ที่ผ่านมาเราพยายามปรับเรื่องนี้กันมาตลอด ตั้งแต่สมัยทำงานประจำ เลิกงาน 4 ทุ่ม แต่จะกลับดึกกว่านั้นตลอด เพราะเกรงใจพวกพี่ๆเพื่อนๆของเค้า เพราะเป็นคนอยู่นั่งกินเหล้ามาตลอด กลัวเค้าจะมองว่าเปลี่ยนไป เลิก 4 ทุ่ม อยู่กินกะเค้ากลับไวสุดเที่ยงคืน
ไม่รู้ว่าแปลกมั้ย แต่เราไม่โอเคเลย ไม่ใช่ไม่อยากให้เค้ามีสังคม แต่เราคบกันเราก็อยากได้เวลาอยู่ร่วมกันบ้าง เพราะตอนนั้นเราก็ทำงานประจำ เข้างาน 8.00 น. เลิกงาน 17.00 น. ส่วนเค้าเข้างาน 13.00 น. เลิกงาน 22.00 น.
สรุป มาคุยกันตกลงว่าจะปรับ เราให้ไปได้แต่ขอให้มีขอบเขต เพราะตอนนั้นเราทำงานประจำต้องตื่น 6 โมงเช้า ไม่อยากนอนดึก เค้าก็จะปรับ ห่างจากการนั่งกินทุกวัน ขอเหลือสัปดาห์ละ 1 วัน ตรงคืนวันเสาร์ ซึ่งเราโอเค แต่ก็ยังมีกลับดึกวันธรรมดาบ้างประปราย ซึ่งเราพยายามมองว่าอาจจะเรื่องปกติ ยังไงก็กลับมานอนบ้าน ได้อยู่ด้วยกัน งอนๆแป้บๆก็หาย
จุดเปลี่ยน
เค้าตกงานจากงานประจำและมาขับรถรับจ้าง แรกๆก็ดีมากๆเลย ไม่ต้องเลิกงาน 4 ทุ่มแล้ว ไม่ต้องมีเพื่อนที่ทำงานมากวนใจอีก แต่มีบางวันวิ่งงานจนดึก ซึ่งเราโอเคมาก ขยันตั้งใจทำงาน เป็นกำลังใจให้เสมอ
มีวันนึง เค้าประสบอุบัติเหตุ เพราะรถที่ขับไม่เคยบำรุงรักษา ยางเก่า เบรคไม่อยู่ ชนท้ายคันหน้าแล้วคันหน้าเด้งไปชนข้างหน้าอีกที ค่าซ่อมจุกๆ เพราะไม่บำรุงรักษาไม่พอ ไม่มีประกันรถยนต์ด้วย จุดนี้ทำให้ใช้เงินเยอะมาก เงินเก็บที่มีเอาไปซ่อมรถทั้งหมด แถมเป็นหนี้ เลยเป็นจุดที่เราโหลดแอพติดตามกัน (ตรงนี้คือเราเห็นตำแหน่งเค้า-เค้าก็เห็นตำแหน่งเรานะ) จะได้รู้ว่าเป็นอะไรอยู่ที่ไหนเวลาไหน และเวลาแยกย้ายกันไปทำงานจะได้รู้ด้วยว่า ถึงไหนแล้วจะได้เตรียมเรื่องมื้อเย็นกัน
และด้วยนิสัยเค้าเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนขี้เกรงใจ ปฏิเสธคนไม่เก่ง (เช่นแบบรับงานขับรถส่งของแต่ไปช่วยเค้ายกของแบบไม่คิดเงิน) เลยเริ่มมีคนเรียกเป็นงานนอก พอรับงานกับเค้าบ่อยๆ ก็เริ่มสนิทกัน เริ่มมีกลับดึกบ้าง เช่น เห็นละว่าเลิก 6 โมง เรารอกินข้าว แต่เค้านั่งกินเหล้ากับเพื่อน กลับ 2-3 ทุ่ม ก็แอบไม่พอใจแหละ เพราะหิวอ่ะ ก็งอนนิดๆหน่อยๆแป้บๆหาย
