สวัสดีค่าทุกโค้นน ก่อนอื่นขอ Happy New Year ทุกคนนะคะ 🎉🎉
ขอให้ปี 2025 นี้เป็นปีที่ทุกคนสมหวัง สมดั่งใจปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ
ถ้าหยุดยาวที่ผ่านมา บางท่าน (และตัวจขกทเอง) ไม่ได้มีไปเที่ยวไหน ก็ขอไห้โพสต์นี้ได้พาทุกคนเที่ยว Fukuoka ผ่านตัวอักษรและรูปภาพปลากรอบในโพสต์นี้นะค้า
ทริปนี้เต็มไปด้วยความสุขความสบายใจมากๆ มากจนอยากเขียนแชร์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหลายๆ ท่าน หรือยังไงเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่อาจกำลังเตรียมตัว หรือกำลังลังเลใจจะไปหรือยังไงดี ขอให้ข้อมูลในกระทู้นี้เป็นตัวช่วยตัดสินใจ ช่วยเตรียมตัวจะไป Fukuoka กันค่ะ
ทริปนี้เป็นการเดินทางคนเดียวค่ะ และเป็นการกลับไปญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจาก COVID19 เลือก Fukuoka เพราะจริงๆ ยังไม่เคยไป แถมคิดว่า Slow กว่า ราคาดีกว่าเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และครั้งนี้อยากพักจากความวุ่นๆ คิดว่า Fukuoka น่าจะเป็น The best choice ค่ะ 🎄🎅☃️
เราเดินทางช่วง 5 – 11 December 2024 ค่ะ อากาศหนาวถูกใจมากๆ เฉลี่ยทั้งทริปอยู่ที่ 10 – 14 องศาค่ะ โชคดีที่ไม่เจอฝนเลย แต่ก็ Cloudy และ Windy สุดๆ ⛅
เราเดินทางด้วย Air Asia X ทั้งไปและกลับค่ะ
>
ขาไป ออกจากสนามบินฯ ดอนเมืองวันที่ 5 Dec เวลา 01.55 ถึง สนามบินฯ Fukuoka เวลา 8.55
>
ขากลับ ออกจากสนามบินฯ Fukuoka วันที่ 11 Dec เวลา 10.00 ถึง สนามบินฯ ดอนเมืองเวลา 15.30 ค่ะ(โดยประมาณนะคะ)
โดยภาพรวมการเดินทางมีดังนี้ค่ะ
>
5 Dec – Don Mueang Airport > Fukuoka Airport > Hakata Station > Shin Shin Ramen > Gong Cha > Hotel
>
6 Dec - Hakata Station > Karato Fish Market > Mojiko Retro > Fukuoka Art Museum > Ohiri Park > Hotel
>
7 Dec – Hakata Station > Yufuin > Christmas Market @ Hakata Station > Hotel
>
8 Dec - Hakata Station > Kumamoto Station > Kumamoto Castle > Back to Hakata Station > Umi-no Nakamichi Station > Marine World > Hotel
>
9 Dec – Hakata Station > Nagasaki Station > Nagasaki Atomic Museum > China Town > Megane Bridge > Tenjin > Hotel
>
10 Dec – Fukuoka Downtown > Canal City > Tenjin > Hotel
>
11 Dec – Fukuoka Airport > Don Mueang Airport > Home
