เราเป็นคนนึงค่ะ ที่จัดฟันเพื่อความสวยงามอย่างเดียวเลย เนื่องจากเรารู้สึกว่าฟันเรายื่น เพื่อนส่วนมากก็ไม่ได้บอกว่าผิดปกติอะไร แต่ถ้าหันข้างก็ไม่ดูไม่โอเคเท่าไหร่
ปัญหามันมาจากว่า ฟันเราไม่แข็งแรงค่ะ ผุทั้งปาก ถูกต้องค่ะ อุดทุกซี่ ใหญ่เล็กแล้วแต่ พร้อมทั้งครอบฟันไปประมาณ 5 ซี่ได้ แล้วก็มีเหตุให้ต้องถอนฟันกรามซี่ในสุดออก (ไม่ใช่ฟันคุดนะคะ ฟันคุดเราถอนหมดไปนานแล้ว) คือก่อนหน้านี้เคยจะไปจัดฟัน แต่คุณหมอท่านหนึ่งบอกว่า ฟันกรามซี่นี้รักษารากไม่ดี เลยไม่ได้จัด เนื่องจากหากไปดึงมัน อาจมีเหตุให้ถอน หลังจากผ่านไปเกือบ 10 ปี มันก็เป็นหนองค่ะ เลยต้องถอนออก ไหน ๆ ก็ต้องถอนแล้ว จัดฟันซะเลย แล้วเราก็เลยไปปรึกษาคุณหมอชื่อดังในการจัดฟันที๋โรงพยาบาลชื่อดังด้านความงาม คุณหมอบอกว่าจัดได้ และหมอบอกว่าจะดูดีขึ้น ก็จัดสิคะ รออะไร โดยได้แจ้งหมอไปว่า ฟันที่ถอน จัดเสร็จแล้วจะทำรากเทียม (หมอบอกว่าทำก่อนจัดไม่ได้) โดยหมอให้ถอนฟันออกอีก 4 ซี่ ตอนนี้เหลือฟัน 23 ซี่เท่านั้น
เนื่องจากฟันไม่แข็งแรง ตอนจัดฟันฟันเราเลื่อนเร็วมากค่ะ วันนี้ดึงลวด อีกวันลวดโผล่มาทิ่มปากแล้ว ฟันหลายซี่ถูกดึงออกมาจากเหงือก(อันนี้ดูจากรอยอุดฟันที่เคยอยู่ติดเหงือก ณ วันนี้มีช่องว่างระหว่างรอยอุดกับเหงือกประมาณนึง) จนมีคนทักว่า ฟันยาวจัง
ณ วันนี้ เราจัดฟัน เสร็จแล้ว คุณหมอกลับบอกเราว่า ฟันบนซี่สุดท้ายที่ไม่มีคู่สบ ให้ถอนทิ้งไป เราจึงเพิ่งสังเกตว่า มุมด้านหนึ่งของฟันเอียงลงมาจนจะถึงเหงือกล่างแล้ว อ้อ คุณหมอทำ retainer ให้แล้วโดยไม่ถามด้วยนะคะว่าเราจะทำรากเทียมมั้ย (ถ้าทำรากเทียมคือต้องทำ retainer อันใหม่)
หลังจากที่ปรึกษาหมอครอบฟัน หมอบอกว่า พื้นที่ไม่พอที่จะทำครอบฟัน (ด้านบนรากเทียม) หากจะทำต้อง X-Ray ดูว่า สามารถกรอกระดูกลงไปได้เท่าไหร่ หากกรอแล้วเหลือที่พอสำหรับความยาวของรากเทียม ถึงจะทำได้ หรือไม่งั้นคือถอนฟันบนออก แล้วทำรากเทียมทั้งบนและล่าง
บวกกับฟันกรามซี่ข้าง ๆ กันกับซี่ที่ถูกถอนไปไม่สบกันมาเป็นปี ซี่ข้าง ๆ มุมด้านนึงฟันชนกันแล้ว แต่ที่เหลืออีก 90% ของฟัน ไม่สบกันค่ะ กลายเป็นว่าด้านนี้เนื่องจากฟันกรามหายไป 1 ซี่ และฟันกรามที่เหลือไม่สบกัน ทำให้ไม่มีความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร ยกเว้นอาหารประเภทแป้งที่มีขนาดใหญ่ ที่ไม่มีความเหนียว ไม่สามารถเด้งคืนรูปได้เวลาเคี้ยว คุณหมอบอกว่าให้รอต่อไป ฟันจะมาสบกันเอง (ทั้งฟันบนฟันล่างเป็นฟันครอบ) ตอนนี้เราจัดฟันเสร็จมา 5 เดือนแล้วค่ะ
คือ ถ้าเรารู้แต่แรกว่าความสวยงาม (เราว่าเราก็ไม่ได้สวยขึ้นนะ ยิ้มเดิมเราสวยกว่านี้อีก แต่สวยแบบฟันเต็มปาก) มันต้องแลกกับการที่ไม่สามารถกินข้าวแบบคนปกติได้ เราไม่จัดเด็ดขาดเลย
สำหรับคนที่คิดจะจัดโดยที่ไม่ได้มีปัญหา ก็คิดดี ๆ นะคะ นี่ขนาดเราเลือกหมอที่มีชื่อด้านจัดฟัน ลุกค้ารอคิวกันยาวเหยียดแล้วนะ บอกตรง ๆ ตอนนี้สุขภาพจิตเสียมากค่ะ
