่เทียนไขเล่มนั้นก็อยู่ตรงหน้า เขาพยายามเดินเข้าไปไกล้เทียนไขเล่มนั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้ง ๆ ที่เปลวไฟจากเทียนไขยังสว่างอยู่แต่หนทางข้างหน้ากลับมืดมน เป้าหมายข้างหน้าก็เลือนรางจนหายไป จนเขาไม่รู้ว่าจะต้องเดินต่อไปทางไหน เดินเพื่ออะไร เหนื่อยเพื่ออะไร เขารำพึงอยู่ในใจ “ขอหยุดอยู่ตรงนี้ได้ไหม ไม่อยากไปข้างหน้าต่อแล้ว” น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาโหยหาวันที่เขามีเทียนไขอยู่ในมือ เขาพึ่งตระหนักว่าเทียนไขเล่มนี้สำคัญกับชีวิตเขามาก ทำไมเขาไม่รักษาเทียนไขเล่มนี้ไว้ให้ดี ๆ กลับปล่อยให้หลุดจากมือไป เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไหม จะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไรเมื่อไม่มีเทียนไขเล่มนี้แล้ว เขาทำได้แต่รำพึงรำพันถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วและไม่อาจที่จะเป็นจริงได้ และแสงสว่างจากเทียนไขที่แต่ก่อนเคยแสนอบอุ่นและมีความหมาย กลับค่อย ๆ กลายเป็นความร้อนเผาผลาญเขา ยิ่งเขาพยายามจะไปใกล้มากเท่าไร ยิ่งเขาพยายามที่จะไขว่คว้ามากเท่าไรความร้อนยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น แสนเจ็บปวดจนแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขาอยู่อย่างนั้นไปนานแสนนาน เขายินดีที่จะอยู่ใกล้เทียนไขเล่มนั้น ถึงแม้ว่าความร้อนจากเทียนไขจะแผดเผาเขาจนแทบจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ถึงแม้ว่าจะทรมานแสนสาหัสเพียงไรเขาก็ไม่อาจจะตัดใจจากเทียนไขเล่มนั้นได้ มีแต่เพียงความคิดอยู่ในใจ “จะเดินต่อไปทางไหน เดินไปเพื่ออะไร ขอยุดชีวิตไว้ตรงนี้ได้ไหม” แต่ในช่วงเวลานั้นเขาได้นึกถึงผู้ที่รักเขาที่สุดในโลกโดยไม่มีเงื่อนไข เขาไม่อยากทำให้คน ๆ นั้นเสียใจ เขาต้องเดินต่อ เขาเริ่มหวาดกลัวกับความร้อนจากเทียนไข เขาค่อย ๆ ถอยห่างออกมาจากเทียนไขอย่างแสนยากลำบาก เพราะอีกใจก็อยากพยายามไขว้คว้าเทียนไขเล่มนั้น แต่มันร้อนเหลือเกิน ทรมานเหลือเกิน ความหวาดกลัวในความร้อนจากเทียนไขก็ค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้นในใจ มันทำให้เขาต้องพยายามถอยห่างออกมากอีกครั้ง ไม่รู้ว่าวันเวลาผ่านไปนานแสนนานแค่ไหน รู้แต่ว่ามันแสนยาวนานและทรมาน เจ็บปวดรวดร้าว จนเขาคิดว่าหากเดินต่อไปข้างหน้าได้ เขาคงไม่มีความกล้าที่จะหยิบเทียนไขเล่มอื่นได้อีกต่อไป และเขาก็เริ่มเดินต่อไปภายใต้ความมืดโดยปราศจากเทียนไขอย่างเคว้งคว้างและไร้จุดหมายอีกครั้ง อย่างน้อยความทรมานมันก็น้อยลง .......
โดย..อ้วน ๆ แด่..หนู ๆ สนับสนุนโดย คาปิบาร่าและแมวส้ม