ทั้งทริป เราพักที่ President Hotel Hakata ใกล้สถานี Hakata ประมาณ 700 เมตร แต่ที่ใกล้มากๆ คือสถานี Gion ค่ะ ใกล้แบบ 200 เมตร แต่ทริปนี้เราเดินทางไปนอกเมือง ไปต่างจังหวัดเกือบทุกวัน นั่ง JR และ Shinkansen บ่อย เลยไม่ค่อยได้ใช้บริการสถานี Gion เท่าไหร่ค่า แหะๆ
ถ้าพร้อมออกเดินทางไปด้วยกันแล้ว ก็เชิญเลยค่า ✈️
=====================================================================================================
5 Dec ✈️
ก่อนเดินทางเราตื่นเต้นสุดๆ เลยค่ะ ยิ่งงานวุ่นๆ ยิ่งตื่นเต้น เอาเป็นว่าเวลาเครียดๆ เรื่องงาน พอใจคิดว่ากำลังจะได้ไปเที่ยวแล้วนะ มันสร้างความรู้สึกฮึด ฮึบ สู้! ขึ้นมาได้ทุกที ฮ่าๆ
และเนื่องจาก Flight เราค่อนข้างดึก หลังจากเลิกงานก็มีกลับมาตรวจสอบความเรียบร้อยของกระเป๋า เช็คอีกซักรอบว่าไม่หลงลืมอะไร สิ่งที่จองไป หรือที่กรอก Visit Japan ไป ทดลองเปิดเว็บ Log-in เพื่อทวนขั้นตอนกับตัวเองอีกซักรอบ เช็คทุกอย่างอย่างน้อยหนึ่งรอบ เมื่อมั่นใจว่าไม่ลืมอะไร ก็ควรแก่เวลาค่ะ ไปสนามบินกัน
ถึงสนามบินประมาณเที่ยงคืน เนื่องจากไม่ได้เดินทางเวลานี้นานหลายปี ยอมรับเลยว่างงๆ พอสมควร เหมือนตอนนี้เค้าพยายามสนับสนุนให้ผู้โดยสารไปใช้ตู้ Kiosk ในการ Check-in และต่างๆ ด้วยมั้ยคะ เลยดูเงียบๆ เหงาๆ ไม่มีความพลุกพล่านของแถว Check-in ให้เห็น เดินวนอยู่หลายรอบ ลองใช้ตู้ Kiosk อยู่หลายตู้ก็ไม่ผ่าน ขึ้นว่าให้ไป Check-in ที่ Counter ก็เดินวนไปจนได้เข้าไป Check-in ค่ะ (Quota กระเป๋า ใช้ไป 18/20 แล้วค่ะ เหอๆ) เข้าไปด้านในได้ก็เดินไปนั่งรอ พอถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องไปตามกำหนดค่ะ ใกล้จะได้เจอกันแล้วน้า Fukuoka 🤗
Time warp มา 8.55 มาถึงแล้วค่ามินะซัง
ผ่านความหลับๆ ตื่นๆ ความอากาศอบอ้าวติดร้อนบนเครื่อง พอออกมาจากเครื่องก็คือสัมผัสได้ถึงความหนาวแบบสะใจ เดินออกมาตามฝูงชน เพื่อมาตรงตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) พอดีเครื่องของเรา Landing พร้อมๆ กับเครื่องจากเกาหลี ดังนั้นในแถวตรวจคนเข้าเมืองนี้เลยจะมีผู้โดยสารจากไฟล์ทไทยที่มาพร้อมกันกับผู้โดยสารจากไฟล์ทที่มาจากเกาหลีค่ะ
เดินอยู่ในแถวนานพอสมควรค่ะ Process นี้ใช้เวลาเกือบชั่วโมงค่ะ (แต่คิดว่าเราชักช้าด้วย เลยมาเจอ ตม. พร้อมกับไฟล์ทอื่น ถ้าใครรีบๆ ต้องโดยสารต่อไปที่อื่น ให้รีบลงมาจากเครื่องให้ไวหน่อยนะคะ ถ้าไม่ชนกับใครเชื่อว่าจะไม่นานค่ะ)