และด้วยความที่เป็นงานอิสระ ก็อาจจะไปทำงานในวันหยุด เช่นวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันอาทิตย์ ซึ่งไม่ได้ซีเรียส เพราะสมัยเค้าทำงานประจำก็ไม่ได้มีวันหยุดแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็พยายามบอกให้รีบกลับน้า จะได้รีบมากินข้าวกันพักผ่อนใช้เวลาร่วมกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น บางทีเมื่อวานวิ่งจนตี2 วันนี้ออกไปสายๆ กลับมาตอนเย็น เออก็ยังดี แต่ไม่ขึ้นบ้านแฮะ นั่งกินเหล้ากับพี่ๆข้างบ้าน ขึ้นบ้าน 5 ทุ่มกว่า
ซึ่งเมื่อก่อนเราก็เป็นคนดื่มนะ แต่ช่วงหลังเราเริ่มห่างจากการกินเหล้าเบียร์ เพราะรู้สึกสิ้นเปลือง แล้วเค้าก็ติดหนี้เรา 15,000 ค้างค่าโทรศัพท์ 2000 ติดเงินพ่อแม่อีก 10,000-20,000 แทนที่จะเอาเงินไปลงขวดแบบนี้ พยายามหาเงินมาใช้หนี้พวกนี้บ้างดีไหม เราเองก็กินเที่ยวแบบนี้ไม่ลง เพราะต้องประหยัดเงินไว้รอให้เค้ามายืมไง คนนึงไม่มี ก็ควรมีใครสักคนมีสำรอง และมีสติตั้งรับวันที่ต้องใช้เงินฉุกเฉินมั้ย เค้าไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้เลย เหมือนมีความสุขกับปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่การอยู่กับเราอีกต่างหาก
จุดแตกหัก
เมื่อวานเลิก 6 โมง นั่งกินเหล้าจนถึง 5 ทุ่มถึงขึ้นบ้าน เราก็ไม่พอใจแหละ เหตุผลก็คือแบบเรื่องที่เล่าไปข้างบน แต่ไม่ได้มีการคุยกันนะ ต่างคนต่างนอนตามสไตล์เค้าแหละ
ตื่นมาสายๆเค้าก็ออกไปทำงานละ เลิก 6 โมงเหมือนเดิม แต่ทักมาบอกว่าขอกินกับพี่ที่เรียกงานประจำ เค้าเลี้ยงปีใหม่ เรื่องเมื่อคืนยังไม่เคลียร์จะไปอีกแล้ว ในใจเริ่มคิดละ มันใช่หรอวะความสัมพันธ์แบบนี้ แบบอยู่คนเดียว ประหยัดเงินไว้รอให้เค้ามายืม มันเหงาจนทนไม่ไหวแล้วนะ เรื่องงานก็หนักหน่วงมากแล้ว เลยแวะนั่งกินกับพี่ที่ทำงานบ้างแก้เหงา ซึ่งระหว่างเรานั่งกินมันก็ไม่ได้แฮปปี้แอบคิดว่าทำไมเราไม่ไปอาบน้ำนอนที่นอนนุ่มๆกับแอร์เย็นๆนะ แบบนี้ร้อนมาก แต่ก็อยู่ฆ่าเวลา หวังว่าจะกลับไปเจอกันที่บ้านพอดี
เราถึงบ้าน 00.08 น. อาบน้ำทำไรเสร็จนอนไถโทรศัพท์ถึง ตี1 เค้ายังไม่กลับแหะ ง่วงด้วยเมาด้วยขอนอนก่อนละกัน ตี2-3 อาจจะกลับ
