เรื่องมีอยู่ว่า เรามีแฟน แฟนเรามีลูกติด แต่เราไม่ติดที่แฟนมีลูกติด แต่เราติดตรงที่แม่ของลูกแฟนเรายังอยู่ในบ้านแฟนเรา อาจจะผิดที่เรายอมรับทุกอย่างง่ายเกินไป เรารู้ตั้งแต่คบกันแรกๆ แต่เราก็คิดว่า เออ เขาอยู่เพราะลูก เดี๋ยวคงไป เพราะเขาก็มีแฟนใหม่แล้ว แต่...คำว่าเดี๋ยวไม่น่าจะมีอยู่จริง เขาไม่ไปสักที แฟนเราเคยคุยกับเขานะ ว่าจะอยู่แบบนี้ไปตลอดไม่ได้นะ เพราะชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้า ถ้าอยู่แบบนี้ ชีวิตเราก็ไปต่อไม่ได้ (เราในที่นี้หมายถึงแฟนเรานะ แฟนเราคุยกับแม่ของลูกเขา) เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนรับได้หรอก ที่เวลาไปบ้านแฟนตัวเอง แล้วต้องเจอแฟนเก่าของแฟนตัวเองอยู่ในบ้านแฟนตัวเอง ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า ถ้าให้กูออกไป กูก็จะเอาลูกไปด้วย **มีเรื่องลูกเข้ามาเกี่ยวล่ะ แฟนเราก้อน้ำท่วมปากล่ะ นั่นก็ลูก นี่ก้อแฟน แรกๆเราก็ไม่ฟังอะไรเลยนะ มีระยะเวลาให้เขาไปเคลีย แต่...หลังๆ เราเริ่มทำความเข้าใจ ถ้าเรากดดันเขามากๆ คนที่ลำบากใจสุด คือ แฟนเรา คนที่ผลกระทบที่สุด คือ เด็ก เราก็อดทน ไม่เป็นไร ยังอยู่ต่อได้ ไม่ได้ทุกข์ใจจนใช้ชีวิตไม่ได้ แต่...มันก็มีความทุกข์ใจนะ เพราะผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้คิดเหมือนเรา เขาเห็นแก่ตัว เขาไม่ได้คิดว่า คนอื่นจะสุขจะทุกข์ เขามองแต่ความสุขตัวเอง เขารักลูกเขานะ แต่เขาเหมือนจะรักตัวเองมากกว่า เขามีแฟนใหม่ แต่เขาพยายามปิดบังทุกคนว่าไม่มี ทำตัวเองให้หน้าสงสาร เหมือนตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ ตอนเขาอยู่ด้วยกัน แฟนเราอาจจะเป็นคนไม่ดี หรืออะไรยังไง เราไม่รู้ แต่เราคิดว่า คนเราเลิกกันแล้ว ก็ไม่ควรอยู่ถ่วงคนอื่น ถ้ายิ่งตัวเองมีแฟนใหม่แล้ว ก็ไม่ควรอยู่ในบ้านสามีเก่ามั้ย บ้านแฟนเราค่อนข้างมีตังค์ เขาอยู่เขาสบาย มีรถใช้ บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ มีเงินเดือน จากพ่อแม่แฟนเราให้ คือ เขาทำงานกับที่บ้านแฟนเราแหระ การคบกันของเรากับแฟน พ่อแม่เรารับรู้ พ่อแม่เขารับรู้ ก็คือเปิดเผย ญาติพี่น้องรับรู้หมด แต่...มีสิ่งหนึ่งที่ฉันข้องใจ คือ บางความรู้สึกนะ เรารู้สึกว่า แม่แฟนเรา ช่วยผู้หญิงคนนี้ปิดบัง แม่ของผู้หญิงคนนี้อยู่ ว่าลูกเขาเลิกกันแล้ว อันนี้เราเจอบางเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกนะ มันรู้สึกแย่มาก แต่อย่างอื่นเขาดีหมด ดีกับเรามากๆ แต่ก็แค่ข้องใจ ถ้าช่วยปิด จะปิดทำไม ในเมื่อเลิกกันนานแล้ว แล้วผู้หญิง คือ ยังไม่บอกแม่ บอกญาติตัวเองหรอ ว่าเลิกกับสามี