สำหรับคนที่คิดอยากจัดฟันเพื่อความสวยงาม อยากให้คิดมาก ๆ หน่อย
ปัญหามันมาจากว่า ฟันเราไม่แข็งแรงค่ะ ผุทั้งปาก ถูกต้องค่ะ อุดทุกซี่ ใหญ่เล็กแล้วแต่ พร้อมทั้งครอบฟันไปประมาณ 5 ซี่ได้ แล้วก็มีเหตุให้ต้องถอนฟันกรามซี่ในสุดออก (ไม่ใช่ฟันคุดนะคะ ฟันคุดเราถอนหมดไปนานแล้ว) คือก่อนหน้านี้เคยจะไปจัดฟัน แต่คุณหมอท่านหนึ่งบอกว่า ฟันกรามซี่นี้รักษารากไม่ดี เลยไม่ได้จัด เนื่องจากหากไปดึงมัน อาจมีเหตุให้ถอน หลังจากผ่านไปเกือบ 10 ปี มันก็เป็นหนองค่ะ เลยต้องถอนออก ไหน ๆ ก็ต้องถอนแล้ว จัดฟันซะเลย แล้วเราก็เลยไปปรึกษาคุณหมอชื่อดังในการจัดฟันที๋โรงพยาบาลชื่อดังด้านความงาม คุณหมอบอกว่าจัดได้ และหมอบอกว่าจะดูดีขึ้น ก็จัดสิคะ รออะไร โดยได้แจ้งหมอไปว่า ฟันที่ถอน จัดเสร็จแล้วจะทำรากเทียม (หมอบอกว่าทำก่อนจัดไม่ได้) โดยหมอให้ถอนฟันออกอีก 4 ซี่ ตอนนี้เหลือฟัน 23 ซี่เท่านั้น
เนื่องจากฟันไม่แข็งแรง ตอนจัดฟันฟันเราเลื่อนเร็วมากค่ะ วันนี้ดึงลวด อีกวันลวดโผล่มาทิ่มปากแล้ว ฟันหลายซี่ถูกดึงออกมาจากเหงือก(อันนี้ดูจากรอยอุดฟันที่เคยอยู่ติดเหงือก ณ วันนี้มีช่องว่างระหว่างรอยอุดกับเหงือกประมาณนึง) จนมีคนทักว่า ฟันยาวจัง
ณ วันนี้ เราจัดฟัน เสร็จแล้ว คุณหมอกลับบอกเราว่า ฟันบนซี่สุดท้ายที่ไม่มีคู่สบ ให้ถอนทิ้งไป เราจึงเพิ่งสังเกตว่า มุมด้านหนึ่งของฟันเอียงลงมาจนจะถึงเหงือกล่างแล้ว อ้อ คุณหมอทำ retainer ให้แล้วโดยไม่ถามด้วยนะคะว่าเราจะทำรากเทียมมั้ย (ถ้าทำรากเทียมคือต้องทำ retainer อันใหม่)
หลังจากที่ปรึกษาหมอครอบฟัน หมอบอกว่า พื้นที่ไม่พอที่จะทำครอบฟัน (ด้านบนรากเทียม) หากจะทำต้อง X-Ray ดูว่า สามารถกรอกระดูกลงไปได้เท่าไหร่ หากกรอแล้วเหลือที่พอสำหรับความยาวของรากเทียม ถึงจะทำได้ หรือไม่งั้นคือถอนฟันบนออก แล้วทำรากเทียมทั้งบนและล่าง
บวกกับฟันกรามซี่ข้าง ๆ กันกับซี่ที่ถูกถอนไปไม่สบกันมาเป็นปี ซี่ข้าง ๆ มุมด้านนึงฟันชนกันแล้ว แต่ที่เหลืออีก 90% ของฟัน ไม่สบกันค่ะ กลายเป็นว่าด้านนี้เนื่องจากฟันกรามหายไป 1 ซี่ และฟันกรามที่เหลือไม่สบกัน ทำให้ไม่มีความสามารถในการบดเคี้ยวอาหาร ยกเว้นอาหารประเภทแป้งที่มีขนาดใหญ่ ที่ไม่มีความเหนียว ไม่สามารถเด้งคืนรูปได้เวลาเคี้ยว คุณหมอบอกว่าให้รอต่อไป ฟันจะมาสบกันเอง (ทั้งฟันบนฟันล่างเป็นฟันครอบ) ตอนนี้เราจัดฟันเสร็จมา 5 เดือนแล้วค่ะ
คือ ถ้าเรารู้แต่แรกว่าความสวยงาม (เราว่าเราก็ไม่ได้สวยขึ้นนะ ยิ้มเดิมเราสวยกว่านี้อีก แต่สวยแบบฟันเต็มปาก) มันต้องแลกกับการที่ไม่สามารถกินข้าวแบบคนปกติได้ เราไม่จัดเด็ดขาดเลย
สำหรับคนที่คิดจะจัดโดยที่ไม่ได้มีปัญหา ก็คิดดี ๆ นะคะ นี่ขนาดเราเลือกหมอที่มีชื่อด้านจัดฟัน ลุกค้ารอคิวกันยาวเหยียดแล้วนะ บอกตรง ๆ ตอนนี้สุขภาพจิตเสียมากค่ะ