เราตื่นมาปวดฉี่ตอนตี 4 กว่า เห้ย ยังไม่กลับเลย ดู GPS แล้วเห็นว่าไปหยุดอยู่จุดนึงตั้งแต่ตี3 นั่งคิดสักพักเป็นอะไรไปรึป่าววะ เพราะก็อยู่ในร้านเหล้านั่นตั้งแต่ 1ทุ่ม-ตี2ครึ่งแล้วนะ (7ชม.ในร้านเหล้า) แล้วไปหยุดอยู่อีกที่ตอนตี3 อีก คิดสักพักรู้สึกรางสังหรณ์ไม่ดี ขับออกไปดูดีไหม เผื่อเป็นอะไรไป
ขับออกไป ตี4 ครึ่ง ได้ ตามหมุดเห็นรถจอดอยู่ เลยเดินเข้าไปดู ไม่มีคน แต่มีโทรศัพท์ 2-3 เครื่อง ชาร์จแบตไว้อยู่ ข้างๆประมาณ 20 เมตรมีเหมือนร้านโต้รุ่ง เลยเดินไปดู เห็นว่าเค้านั่งกินอยู่กับกลุ่มผญ. 3 คน ส่วนเพื่อนเค้าอีก 4 คนนั่งอีกโต๊ะนึง ไม่รู้ว่าเป็นเด็กที่ร้านหรือคนที่มาเที่ยวนะ สนุกเฮฮา เราเลยเดินไปที่โต๊ะ แล้วยืนมอง พอเค้าเห็นเรา ก็นั่งนิ่ง หันซ้ายหันขวา ไม่ลุกไม่พูดอะไร เราเลยมองไปรอบๆ ไม่ได้พูดอะไร (พูดไม่ออก🥹) แล้วก็เดินกลับ
ในใจลึกๆหวังว่าเค้าน่าจะเดินตามมาขอโทษ แล้วบอกว่าเราเข้าใจผิดนะ มันไม่มีอะไร ขอโทษที่กินจนดึก เดี๋ยวกลับไปคุยกันที่บ้านนะ หรืออะไรก็ได้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เราเดินออกมาคนเดียว จนขึ้นรถมาสักพักเค้าก็ไม่ออกมา เราเลยขับกลับบ้าน คิดว่าจะตี5 ละเดี๋ยวเค้าน่าจะกลับละล่ะเพราะเราเจอแบบนี้มันก็ไม่โอเคนะ ต้องมาคุยกัน แต่ไม่กลับอีก ในแมพขึ้นว่าออกจากร้านมา ตี 5.40 น. ถึงบ้านประมาณ 6 โมงเช้า แบบไม่พูดอะไรนอกจากขอโทษคำเดียว
เราเลยถามว่า รู้ใช่มั้ยนะ ว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหนที่ต้องไปเจออะไรแบบนี้ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาอธิบายอะไรสักหน่อย หรือเดินตามมาคุย ทำไมนั่งนิ่งหันซ้ายขวาทำเหมือนไม่รู้จักเราแบบนั้น เค้าบอกว่า เกรงใจพี่ๆเค้า หาาาา!! เกรงใจพี่ๆเค้า แล้วเราอ่า? ไม่ต้องเกรงใจกันเลยหรอ
เราเลยบอกว่า งั้นเลิกกันดีกว่า เค้าก็ไม่พูดอะไรเก็บเสื้อผ้า (เค้าอยู่บ้านเรา ไม่มีอะไรนอกจากเสื้อผ้า ซึ่ง 80% ของเสื้อผ้านั่นคือเราซื้อให้ ยันกางเกงใน 😅) เราบอกว่าวันนี้เก็บให้หมดแล้วไม่ติดต่อกันอีกนะ ถ้าวันนี้ตัดสินใจทำแบบนี้ เดินออกไปปิดประตูทุกอย่างจบกัน