การกรอก Visit Japan ทำให้เร็วและสะดวกมากๆ ค่ะ เราว่าดีกว่าลงเครื่องมายมๆ แล้วมากรอกกระดาษ อันนั้นมีสิทธิ์กดดัน ง่วงๆ จะทำเรากรอกผิดๆ ถูกๆ ได้ค่ะ และข้อสังเกตในครั้งนี้ คือผู้โดยสารเกาหลีเกือบ 100% กรอก Visit Japan มาเรียบร้อย แล้วก็ทางญี่ปุ่นไม่แนะนำให้ Capture Screen ตัว QR Code นะคะ เค้าให้เชื่อมอินเตอร์เน็ตแล้วเปิดหน้า QR Code ลงทะเบียนจากหน้าเว็บค่ะ เราซึ่งเปลี่ยนซิมมาแล้วไม่มีปัญหาค่ะ แต่ใครที่ยังไม่เรียบร้อย จริงๆ สนามบินมี Wi-Fi อยู่ค่ะ (เผื่อใครที่กังวล ไม่มั่นใจ เรากรอก Visit Japan ตามเว็บนี้ค่ะ ลองดูนะคะ
เว็บสอนกรอก Visit Japan)
ออกมาเราเข้าห้องน้ำอีกรอบ เพื่อเปลี่ยนชุดและเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ให้เรียบร้อย อากาศดีมากจริงๆ จุดนี้แหละค่ะที่รู้สึกว่ามาถึงแล้วนะ ความคิดถึงญี่ปุ่นมันถาโถมฝุดๆ ฮรืออ มีความสุขค่ะ 🥹
เนื่องจากสนามบิน Fukuoka ไม่ได้มีสถานีรถไฟฟ้าในระยะเดินถึงค่ะ เลยจะมี Free Shuttle Bus ที่รอบถี่สุด อันนี้เราเดินตามป้ายมาเลยค่ะ สำหรับ Free Shuttle Bus จะมีพนักงานคอยยืนบอกว่าให้มาขึ้นทางนี้ได้เลยน้า ต้อนรับอยู่ค่ะ นั่งมา 5 นาทีก็ถึง Fukuoka Airport Station ค่ะ
เรามี IC Card อยู่แล้ว เลยคิดว่าจะเติมเงินที่สถานีนี้เลย จำไม่ได้ด้วยว่าเงินเหลือในบัตรเท่าไหร่ แต่พอจะเติมก็พบว่าบัตรใช้ไม่ได้แฮะ ถามเจ้าหน้าที่สถานี เค้าช่วยเช็คและแก้ไขปัญหาให้ ก็กลับมาใช้ได้ค่ะ
นั่งมาแป๊ปเดียวค่ะ ประมาณ 3 สถานี ลงที่ Hakata Station ค่ะ
ขึ้นมาจาก Platform ก็ปะทะเข้ากับความวุ่นวายของสถานีแบบสับแบบสุด Shock ไปแป๊ปนึงเหมือนกันค่ะ ฮ่าๆ ไม่เจอนานหลงลืมไปแล้วว่าวุ่นวายขนาดไหน แล้วยิ่ง Hakata Station เป็นทั้งสถานีต้นทาง (Departure Station) สถานีสับเปลี่ยน (Interchange Station) และสถานีปลายทาง (Terminal Station) ของรถไฟทุกประเภท แถมยังเชื่อมกับ Hakata Bus Station อีก ก็พอจะเข้าใจถึงความวุ่นวายนี้ได้ค่ะ
เป้าหมายแรกคือไปแลก Pass ที่ซื้อ Voucher มาแล้วค่ะ เราซื้อ 3 Days Northern Kyushu Pass ผ่าน Klook ตั้งแต่อยู่ไทย พร้อมกับจองตั๋วขึ้น Yufuin No Mori ทั้งไปและกลับเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน เลยคิดว่าจะแลกให้เรียบร้อยไปเลยแล้วกันค่ะ
