จิตคือรู้เป็นได้ทั้งความหมายโลกียและโลกุตระ จะเอาความหมายอย่างไหน จิตเป็นให้ได้
รู้เปลี่ยนสภาพเป็นจิตสังขารเพราะไม่อุเบกขากับรู้
อุเบกขา เอกคตา เป็นตัวกำหนดว่าเห็นสภาวะรู้จริงหรือไม่
จิตไม่ตั้งมั่นกับการรู้ขันธ์5 จิตจะไปจมในขันธ์5 รู้รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน จะมีเรา(ตัวตน)เป็นผู้รู้
การรู้จิตจึงต้องห่างจากการเกิดของขันธ์5 ห่างอย่างไร คือมห้มีช่องว่างในการรู้ อากาศธาตุในธาตุ6
จิตผู้รู้กับอารมณ์ในขันธ์5 จึงต้อง"ให้เห็นเป็นคนละส่วนในทุกขณะการรู้"
จิตไม่อิสระเพราะมีBondingหรือพันธะ จิตติดอยู่กับขันธ์5
สภาวะสุดท้ายที่จิตแต่ละดวงทำหน้าที่ คือ"การขัดอาสวะที่อยู่ในตัวมันเองออก(ดับรอบ)สู่สภาวะประภัสสรของตัวมันเอง
ตกจากสภาวะรู้ เพราะอัตตาตัวตน
รู้เปลี่ยนสภาพเป็นจิตสังขารเพราะไม่อุเบกขากับรู้
อุเบกขา เอกคตา เป็นตัวกำหนดว่าเห็นสภาวะรู้จริงหรือไม่
จิตไม่ตั้งมั่นกับการรู้ขันธ์5 จิตจะไปจมในขันธ์5 รู้รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน จะมีเรา(ตัวตน)เป็นผู้รู้
การรู้จิตจึงต้องห่างจากการเกิดของขันธ์5 ห่างอย่างไร คือมห้มีช่องว่างในการรู้ อากาศธาตุในธาตุ6
จิตผู้รู้กับอารมณ์ในขันธ์5 จึงต้อง"ให้เห็นเป็นคนละส่วนในทุกขณะการรู้"
จิตไม่อิสระเพราะมีBondingหรือพันธะ จิตติดอยู่กับขันธ์5
สภาวะสุดท้ายที่จิตแต่ละดวงทำหน้าที่ คือ"การขัดอาสวะที่อยู่ในตัวมันเองออก(ดับรอบ)สู่สภาวะประภัสสรของตัวมันเอง