เค้าบอกว่า ถ้าไม่อยากไปแล้วจะให้ทำอะไรอ่ะ ที่ผ่านมาเค้าก็ทำเต็มที่แล้ว เค้าทำดีที่สุดแล้ว (จุดนี้คิดว่าเพราะเค้าดูแลงานบ้านดีค่ะ ซักผ้า ล้างจาน ล้างห้องน้ำ บ้านสะอาดอยู่เสมอ) เราเลยถามว่า เธอคิดว่าเธอดีที่สุดแล้วใช่มั้ย? เค้าบอกว่าคนดีๆกว่าเค้าก็มีแหละ พวกพระอะไรอย่างงี้ … ก็คือไม่ได้รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผช.ที่ไหนก็ทำกัน เรางี่เง่าและไม่เข้าใจเอง
ระหว่างที่คุยก็ดูรีบๆแหละ สุดท้ายเค้าก็บอกว่า งั้นไปก่อนนะ ต้องไปส่งพี่เค้าอีก (พี่ที่กินเหล้าด้วยกัน) และปิดประตูเดินออกไป …
เค้าดูแคร์ทุกคนรอบตัวเลยนะ ยกเว้นเรา เวลาที่ผ่านมา 5 ปี ที่ดูแลเค้ามามันไม่มีความหมายอะไรเลย กับคนที่เพิ่งเจอกัน เกรงใจเค้าแคร์เค้าทุกอย่าง
**สมัยเค้าทำงานประจำ ช่วงโควิดเค้าอยู่ในธุรกิจที่จะถูกสั่งปิดเป็นอันดับแรกๆ ทำให้ไม่มีรายได้ แต่เราซัพพอร์ตเค้าทุกอย่าง หลังจากกลับมาทำงานปกติ เงินเดือนไม่พอใช้เราก็ช่วยหางานเสริม แต่สุดท้ายก็นั่นแหละ เงินไม่พอใช้อยู่ดี ค้างค่าโทรศัพท์บ้าง ค่างวดรถจนโดนปรับบ้าง ไม่เคยวางแผนเรื่องการเงิน ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต กินเบียร์ทุกวัน ซึ่งกินทุกวันวันละ 3 ขวด มันเดือนละ 5000-6000 เลยนะ มันเอาไปทำไรได้เยอะเลยนะ แต่วันไหนที่ไม่ได้กินจะนั่งเงียบไม่พูดไม่จาไม่มีความสุขตลอด เลยปล่อยให้กินไป วันละ 1-2 ขวดทุกวัน
สุดท้ายนี้ คือเรารู้แหละ ว่าเราให้ความสำคัญต่างกัน เราให้ความสำคัญกับเค้า แต่เค้าให้ความสำคัญกับสังคม ใจก็ยอมรับความจริงนะที่เราคงไปกันต่อไม่ได้ แต่อีกใจเราก็เสียใจอ่ะ ที่เราทุ่มเททุกอย่างมาทั้งหมดมันดูพังไม่เป็นท่า เราจะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง มันควรเป็นยังไงต่อไป เราจะอยู่คนเดียวได้อีกครั้งไหม ควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
ใครเคยมีแฟนติดเพื่อน ชอบเข้าสังคม แต่ตัวเองชอบอยู่บ้านบ้างคะ มันไปจบที่ตรงไหน?
ไม่รู้ว่าแปลกมั้ย แต่เราไม่โอเคเลย ไม่ใช่ไม่อยากให้เค้ามีสังคม แต่เราคบกันเราก็อยากได้เวลาอยู่ร่วมกันบ้าง เพราะตอนนั้นเราก็ทำงานประจำ เข้างาน 8.00 น. เลิกงาน 17.00 น. ส่วนเค้าเข้างาน 13.00 น. เลิกงาน 22.00 น.
