.
การเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ มักนำพาความสนุกสนานและความอบอุ่นใจกลับมาสู่ครอบครัวและกลุ่มเพื่อนทุกคน อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสุข การดื่มแอลกอฮอล์และการขับขี่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียให้กับสังคมอยู่เสมอ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ตระหนักถึงภัยร้ายแรงนี้ จุดประกายความคิด เปิดตัวแคมเปญ “ ดื่มไม่ขับ ปีใหม่กลับบ้านปลอดภัยปี 2568 ” ที่เน้นย้ำถึงการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ ผ่านการสื่อสารเรื่องราวที่เรียกความรู้สึกและสร้างความตระหนักรู้ในระดับที่ลึกซึ้งกับผู้คนในสังคม
สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. เปิดเผยถึงแนวคิดสำคัญของแคมเปญปีนี้ว่า “ ดื่มแล้วขับอาจเป็นฆาตกร ” โดยการสื่อสารนี้ไม่เพียงแต่เป็นการกระตุ้นเตือนให้คนตระหนักถึงผลกระทบของการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลกระทบต่อการขับขี่ แต่ยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งหากคนดื่มแล้วขับพลาดไปอาจทำให้กลายเป็น ‘ฆาตกร’ โดยไม่ตั้งใจ โดยในปี 2568 สสส. เลือกที่จะนำเสนอภาพการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ ผ่านมุมมองที่เน้นถึงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการดื่มแล้วขับ โดยเน้นไปที่การสร้างความรู้สึกฝังใจและตราบาปที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยคุณสุพัฒนุช กล่าวถึงการเล่าเรื่องที่สะท้อนถึงความสูญเสียของชีวิตและความเจ็บปวดในจิตใจที่ไม่มีวันหายไป เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนหยุดคิดและพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจดื่มและขับขี่
“การใช้ข้อความหรือ Key Message ดื่มแล้วขับอาจเป็นฆาตกร สสส. ต้องการจะทำให้สังคมเห็นมากขึ้นว่าการดื่มแล้วขับจะมีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่อาจทำให้คุณเป็นฆาตกรโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ตั้งใจได้ และอาจเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดที่รู้จักจนเป็นตราบาปและภาพจำฝังใจไปตลอดชีวิต” คุณสุพัฒนุช ย้ำถึงหัวใจสำคัญของแคมเปญ
ในแต่ละปี สสส. พบว่าการดื่มแล้วขับยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนและครอบครัวมากขึ้นเพื่อดื่มด่ำความสุขในวันหยุดยาว สสส. จึงตัดสินใจย้ำเตือนผ่านแคมเปญปีใหม่กลับบ้านปลอดภัยปี 2568 ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับผลกระทบจากความประมาทที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ดี
“แม้จะดื่มเพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้สมองสั่งการช้าลง และเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องหยุดรถ มันอาจจะช้าเกินไปเพียงเสี้ยววินาที” คุณสุพัฒนุช อธิบายถึงความเสี่ยงที่ทุกคนควรระวังช่วงปีใหม่
และเพื่อสื่อสารรณรงค์สังคมในเชิงลึกปีนี้ สสส. เลือกใช้สปอตชื่อว่า “ฝังใจ” ซึ่งเน้นการเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่เคยดื่มแล้วขับจนไปเกิดอุบัติเหตุที่สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวและคนรอบข้างของเหยื่อซึ่งเป็นเพื่อนและคนรู้จักเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจจนเป็นตราบาปติดตัว งานชิ้นนี้ สสส. ต้องการการสร้างภาพที่ชัดเจนของผลกระทบทางจิตใจในระยะยาว เพื่อเตือนให้เห็นถึงผลที่ไม่อาจประเมินค่าได้จากการดื่มแอลกอฮอล์และการขับขี่ในขณะที่ยังมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย
คุณสุพัฒนุช กล่าวถึงบทเรียนจากแคมเปญรณรงค์ในอดีตของ สสส. ว่า คนที่ดื่มหนักที่สุดบางคนเปลี่ยนพฤติกรรมได้ หากเขามองเห็นภาพที่ชัดเจนของผลกระทบที่เกิดขึ้น และยังกล่าวถึงตัวอย่างผู้เปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ด้วยการเลือกที่จะไม่ขับรถเมื่อดื่ม ไม่ว่าจะเป็นการใช้บริการแท็กซี่ ให้คนอื่นมารับ ซึ่งนี่เป็นเป้าหมายการทำแคมเปญของ สสส. ที่มุ่งเป้าทำให้คนดื่มและคนรอบตัวคนดื่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่คุณสุพัฒนุชเชื่อว่าต้องอาศัยการสื่อสารที่ต่อเนื่องและกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความเสี่ยงของการดื่มแล้วขับอย่างลึกซึ้ง โดยปีนี้เน้นไปที่การตอกย้ำให้คนเห็นผลกระทบร้ายแรงในชีวิตและจิตใจของคนดื่มและคนรอบตัวที่รู้จักกัน
“เราอยากย้ำให้เห็นว่า Message ของดื่มแล้วขับอาจเป็นฆาตกร สสส. ได้เสนอในหลายมุม ทั้งมุมของการที่เราไปทำให้เกิดเหยื่อที่เรารู้จักหรือเหยื่อที่อยู่ใกล้ตัวเราเอง เราอยากจะทำให้เห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ใครเจอสถานการณ์แบบนี้ทุกคนเสียใจหมด”
คุณสุพัฒนุช ย้ำถึงเป้าหมายของสปอตรณรงค์ดื่มแล้วขับปีนี้
นอกจากนี้ คุณสุพัฒนุชยังเล่าถึงกรณีที่หลายคนได้รับผลกระทบจากการดื่มแล้วขับ ทั้งข่าวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและเหตุการณ์ในชุมชน เธอบอกว่าการเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ จะทำให้ผู้คนเริ่มทบทวนพฤติกรรมของตนเอง และเลือกที่จะเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตหลังดื่มเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
“อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเรามักจะเสียใจที่เราทำพลาดลงไป ไม่มีใครอยากเป็นฆาตกร ไม่มีใครที่อยากเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุ เราทุกคนช่วยกันได้ เชื่อว่าถ้าเราตระหนักช่วงนี้ ในปีใหม่ ทุกคนจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีความสุขกับครอบครัว” คุณสุพัฒนุช กล่าวทิ้งท้ายถึงทุกคนที่กลับบ้านปีใหม่ในปี 2568
แคมเปญ “กลับบ้านปลอดภัยปี 2568” ปีนี้ สสส. ต้องการย้ำเตือนถึงการดื่มและขับขี่ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งคนให้กลายเป็นโศกนาฏกรรมได้ในพริบตา เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการไม่ประมาทและการใส่ใจในชีวิตของตนเองและผู้อื่น แม้ว่าการเฉลิมฉลองจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานและการสร้างความทรงจำดี ๆ แต่ความประมาทที่เกิดขึ้นจากการดื่มอาจนำไปสู่ผลที่ไม่คาดคิดและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สามารถติดตามสปอตรณรงค์ดื่มไม่ขับได้ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของ สสส. เพื่อมาร่วมกันจุดประกายสร้างสังคมไร้ปัจจัยเสี่ยงจากการดื่มแล้วขับ
· ชมโฆษณาชุดฝังใจ :
· ติดตามข้อมูลความรู้ดีๆ เกี่ยวกับแคมเปญ :
https://creativehealthcampaign.thaihealth.or.th/microsite/icanchange/Accident/ดื่มไม่ขับ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณดื่มแล้วขับ? คำตอบอาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล.. ในแคมเปญ “ ดื่มไม่ขับ ปีใหม่กลับบ้านปลอดภัยปี 2568
สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. เปิดเผยถึงแนวคิดสำคัญของแคมเปญปีนี้ว่า “ ดื่มแล้วขับอาจเป็นฆาตกร ” โดยการสื่อสารนี้ไม่เพียงแต่เป็นการกระตุ้นเตือนให้คนตระหนักถึงผลกระทบของการดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลกระทบต่อการขับขี่ แต่ยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที ซึ่งหากคนดื่มแล้วขับพลาดไปอาจทำให้กลายเป็น ‘ฆาตกร’ โดยไม่ตั้งใจ โดยในปี 2568 สสส. เลือกที่จะนำเสนอภาพการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ ผ่านมุมมองที่เน้นถึงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการดื่มแล้วขับ โดยเน้นไปที่การสร้างความรู้สึกฝังใจและตราบาปที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยคุณสุพัฒนุช กล่าวถึงการเล่าเรื่องที่สะท้อนถึงความสูญเสียของชีวิตและความเจ็บปวดในจิตใจที่ไม่มีวันหายไป เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนหยุดคิดและพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจดื่มและขับขี่