ทั้งๆ ที่เลิกกันนานมากแล้ว หรือถ้าเขาไม่ได้ปิดบังแม่เขา แม่เขารู้ว่าเลิกกัน ถ้าเป็นแบบนั้น เขา บอกแม่เขาว่ายังไง?? ทำไมถึงยังอยู่แบบนี้ ถ้าเป็นแม่เราคงไม่บอกให้ลูกตัวเองอยู่เพื่อลูก เพราะผู้ชายก็มีแฟนใหม่แล้ว ลูกตัวเองก็มีใหม่แล้ว ถ้าแม่เห็นลูกทำให้คนอื่นไม่มีความสุข หรือลูกตัวเองไม่มีความสุข แม่เราคงบอกลูกตัวเองว่าอย่าอยู่แบบทุกข์ใจ หรืออยู่ให้คนอื่นเป็นทุกข์ใจเพราะเราเลย นอกซ่ะจากแม่เขาไม่รู้อะไรเลย แต่จะเปนไปได้หรอ เพราะเลิกกันนาน ผู้ชายไม่ไปบ้านผู้หญิงเลย แค่นี้ก็ผิดปกติแล้วนะ ถ้าเป็นเราเราคงอายที่จะอยู่ อายนี่คือ ละอายแก่ใจนะ เพราะมีแฟนใหม่ แต่ยังอยู่ในบ้านแฟนเก่า อ้อ....แต่แฟนเราไม่มีอะไรปิดบังใคร เราใช้ชีวิตการเปนแฟนปกติ ไม่รู้ว่าเราใจแคบมั้ยนะ ที่คิดแบบนี้ แต่เราทนมาหลายปีแล้ว แรกๆทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้บ่อยมาก แต่หลังๆ เราเห็นอกเห็นใจเด็ก(ลูกเขา 8-9ขวบแล้ว) เขาเกิดมาแล้ว เขาไม่รู้เรื่องอะไร เราไม่ควรเอาปัญหาของผู้ใหญ่ไปลงที่เด็ก เราคิดเห็นใจลูกเขา เห็นใจเขา แต่เขาเหมือนจะไม่เห็นใจใครเลย คิดถึงแต่ตัวเอง ด้วยเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่าง หลายๆครั้งที่เราเห็น จุดนี้แหระ จึงทำให้เราอยากรู้ว่าคนบนโลกนี้คิดยังไงกับเรื่องแบบนี้ เราควรอยู่ต่อ หรือพอแค่นี้ เรื่องปัญหาครอบครัว พ่อแม่ เลิกกัน เราว่ามันก็ไม่ได้มีแค่คู่เขา ในประเทศไทยมีเปนล้านคู่ได้มั้งที่พ่อแม่เลิกกัน เขาก็มีวิธีการซัพพอตลูกได้ดี ที่ไม่ใช่วิธีที่ต้องอยู่ในบ้านแฟนเก่าเพื่อลูกมั้ย เราพยายามใจกว้างมากๆ ชนิดที่แบบเราสามารถเป็นเหมือนครอบครัวดาราครอบครัวหนึ่งได้ที่เขาต่างคนต่างมีครอบครัวใหม่แต่เขามาจอยกันได้แบบไม่มีข้อแม้เพื่อลูก แต่เขาไม่ได้คิดแบบเรา เขาไม่โฟกัสความสุขคนอื่นเลย นอกจากความสบายของตัวเอง แต่เขาอาจจะโฟกัสความสุขลูกเขามากๆมั้งนะ อีกเยอะแยะเป็นหมื่นล้านคำเลยค่ะที่อยากจะเล่าให้ฟัง แต่ตัวหนังสือมันจำกัดเท่านี้ 😅😅 ขอความกรุณาจากทุกท่าน ช่วยอ่านหน่อยนะคะ และช่วยชี้แนะหน่อยนะคะ บางทีคิดคนเดียว มันเครียดมากๆค่ะ ไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็ตัดจบตรงที่ว่า เราก็รักกันดีกับแฟน เราจะเอาปัญหาของคนอื่นมาทำให้เราไม่มีความสุขทำไม แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ จะว่าปัญหาของคนอื่นมั้ย มันก็ไม่เชิงค่ะ เพราะมันอยู่ในชีวิตประจำวันทุกวัน มีนก็อดคิดไม่ได้ค่ะ พิมพ์จบหายปวดหัวเลยค่ะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ
ปัญหาโลกแตก ที่ระบายกับใครไม่ได้ เพราะมันละเอียดอ่อนมั้ง