สรุป มาคุยกันตกลงว่าจะปรับ เราให้ไปได้แต่ขอให้มีขอบเขต เพราะตอนนั้นเราทำงานประจำต้องตื่น 6 โมงเช้า ไม่อยากนอนดึก เค้าก็จะปรับ ห่างจากการนั่งกินทุกวัน ขอเหลือสัปดาห์ละ 1 วัน ตรงคืนวันเสาร์ ซึ่งเราโอเค แต่ก็ยังมีกลับดึกวันธรรมดาบ้างประปราย ซึ่งเราพยายามมองว่าอาจจะเรื่องปกติ ยังไงก็กลับมานอนบ้าน ได้อยู่ด้วยกัน งอนๆแป้บๆก็หาย
จุดเปลี่ยน
เค้าตกงานจากงานประจำและมาขับรถรับจ้าง แรกๆก็ดีมากๆเลย ไม่ต้องเลิกงาน 4 ทุ่มแล้ว ไม่ต้องมีเพื่อนที่ทำงานมากวนใจอีก แต่มีบางวันวิ่งงานจนดึก ซึ่งเราโอเคมาก ขยันตั้งใจทำงาน เป็นกำลังใจให้เสมอ
มีวันนึง เค้าประสบอุบัติเหตุ เพราะรถที่ขับไม่เคยบำรุงรักษา ยางเก่า เบรคไม่อยู่ ชนท้ายคันหน้าแล้วคันหน้าเด้งไปชนข้างหน้าอีกที ค่าซ่อมจุกๆ เพราะไม่บำรุงรักษาไม่พอ ไม่มีประกันรถยนต์ด้วย จุดนี้ทำให้ใช้เงินเยอะมาก เงินเก็บที่มีเอาไปซ่อมรถทั้งหมด แถมเป็นหนี้ เลยเป็นจุดที่เราโหลดแอพติดตามกัน (ตรงนี้คือเราเห็นตำแหน่งเค้า-เค้าก็เห็นตำแหน่งเรานะ) จะได้รู้ว่าเป็นอะไรอยู่ที่ไหนเวลาไหน และเวลาแยกย้ายกันไปทำงานจะได้รู้ด้วยว่า ถึงไหนแล้วจะได้เตรียมเรื่องมื้อเย็นกัน
และด้วยนิสัยเค้าเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนขี้เกรงใจ ปฏิเสธคนไม่เก่ง (เช่นแบบรับงานขับรถส่งของแต่ไปช่วยเค้ายกของแบบไม่คิดเงิน) เลยเริ่มมีคนเรียกเป็นงานนอก พอรับงานกับเค้าบ่อยๆ ก็เริ่มสนิทกัน เริ่มมีกลับดึกบ้าง เช่น เห็นละว่าเลิก 6 โมง เรารอกินข้าว แต่เค้านั่งกินเหล้ากับเพื่อน กลับ 2-3 ทุ่ม ก็แอบไม่พอใจแหละ เพราะหิวอ่ะ ก็งอนนิดๆหน่อยๆแป้บๆหาย
และด้วยความที่เป็นงานอิสระ ก็อาจจะไปทำงานในวันหยุด เช่นวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันอาทิตย์ ซึ่งไม่ได้ซีเรียส เพราะสมัยเค้าทำงานประจำก็ไม่ได้มีวันหยุดแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็พยายามบอกให้รีบกลับน้า จะได้รีบมากินข้าวกันพักผ่อนใช้เวลาร่วมกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น บางทีเมื่อวานวิ่งจนตี2 วันนี้ออกไปสายๆ กลับมาตอนเย็น เออก็ยังดี แต่ไม่ขึ้นบ้านแฮะ นั่งกินเหล้ากับพี่ๆข้างบ้าน ขึ้นบ้าน 5 ทุ่มกว่า
ซึ่งเมื่อก่อนเราก็เป็นคนดื่มนะ แต่ช่วงหลังเราเริ่มห่างจากการกินเหล้าเบียร์ เพราะรู้สึกสิ้นเปลือง แล้วเค้าก็ติดหนี้เรา 15,000 ค้างค่าโทรศัพท์ 2000 ติดเงินพ่อแม่อีก 10,000-20,000 แทนที่จะเอาเงินไปลงขวดแบบนี้ พยายามหาเงินมาใช้หนี้พวกนี้บ้างดีไหม เราเองก็กินเที่ยวแบบนี้ไม่ลง เพราะต้องประหยัดเงินไว้รอให้เค้ามายืมไง คนนึงไม่มี ก็ควรมีใครสักคนมีสำรอง และมีสติตั้งรับวันที่ต้องใช้เงินฉุกเฉินมั้ย เค้าไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้เลย เหมือนมีความสุขกับปัจจุบันเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่การอยู่กับเราอีกต่างหาก