มองหาป้าย Rail Pass กันนะคะ เดินวนอยู่นานกว่าจะเจอ 😅พบว่าวันนี้แถวยาวมวกค่ะ (เพราะหลังจากนี้เราเดินผ่านแทบจะไม่มีคน) ใช้เวลาต่อคิวอยู่ตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พอเจอเจ้าหน้าที่แค่ยืนยันเอกสาร 5 นาทีเสร็จ
หลังจากได้ Pass มาแล้ว เราเดินต่อมองหาของกินค่ะ ตั้งใจมาจากบ้านว่าจะมาทาน Shin Shin Ramen เพราะมีใน Hakata Station เลยค่ะ โซนที่มาทานจะเป็น Zone Hakata Ramen ค่ะ เนื่องจาก Shin Shin อยู่มุมในสุด ต้องเดินผ่านหลายร้านที่น่าทานมากๆ เหมือนกัน แต่ตั้งใจมาแล้วจะไม่เปลี่ยนใจ ต้อง Shin Shin เท่านั้นค่ะ ฮ่า
หน้าร้านมีป้ายให้เรา Scan QR Code เลือกดูเมนูไปพลางๆ ก่อน แต่เดี๋ยวเข้าไปในร้านพนักงานจะเอาเมนูมาให้ค่ะ จะสั่งก็เรียกพนักงานได้เลยย เมนูของเราวันนี้เป็น Ramen with All Toppings และเกี๊ยวซ่าค่ะ (เป็นทงคตสึราเมนที่พิเศษเครื่องนั่นเอง) ร้านนี้ไม่ได้มี Options เลือกเส้น เลือกความเข้มซุป เลือกสิ่งอย่างเหมือน Ichiran Ramen นะคะ รอไม่นานอาหารก็มาถึงค่ะ
รีวิวรสชาติ Shin Shin Ramen 🍜🥟
ภาพรวมคืออร่อยเลยค่ะ แตกต่างจากทงคตสึราเมงที่เคยทานมา ตัวน้ำซุปไม่เค็มโดด นัวและกลมกล่อมมาก น้ำซุปมีความมันสูงมากๆ กินไปหลายๆ คำ มีเลี่ยนนะคะ แนะนำต้องตัดกับเครื่องเคียง ซึ่งมีหลากหลายวางให้บนโต๊ะค่ะ เส้นราเมนเส้นเล็กกว่าปกตินิดนึง ลวกมาไม่แข็ง ติดนิ่มเลยค่ะเราว่า (ปกติเราที่ชอบเส้นที่ Firm หน่อยก็ยังรู้สึกว่าอร่อย ทานได้ ไม่ขัดกันค่ะ) Toppings จะมีหมูชาชูแบบบาง แบบหนา และไข่นึงฟอง รสชาติดีเลยค่ะ ดีกว่ามาตรฐานทุกอย่าง พิเศษนิดนึงส่วนหมู ชิ้นส่วนหมูคือสามชั้น แต่เหมือนมีการเอาไป Grilled มาก่อน ทำให้ส่วนขอบหมูมีเคลือบรส ไม่จัดมาก แต่แยกออกเลยว่าเป็นรสจากส่วนหมูเอง ส่วนเกี๊ยวซ่ารสชาติอร่อยมาตรฐานค่ะ ราคารวม 1,630 หรือ 362 บาท (ถูกกว่ากินราเมง Ippudo ที่ไทยอีกค่ะ เหอๆ เพราะค่าเงินเรท 0.22 ที่แลกมาด้วย ฮ่าๆๆ 🤣🤣🤣)
เดินต่อมาที่ห้าง Kitte Hakata เพื่อซื้อ Gong Cha ค่ะ สั่ง Iced Black Tea ปรากฎว่าไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่แฮะ เหมือนมันไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าที่เคยทานที่ฮ่องกงกับไต้หวัน แต่แปลกที่ไม่ประทับใจกับสาขานี้ค่ะ แต่ช่วงนี้มี Special Menu น่าสนใจ เดี๋ยวต้องไปลองที่สาขาอื่นอีกรอบค่ะ ฮ่าๆ
เราเดินตามแมพมาโรงแรมก่อนค่ะ ตอนนั้น 13.30 แล้ว ตั้งใจมาแค่ Check-in แต่ได้ห้องเลย จากที่จะฝากกระเป๋าก็ขอเปลี่ยนแผนไปเก็บของที่ห้องก่อนค่ะ เราได้ห้องชั้น 12 เป็นวิวเมือง ห้องเล็กตรงมาตรฐานสุดๆ แต่นอนคนเดียวไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ
เปลี่ยนใจนิดหน่อย คือ Unpacked ทุกอย่างเรียบร้อย แอบยม เลยไม่ออกไปไหนแล้วดีกว่า ขอนอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ค่า
Me, Myself, and Fukuoka เที่ยวแบบตามใจฉันในวันเมฆครึ้ม ⛅(❁´◡`❁)
ขอให้ปี 2025 นี้เป็นปีที่ทุกคนสมหวัง สมดั่งใจปรารถนาทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ
ถ้าหยุดยาวที่ผ่านมา บางท่าน (และตัวจขกทเอง) ไม่ได้มีไปเที่ยวไหน ก็ขอไห้โพสต์นี้ได้พาทุกคนเที่ยว Fukuoka ผ่านตัวอักษรและรูปภาพปลากรอบในโพสต์นี้นะค้า
ทริปนี้เต็มไปด้วยความสุขความสบายใจมากๆ มากจนอยากเขียนแชร์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับหลายๆ ท่าน หรือยังไงเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่อาจกำลังเตรียมตัว หรือกำลังลังเลใจจะไปหรือยังไงดี ขอให้ข้อมูลในกระทู้นี้เป็นตัวช่วยตัดสินใจ ช่วยเตรียมตัวจะไป Fukuoka กันค่ะ
ทริปนี้เป็นการเดินทางคนเดียวค่ะ และเป็นการกลับไปญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจาก COVID19 เลือก Fukuoka เพราะจริงๆ ยังไม่เคยไป แถมคิดว่า Slow กว่า ราคาดีกว่าเมืองใหญ่อย่างโตเกียว โอซาก้า และครั้งนี้อยากพักจากความวุ่นๆ คิดว่า Fukuoka น่าจะเป็น The best choice ค่ะ 🎄🎅☃️
เราเดินทางช่วง 5 – 11 December 2024 ค่ะ อากาศหนาวถูกใจมากๆ เฉลี่ยทั้งทริปอยู่ที่ 10 – 14 องศาค่ะ โชคดีที่ไม่เจอฝนเลย แต่ก็ Cloudy และ Windy สุดๆ ⛅
เราเดินทางด้วย Air Asia X ทั้งไปและกลับค่ะ
> ขาไป ออกจากสนามบินฯ ดอนเมืองวันที่ 5 Dec เวลา 01.55 ถึง สนามบินฯ Fukuoka เวลา 8.55
> ขากลับ ออกจากสนามบินฯ Fukuoka วันที่ 11 Dec เวลา 10.00 ถึง สนามบินฯ ดอนเมืองเวลา 15.30 ค่ะ(โดยประมาณนะคะ)
โดยภาพรวมการเดินทางมีดังนี้ค่ะ
> 5 Dec – Don Mueang Airport > Fukuoka Airport > Hakata Station > Shin Shin Ramen > Gong Cha > Hotel
> 6 Dec - Hakata Station > Karato Fish Market > Mojiko Retro > Fukuoka Art Museum > Ohiri Park > Hotel
> 7 Dec – Hakata Station > Yufuin > Christmas Market @ Hakata Station > Hotel
> 8 Dec - Hakata Station > Kumamoto Station > Kumamoto Castle > Back to Hakata Station > Umi-no Nakamichi Station > Marine World > Hotel