“การใช้ข้อความหรือ Key Message ดื่มแล้วขับอาจเป็นฆาตกร สสส. ต้องการจะทำให้สังคมเห็นมากขึ้นว่าการดื่มแล้วขับจะมีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่อาจทำให้คุณเป็นฆาตกรโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ตั้งใจได้ และอาจเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดที่รู้จักจนเป็นตราบาปและภาพจำฝังใจไปตลอดชีวิต” คุณสุพัฒนุช ย้ำถึงหัวใจสำคัญของแคมเปญ
ในแต่ละปี สสส. พบว่าการดื่มแล้วขับยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลอง โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนและครอบครัวมากขึ้นเพื่อดื่มด่ำความสุขในวันหยุดยาว สสส. จึงตัดสินใจย้ำเตือนผ่านแคมเปญปีใหม่กลับบ้านปลอดภัยปี 2568 ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับผลกระทบจากความประมาทที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ดี
“แม้จะดื่มเพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้สมองสั่งการช้าลง และเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องหยุดรถ มันอาจจะช้าเกินไปเพียงเสี้ยววินาที” คุณสุพัฒนุช อธิบายถึงความเสี่ยงที่ทุกคนควรระวังช่วงปีใหม่
และเพื่อสื่อสารรณรงค์สังคมในเชิงลึกปีนี้ สสส. เลือกใช้สปอตชื่อว่า “ฝังใจ” ซึ่งเน้นการเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่เคยดื่มแล้วขับจนไปเกิดอุบัติเหตุที่สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวและคนรอบข้างของเหยื่อซึ่งเป็นเพื่อนและคนรู้จักเสียชีวิตโดยไม่ได้ตั้งใจจนเป็นตราบาปติดตัว งานชิ้นนี้ สสส. ต้องการการสร้างภาพที่ชัดเจนของผลกระทบทางจิตใจในระยะยาว เพื่อเตือนให้เห็นถึงผลที่ไม่อาจประเมินค่าได้จากการดื่มแอลกอฮอล์และการขับขี่ในขณะที่ยังมีแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย
“เราอยากย้ำให้เห็นว่า Message ของดื่มแล้วขับอาจเป็นฆาตกร สสส. ได้เสนอในหลายมุม ทั้งมุมของการที่เราไปทำให้เกิดเหยื่อที่เรารู้จักหรือเหยื่อที่อยู่ใกล้ตัวเราเอง เราอยากจะทำให้เห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ใครเจอสถานการณ์แบบนี้ทุกคนเสียใจหมด” คุณสุพัฒนุช ย้ำถึงเป้าหมายของสปอตรณรงค์ดื่มแล้วขับปีนี้
นอกจากนี้ คุณสุพัฒนุชยังเล่าถึงกรณีที่หลายคนได้รับผลกระทบจากการดื่มแล้วขับ ทั้งข่าวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันและเหตุการณ์ในชุมชน เธอบอกว่าการเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ จะทำให้ผู้คนเริ่มทบทวนพฤติกรรมของตนเอง และเลือกที่จะเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตหลังดื่มเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
“อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วเรามักจะเสียใจที่เราทำพลาดลงไป ไม่มีใครอยากเป็นฆาตกร ไม่มีใครที่อยากเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุ เราทุกคนช่วยกันได้ เชื่อว่าถ้าเราตระหนักช่วงนี้ ในปีใหม่ ทุกคนจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีความสุขกับครอบครัว” คุณสุพัฒนุช กล่าวทิ้งท้ายถึงทุกคนที่กลับบ้านปีใหม่ในปี 2568
· ชมโฆษณาชุดฝังใจ :