จุดแตกหัก
เมื่อวานเลิก 6 โมง นั่งกินเหล้าจนถึง 5 ทุ่มถึงขึ้นบ้าน เราก็ไม่พอใจแหละ เหตุผลก็คือแบบเรื่องที่เล่าไปข้างบน แต่ไม่ได้มีการคุยกันนะ ต่างคนต่างนอนตามสไตล์เค้าแหละ
ตื่นมาสายๆเค้าก็ออกไปทำงานละ เลิก 6 โมงเหมือนเดิม แต่ทักมาบอกว่าขอกินกับพี่ที่เรียกงานประจำ เค้าเลี้ยงปีใหม่ เรื่องเมื่อคืนยังไม่เคลียร์จะไปอีกแล้ว ในใจเริ่มคิดละ มันใช่หรอวะความสัมพันธ์แบบนี้ แบบอยู่คนเดียว ประหยัดเงินไว้รอให้เค้ามายืม มันเหงาจนทนไม่ไหวแล้วนะ เรื่องงานก็หนักหน่วงมากแล้ว เลยแวะนั่งกินกับพี่ที่ทำงานบ้างแก้เหงา ซึ่งระหว่างเรานั่งกินมันก็ไม่ได้แฮปปี้แอบคิดว่าทำไมเราไม่ไปอาบน้ำนอนที่นอนนุ่มๆกับแอร์เย็นๆนะ แบบนี้ร้อนมาก แต่ก็อยู่ฆ่าเวลา หวังว่าจะกลับไปเจอกันที่บ้านพอดี
เราถึงบ้าน 00.08 น. อาบน้ำทำไรเสร็จนอนไถโทรศัพท์ถึง ตี1 เค้ายังไม่กลับแหะ ง่วงด้วยเมาด้วยขอนอนก่อนละกัน ตี2-3 อาจจะกลับ
เราตื่นมาปวดฉี่ตอนตี 4 กว่า เห้ย ยังไม่กลับเลย ดู GPS แล้วเห็นว่าไปหยุดอยู่จุดนึงตั้งแต่ตี3 นั่งคิดสักพักเป็นอะไรไปรึป่าววะ เพราะก็อยู่ในร้านเหล้านั่นตั้งแต่ 1ทุ่ม-ตี2ครึ่งแล้วนะ (7ชม.ในร้านเหล้า) แล้วไปหยุดอยู่อีกที่ตอนตี3 อีก คิดสักพักรู้สึกรางสังหรณ์ไม่ดี ขับออกไปดูดีไหม เผื่อเป็นอะไรไป
ขับออกไป ตี4 ครึ่ง ได้ ตามหมุดเห็นรถจอดอยู่ เลยเดินเข้าไปดู ไม่มีคน แต่มีโทรศัพท์ 2-3 เครื่อง ชาร์จแบตไว้อยู่ ข้างๆประมาณ 20 เมตรมีเหมือนร้านโต้รุ่ง เลยเดินไปดู เห็นว่าเค้านั่งกินอยู่กับกลุ่มผญ. 3 คน ส่วนเพื่อนเค้าอีก 4 คนนั่งอีกโต๊ะนึง ไม่รู้ว่าเป็นเด็กที่ร้านหรือคนที่มาเที่ยวนะ สนุกเฮฮา เราเลยเดินไปที่โต๊ะ แล้วยืนมอง พอเค้าเห็นเรา ก็นั่งนิ่ง หันซ้ายหันขวา ไม่ลุกไม่พูดอะไร เราเลยมองไปรอบๆ ไม่ได้พูดอะไร (พูดไม่ออก🥹) แล้วก็เดินกลับ
ในใจลึกๆหวังว่าเค้าน่าจะเดินตามมาขอโทษ แล้วบอกว่าเราเข้าใจผิดนะ มันไม่มีอะไร ขอโทษที่กินจนดึก เดี๋ยวกลับไปคุยกันที่บ้านนะ หรืออะไรก็ได้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เราเดินออกมาคนเดียว จนขึ้นรถมาสักพักเค้าก็ไม่ออกมา เราเลยขับกลับบ้าน คิดว่าจะตี5 ละเดี๋ยวเค้าน่าจะกลับละล่ะเพราะเราเจอแบบนี้มันก็ไม่โอเคนะ ต้องมาคุยกัน แต่ไม่กลับอีก ในแมพขึ้นว่าออกจากร้านมา ตี 5.40 น. ถึงบ้านประมาณ 6 โมงเช้า แบบไม่พูดอะไรนอกจากขอโทษคำเดียว