> 9 Dec – Hakata Station > Nagasaki Station > Nagasaki Atomic Museum > China Town > Megane Bridge > Tenjin > Hotel
> 10 Dec – Fukuoka Downtown > Canal City > Tenjin > Hotel
> 11 Dec – Fukuoka Airport > Don Mueang Airport > Home
ทั้งทริป เราพักที่ President Hotel Hakata ใกล้สถานี Hakata ประมาณ 700 เมตร แต่ที่ใกล้มากๆ คือสถานี Gion ค่ะ ใกล้แบบ 200 เมตร แต่ทริปนี้เราเดินทางไปนอกเมือง ไปต่างจังหวัดเกือบทุกวัน นั่ง JR และ Shinkansen บ่อย เลยไม่ค่อยได้ใช้บริการสถานี Gion เท่าไหร่ค่า แหะๆ
ถ้าพร้อมออกเดินทางไปด้วยกันแล้ว ก็เชิญเลยค่า ✈️
=====================================================================================================
ถึงสนามบินประมาณเที่ยงคืน เนื่องจากไม่ได้เดินทางเวลานี้นานหลายปี ยอมรับเลยว่างงๆ พอสมควร เหมือนตอนนี้เค้าพยายามสนับสนุนให้ผู้โดยสารไปใช้ตู้ Kiosk ในการ Check-in และต่างๆ ด้วยมั้ยคะ เลยดูเงียบๆ เหงาๆ ไม่มีความพลุกพล่านของแถว Check-in ให้เห็น เดินวนอยู่หลายรอบ ลองใช้ตู้ Kiosk อยู่หลายตู้ก็ไม่ผ่าน ขึ้นว่าให้ไป Check-in ที่ Counter ก็เดินวนไปจนได้เข้าไป Check-in ค่ะ (Quota กระเป๋า ใช้ไป 18/20 แล้วค่ะ เหอๆ) เข้าไปด้านในได้ก็เดินไปนั่งรอ พอถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องไปตามกำหนดค่ะ ใกล้จะได้เจอกันแล้วน้า Fukuoka 🤗
Time warp มา 8.55 มาถึงแล้วค่ามินะซัง
ผ่านความหลับๆ ตื่นๆ ความอากาศอบอ้าวติดร้อนบนเครื่อง พอออกมาจากเครื่องก็คือสัมผัสได้ถึงความหนาวแบบสะใจ เดินออกมาตามฝูงชน เพื่อมาตรงตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) พอดีเครื่องของเรา Landing พร้อมๆ กับเครื่องจากเกาหลี ดังนั้นในแถวตรวจคนเข้าเมืองนี้เลยจะมีผู้โดยสารจากไฟล์ทไทยที่มาพร้อมกันกับผู้โดยสารจากไฟล์ทที่มาจากเกาหลีค่ะ
เดินอยู่ในแถวนานพอสมควรค่ะ Process นี้ใช้เวลาเกือบชั่วโมงค่ะ (แต่คิดว่าเราชักช้าด้วย เลยมาเจอ ตม. พร้อมกับไฟล์ทอื่น ถ้าใครรีบๆ ต้องโดยสารต่อไปที่อื่น ให้รีบลงมาจากเครื่องให้ไวหน่อยนะคะ ถ้าไม่ชนกับใครเชื่อว่าจะไม่นานค่ะ)
การกรอก Visit Japan ทำให้เร็วและสะดวกมากๆ ค่ะ เราว่าดีกว่าลงเครื่องมายมๆ แล้วมากรอกกระดาษ อันนั้นมีสิทธิ์กดดัน ง่วงๆ จะทำเรากรอกผิดๆ ถูกๆ ได้ค่ะ และข้อสังเกตในครั้งนี้ คือผู้โดยสารเกาหลีเกือบ 100% กรอก Visit Japan มาเรียบร้อย แล้วก็ทางญี่ปุ่นไม่แนะนำให้ Capture Screen ตัว QR Code นะคะ เค้าให้เชื่อมอินเตอร์เน็ตแล้วเปิดหน้า QR Code ลงทะเบียนจากหน้าเว็บค่ะ เราซึ่งเปลี่ยนซิมมาแล้วไม่มีปัญหาค่ะ แต่ใครที่ยังไม่เรียบร้อย จริงๆ สนามบินมี Wi-Fi อยู่ค่ะ (เผื่อใครที่กังวล ไม่มั่นใจ เรากรอก Visit Japan ตามเว็บนี้ค่ะ ลองดูนะคะ เว็บสอนกรอก Visit Japan)
ออกมาเราเข้าห้องน้ำอีกรอบ เพื่อเปลี่ยนชุดและเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ให้เรียบร้อย อากาศดีมากจริงๆ จุดนี้แหละค่ะที่รู้สึกว่ามาถึงแล้วนะ ความคิดถึงญี่ปุ่นมันถาโถมฝุดๆ ฮรืออ มีความสุขค่ะ 🥹
เนื่องจากสนามบิน Fukuoka ไม่ได้มีสถานีรถไฟฟ้าในระยะเดินถึงค่ะ เลยจะมี Free Shuttle Bus ที่รอบถี่สุด อันนี้เราเดินตามป้ายมาเลยค่ะ สำหรับ Free Shuttle Bus จะมีพนักงานคอยยืนบอกว่าให้มาขึ้นทางนี้ได้เลยน้า ต้อนรับอยู่ค่ะ นั่งมา 5 นาทีก็ถึง Fukuoka Airport Station ค่ะ
เรามี IC Card อยู่แล้ว เลยคิดว่าจะเติมเงินที่สถานีนี้เลย จำไม่ได้ด้วยว่าเงินเหลือในบัตรเท่าไหร่ แต่พอจะเติมก็พบว่าบัตรใช้ไม่ได้แฮะ ถามเจ้าหน้าที่สถานี เค้าช่วยเช็คและแก้ไขปัญหาให้ ก็กลับมาใช้ได้ค่ะ
นั่งมาแป๊ปเดียวค่ะ ประมาณ 3 สถานี ลงที่ Hakata Station ค่ะ
ขึ้นมาจาก Platform ก็ปะทะเข้ากับความวุ่นวายของสถานีแบบสับแบบสุด Shock ไปแป๊ปนึงเหมือนกันค่ะ ฮ่าๆ ไม่เจอนานหลงลืมไปแล้วว่าวุ่นวายขนาดไหน แล้วยิ่ง Hakata Station เป็นทั้งสถานีต้นทาง (Departure Station) สถานีสับเปลี่ยน (Interchange Station) และสถานีปลายทาง (Terminal Station) ของรถไฟทุกประเภท แถมยังเชื่อมกับ Hakata Bus Station อีก ก็พอจะเข้าใจถึงความวุ่นวายนี้ได้ค่ะ
เป้าหมายแรกคือไปแลก Pass ที่ซื้อ Voucher มาแล้วค่ะ เราซื้อ 3 Days Northern Kyushu Pass ผ่าน Klook ตั้งแต่อยู่ไทย พร้อมกับจองตั๋วขึ้น Yufuin No Mori ทั้งไปและกลับเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน เลยคิดว่าจะแลกให้เรียบร้อยไปเลยแล้วกันค่ะ
มองหาป้าย Rail Pass กันนะคะ เดินวนอยู่นานกว่าจะเจอ 😅พบว่าวันนี้แถวยาวมวกค่ะ (เพราะหลังจากนี้เราเดินผ่านแทบจะไม่มีคน) ใช้เวลาต่อคิวอยู่ตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ พอเจอเจ้าหน้าที่แค่ยืนยันเอกสาร 5 นาทีเสร็จ
หลังจากได้ Pass มาแล้ว เราเดินต่อมองหาของกินค่ะ ตั้งใจมาจากบ้านว่าจะมาทาน Shin Shin Ramen เพราะมีใน Hakata Station เลยค่ะ โซนที่มาทานจะเป็น Zone Hakata Ramen ค่ะ เนื่องจาก Shin Shin อยู่มุมในสุด ต้องเดินผ่านหลายร้านที่น่าทานมากๆ เหมือนกัน แต่ตั้งใจมาแล้วจะไม่เปลี่ยนใจ ต้อง Shin Shin เท่านั้นค่ะ ฮ่า
หน้าร้านมีป้ายให้เรา Scan QR Code เลือกดูเมนูไปพลางๆ ก่อน แต่เดี๋ยวเข้าไปในร้านพนักงานจะเอาเมนูมาให้ค่ะ จะสั่งก็เรียกพนักงานได้เลยย เมนูของเราวันนี้เป็น Ramen with All Toppings และเกี๊ยวซ่าค่ะ (เป็นทงคตสึราเมนที่พิเศษเครื่องนั่นเอง) ร้านนี้ไม่ได้มี Options เลือกเส้น เลือกความเข้มซุป เลือกสิ่งอย่างเหมือน Ichiran Ramen นะคะ รอไม่นานอาหารก็มาถึงค่ะ
รีวิวรสชาติ Shin Shin Ramen 🍜🥟
ภาพรวมคืออร่อยเลยค่ะ แตกต่างจากทงคตสึราเมงที่เคยทานมา ตัวน้ำซุปไม่เค็มโดด นัวและกลมกล่อมมาก น้ำซุปมีความมันสูงมากๆ กินไปหลายๆ คำ มีเลี่ยนนะคะ แนะนำต้องตัดกับเครื่องเคียง ซึ่งมีหลากหลายวางให้บนโต๊ะค่ะ เส้นราเมนเส้นเล็กกว่าปกตินิดนึง ลวกมาไม่แข็ง ติดนิ่มเลยค่ะเราว่า (ปกติเราที่ชอบเส้นที่ Firm หน่อยก็ยังรู้สึกว่าอร่อย ทานได้ ไม่ขัดกันค่ะ) Toppings จะมีหมูชาชูแบบบาง แบบหนา และไข่นึงฟอง รสชาติดีเลยค่ะ ดีกว่ามาตรฐานทุกอย่าง พิเศษนิดนึงส่วนหมู ชิ้นส่วนหมูคือสามชั้น แต่เหมือนมีการเอาไป Grilled มาก่อน ทำให้ส่วนขอบหมูมีเคลือบรส ไม่จัดมาก แต่แยกออกเลยว่าเป็นรสจากส่วนหมูเอง ส่วนเกี๊ยวซ่ารสชาติอร่อยมาตรฐานค่ะ ราคารวม 1,630 หรือ 362 บาท (ถูกกว่ากินราเมง Ippudo ที่ไทยอีกค่ะ เหอๆ เพราะค่าเงินเรท 0.22 ที่แลกมาด้วย ฮ่าๆๆ 🤣🤣🤣)
เดินต่อมาที่ห้าง Kitte Hakata เพื่อซื้อ Gong Cha ค่ะ สั่ง Iced Black Tea ปรากฎว่าไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่แฮะ เหมือนมันไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าที่เคยทานที่ฮ่องกงกับไต้หวัน แต่แปลกที่ไม่ประทับใจกับสาขานี้ค่ะ แต่ช่วงนี้มี Special Menu น่าสนใจ เดี๋ยวต้องไปลองที่สาขาอื่นอีกรอบค่ะ ฮ่าๆ
เราเดินตามแมพมาโรงแรมก่อนค่ะ ตอนนั้น 13.30 แล้ว ตั้งใจมาแค่ Check-in แต่ได้ห้องเลย จากที่จะฝากกระเป๋าก็ขอเปลี่ยนแผนไปเก็บของที่ห้องก่อนค่ะ เราได้ห้องชั้น 12 เป็นวิวเมือง ห้องเล็กตรงมาตรฐานสุดๆ แต่นอนคนเดียวไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ
เปลี่ยนใจนิดหน่อย คือ Unpacked ทุกอย่างเรียบร้อย แอบยม เลยไม่ออกไปไหนแล้วดีกว่า ขอนอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ว่ากันใหม่ค่า