ก่อนจัดฟัน รากฟันซี่ล่างด้านในสุดของเรา (ก่อนถึงฟันคุด) เป็นหนอง ทำให้ต้องถอนฟันซี่นั้นออก เราตั้งใจว่าจะทำรากเทียม แต่ตอนนั้นก็อยากจัดฟัน จึงได้ปรึกษาคุณหมอชื่อดังในการจัดฟันที๋โรงพยาบาลชื่อดังด้านความงาม ซึ่งคุณหมอแจ้งว่า ทำรากเทียมแล้วจัดฟันไม่ได้ ให้จัดให้เสร็จ แล้วค่อยทำ
ระหว่างจัดฟัน คุณหมอก็เคยมีถามว่าจะทำรากเทียมมั้ย ซึ่งเราก็ตอบว่าทำ ในการจัดฟัน เราต้องถอนฟันเพิ่มไป 4 ซี่ (จากที่มีอยู่เดิม 27 ซี่) เราจึงตั้งใจจะทำรากเทียมเพื่อให้มีฟันในการบดเคี้ยวอาหารที่สมบูรณ์
ณ วันนี้ เราจัดฟัน เสร็จแล้ว คุณหมอกลับบอกเราว่า ฟันบนซี่สุดท้ายที่ไม่มีคู่สบ ให้ถอนทิ้งไป เราจึงเพิ่งสังเกตว่า มุมด้านหนึ่งของฟันเอียงลงมาจนจะถึงเหงือกล่างแล้ว อ้อ คุณหมอทำ retainer ให้แล้วโดยไม่ถามด้วยนะคะว่าเราจะทำรากเทียมมั้ย (ถ้าทำรากเทียมคือต้องทำ retainer อันใหม่)
หลังจากที่ปรึกษาหมอครอบฟัน หมอบอกว่า พื้นที่ไม่พอที่จะทำครอบฟัน (ด้านบนรากเทียม) หากจะทำต้อง X-Ray ดูว่า สามารถกรอกระดูกลงไปได้เท่าไหร่ หากกรอแล้วเหลือที่พอสำหรับความยาวของรากเทียม ถึงจะทำได้ หรือไม่งั้นคือถอนฟันบนออก แล้วทำรากเทียมทั้งบนและล่าง
ช็อคและอึ้ง
กลับไปคุยกับคุณหมอจัดฟันอีกครั้ง คุณหมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว
ช็อคและอึ้งไปอีกรอบ
เราหมดค่าใช้จ่ายไป 1 แสนบาท (ดามอน) สำหรับการจัดฟันครั้งนี้ เราควรไปเริ่มใหม่กับหมอท่านอื่นมั้ยคะ ฟันที่ยื่นลงมาแล้วสามารถดึงกลับไปให้อยู่ตำแหน่งเดิมได้มั้ยคะ
นี่ยังไม่รวมที่เราทรมานฟันกรามไม่สบกันมาเป็นปี ซี่ข้าง ๆ ซี่ที่ตั้งใจจะทำรากเทียมนั่นแหละค่ะ มุมด้านนึงฟันชนกันแล้ว แต่ที่เหลืออีก 90% ของฟัน ไม่สบกันค่ะ กลายเป็นว่าด้านนี้เนื่องจากฟันกรามหายไป 1 ซี่ และฟันกรามที่เหลือไม่สบกัน ทำให้ไม่มีความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร ยกเว้นอาหารประเภทแป้งที่มีขนาดใหญ่ ที่ไม่มีความเหนียว ไม่สามารถเด้งคืนรูปได้เวลาเคี้ยว คุณหมอบอกว่าให้รอต่อไป ฟันจะมาสบกันเอง (ทั้งฟันบนฟันล่างเป็นฟันครอบ) เราต้องรออีกนานเท่าไหร่คะ ฟันถึงจะมาสบกัน ตอนนี้เราจัดฟันเส็จมา 5 เดือนแล้วค่ะ
ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ รบกวนขอความเห็นหน่อยนะคะ