เราเลยถามว่า รู้ใช่มั้ยนะ ว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหนที่ต้องไปเจออะไรแบบนี้ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาอธิบายอะไรสักหน่อย หรือเดินตามมาคุย ทำไมนั่งนิ่งหันซ้ายขวาทำเหมือนไม่รู้จักเราแบบนั้น เค้าบอกว่า เกรงใจพี่ๆเค้า หาาาา!! เกรงใจพี่ๆเค้า แล้วเราอ่า? ไม่ต้องเกรงใจกันเลยหรอ
เราเลยบอกว่า งั้นเลิกกันดีกว่า เค้าก็ไม่พูดอะไรเก็บเสื้อผ้า (เค้าอยู่บ้านเรา ไม่มีอะไรนอกจากเสื้อผ้า ซึ่ง 80% ของเสื้อผ้านั่นคือเราซื้อให้ ยันกางเกงใน 😅) เราบอกว่าวันนี้เก็บให้หมดแล้วไม่ติดต่อกันอีกนะ ถ้าวันนี้ตัดสินใจทำแบบนี้ เดินออกไปปิดประตูทุกอย่างจบกัน
เค้าบอกว่า ถ้าไม่อยากไปแล้วจะให้ทำอะไรอ่ะ ที่ผ่านมาเค้าก็ทำเต็มที่แล้ว เค้าทำดีที่สุดแล้ว (จุดนี้คิดว่าเพราะเค้าดูแลงานบ้านดีค่ะ ซักผ้า ล้างจาน ล้างห้องน้ำ บ้านสะอาดอยู่เสมอ) เราเลยถามว่า เธอคิดว่าเธอดีที่สุดแล้วใช่มั้ย? เค้าบอกว่าคนดีๆกว่าเค้าก็มีแหละ พวกพระอะไรอย่างงี้ … ก็คือไม่ได้รู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผช.ที่ไหนก็ทำกัน เรางี่เง่าและไม่เข้าใจเอง
ระหว่างที่คุยก็ดูรีบๆแหละ สุดท้ายเค้าก็บอกว่า งั้นไปก่อนนะ ต้องไปส่งพี่เค้าอีก (พี่ที่กินเหล้าด้วยกัน) และปิดประตูเดินออกไป …
เค้าดูแคร์ทุกคนรอบตัวเลยนะ ยกเว้นเรา เวลาที่ผ่านมา 5 ปี ที่ดูแลเค้ามามันไม่มีความหมายอะไรเลย กับคนที่เพิ่งเจอกัน เกรงใจเค้าแคร์เค้าทุกอย่าง
**สมัยเค้าทำงานประจำ ช่วงโควิดเค้าอยู่ในธุรกิจที่จะถูกสั่งปิดเป็นอันดับแรกๆ ทำให้ไม่มีรายได้ แต่เราซัพพอร์ตเค้าทุกอย่าง หลังจากกลับมาทำงานปกติ เงินเดือนไม่พอใช้เราก็ช่วยหางานเสริม แต่สุดท้ายก็นั่นแหละ เงินไม่พอใช้อยู่ดี ค้างค่าโทรศัพท์บ้าง ค่างวดรถจนโดนปรับบ้าง ไม่เคยวางแผนเรื่องการเงิน ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต กินเบียร์ทุกวัน ซึ่งกินทุกวันวันละ 3 ขวด มันเดือนละ 5000-6000 เลยนะ มันเอาไปทำไรได้เยอะเลยนะ แต่วันไหนที่ไม่ได้กินจะนั่งเงียบไม่พูดไม่จาไม่มีความสุขตลอด เลยปล่อยให้กินไป วันละ 1-2 ขวดทุกวัน
สุดท้ายนี้ คือเรารู้แหละ ว่าเราให้ความสำคัญต่างกัน เราให้ความสำคัญกับเค้า แต่เค้าให้ความสำคัญกับสังคม ใจก็ยอมรับความจริงนะที่เราคงไปกันต่อไม่ได้ แต่อีกใจเราก็เสียใจอ่ะ ที่เราทุ่มเททุกอย่างมาทั้งหมดมันดูพังไม่เป็นท่า เราจะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง มันควรเป็นยังไงต่อไป เราจะอยู่คนเดียวได้อีกครั้งไหม ควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี