ขอท้าวความยาวๆ
เรากับแฟนเก่าคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปี 1 จนก่อนเลิกประมาณ 10 ปีที่คบกัน แต่ไม่ได้แต่ง
เรามีเหตุให้ต้องกลับบ้านนานร่วมเดือนมางานสีดำ จากนั้นไม่ถึงสัปดาห์เค้านอกใจนอกกายไปกับคนใหม่ ในขณะที่เราเริ่มท้อง (ซึ่งตอนแรกยังไม่ทราบนะคะ) จู่ๆเค้าถามเมนมาไหม และเร่งให้เรารีบตรวจ จะได้รีบรู้ว่าท้องรึเปล่า จนไม่กี่วันเค้าบอกว่าอยากอยู่คนเดียว และสืบทราบได้เองว่าเค้าไปนอนกะคนใหม่เรียบร้อยแล้ว
มีการกลับมารับเรา แต่มีเงื่อนไขว่าให้อยู่บ้าน และเค้าไม่รู้สึกอะไรแล้ว ให้กลับมาคลอด และมีคนช่วยเลี้ยงที่นั่น (รู้ภายหลังว่ากลับมารับเพราะแม่ใช้ให้มาพาเรากับหลานกลับไปและจะช่วยดาวน์รถให้)
เราอยู่บ้านไม่ได้เนื่องจากเหตุผลเรื่องงานและของกินเป็นหลัก เลยขอกลับไปอยู่กับเค้า
พอไปอยู่จริง สองสามวันแรกกลับมานอนด้วย หลังจากนั้นความจริงก็เผยออกมาเรื่อยๆ (ไปสามวันแรกมาขอเราไปเที่ยวทะเลกับคนใหม่ พอเรางี่เง่าก้หนีไปเลย ติดต่อไม่ได้ จนถึงจุดแวะพักรถ โทรกลับมาบอกว่าถึงไหนแล้ว) อยู่ไปเรื่อยๆจนไม่กลับมาห้อง และไม่มาอยู่ด้วยอีกเลย บางทีเหมือนจะห่วง กลับมาดูแลเราบ้าง แล้วก็ไป มีเวลาอยู่ด้วยกันไม่ถึง 1 ชม. และไม่ทุกวัน
ก่อนจะคลอด เรายอมรับความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยิ่งใกล้ ยิ่งเห็น เค้าไม่กลับมาห้อง มาทีก้มาเอาเสื้อผ้า เลยตัดสินใจแพคเสื้อผ้าแล้วเอาให้เค้าไป จะได้ไม่ต้องมาห้องบ่อยๆ เพราะเราอยากทำใจได้ด้วยส่วนนึง
เค้าก็มาเล่าให้ฟังบ้าง เรื่องระหว่างเค้ากับคนใหม่เป็นยังไง ออกแนวปรึกษาเรื่องแฟนใหม่ให้แฟนเก่าฟัง (เวลาทะเลาะกัน แฟนใหม่เค้าชอบพูดว่าจะเก็บเสื้อผ้าเค้ามาวางให้หน้าห้อง ผู้ชายก้จะทักมาหาเราว่า มีเสื้อผ้าเค้ามาแล้วยังพอดีว่าทะเลาะกัน)
มีปรึกษากันเรื่องงานบ้าง เพราะเคยทำงานด้วยกัน ลักษณะงานเดียวกัน เป็นที่ปรึกษากันและกันมาตลอดหลายปี เค้าไม่มีรถใช้ เราท้องไม่อยากไปไหน เค้าเอารถเราไปใช้และไปเที่ยวกับคนใหม่บ้าง
มันก้มีที่รู้สึกได้ว่า บางช่วงที่เค้าดูเหมือนไม่มีใครเข้าใจ เค้าจะมาหาเรา มานั่งคุยเรื่องงาน มานั่งเล่น แล้วกลับไป แต่เราดูออกว่า เครียดทั้งงาน ทั้งคนใหม่ อาจจะมีปากเสียงกันเพราะเรากับลูก
พออยู่ไปเรื่อยๆ เค้าทำให้เรารู้สึกได้อีกว่า เค้ายังห่วงเรานะ เคยถามเค้าว่า ที่ทำมาทั้งหมดนี่มันคืออะไร เค้าก็ตอบว่าไม่รู้ เหมือนเค้าไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังทิ้งทางนั้นไม่ได้ เค้าขอเคลียตัวเอง แล้วจะให้คำตอบ
เราท้อง ทำงานและอยู่กับลูก 2 คน จนคลอด
กลับมาอยู่ที่เดิม มีน้องที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเค้ามาช่วยเลี้ยง ช่วยดูแลทั้งเราและหลาน (ถ้าไม่ได้เด็กคนนี้เราแย่แน่ๆ เพราะท้องแรกทำไรไม่เป็นเลย พอเห็นน้องมันช่วย เราก็เรียนรู้จากเค้า น้องเลี้ยงหลานมาเยอะ เรียกว่าเก่งเลยทีเดียว แต่น้องมันยังเรียนอยู่เราเกรงใจ)
ส่วนผู้ชายให้คำมั่นว่าจะมาช่วยดูแลลูกทุกวัน พอถึงวันคลอดพาไปรพ.-นอนเฝ้า-กลับไปทำงานแล้วมานอนเฝ้าใหม่ พอหมอให้กลับบ้านก็มาอยู่ช่วยดูแลลูก นอนเฝ้าลูก สะดุ้งตื่นตีสอง ก็กลับไปอยู่กับอีกคนตามเคย
อีกวันต่อมา เค้าไม่มาเลย และคาดว่าทะเลาะกัน อีกฝั่งเหมือนไม่พอใจที่ผู้ชายคนนี้ต้องรับผิดชอบเรากับลูก และกลัวว่าผู้ชายจะกลับมาอยู่กับเราและทิ้งเค้า
หลังคลอด จะเป็นความรู้สึกเหมือนเมียหลวง ที่ผัวทิ้งไปอยู่กับเมียน้อย
ทั้งความรู้สึกที่มันรู้สึกได้เอง ทั้งคำพูดของเพื่อนที่มองเข้ามาในความสัมพันธ์นี้ ทั้งการกระทำของผู้ชาย แต่ที่กล่าวมาตั้งแต่เริ่มต้นนั้น เราไม่เคยมีสัมพันธ์กันเลยซักครั้ง หลังคลอดก็ไม่มี ด้วยความที่เราก็กลัว เหมือนหยุดคิดทบทวนอะไรหลายอย่างจนไม่ได้คิดเรื่องนี้ ส่วนตัวผู้ชายเองไม่ทำแน่นอน เพราะนางสดกับใหม่เรียบร้อยแล้ว
จนเราตัดสินใจกลับบ้านเกิด บอกเค้าก่อนกลับ 4 เดือน ก่อนกลับเรากลับไปอยู่บ้านเค้าตามเคย เค้าก็มีมารับไปดูงานมาส่งบ้าน แวะกินข้าวที่บ้าน มาหาลูก มารับเราไปดูงานเค้า เหมือนไปเที่ยวหน้างาน ทำแบบตอนที่ยังคบกัน ตั้งแต่บอกเค้าว่าจะไป มี 3 ครั้ง ที่มาขอให้เรากับลูกอยู่ต่อ
ครั้งแรกถามว่าจะไปจริงๆหรอ เหมือนยอม แต่ถ้าเค้ามาธุระที่กทม.ก็ให้ออกมาเจอกัน
ครั้งที่สองขอให้ย้ายไปอยู่บ้านเช่าที่อื่นที่ไม่ไกลกัน จะช่วยออกค่าเช่า ซึ่งปัจจุบัน ณ ตอนนั้น เราอยู่หอพัก ขอให้เลือกบ้านที่กว้างหน่อย เผื่อที่เลี้ยงลูก อยากให้เลือกบ้านที่มี 2 ห้อง บางวันอาจจะขอมานอนพักอีกห้องนึง และขออีกว่าเค้าอยากทำอาหารขายเพราะเครียดงานประจำ อยากมีรายได้เสริม จะมาขอใช้ครัวบ้านเช่าเรา ไม่อยากยุ่งกับครัวที่บ้านเช่าของคนใหม่ของเค้า ซึ่งเหตุผลเราไม่ทราบ ถามแล้วเค้าบอกว่ามันวุ่นวาย แล้วก็เงียบไป
ครั้งที่สาม มาคุยตอนจะย้ายกลับบ้านเค้า ขอให้ไม่ไป ขอให้ออกไปเช่าบ้านอยู่ในเมืองก็ได้ ถ้าติดเรื่องงานก็ฝากลูกให้แม่เค้าเลี้ยง โดยบอกว่าจะช่วยจ่ายค่าเช่าอีกตามเคย (ซึ่งเราไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ถ้าคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ เงินค่าเช่า เราไม่มี
และเค้าคงซัพพอร์ทเราไม่ได้ตลอดไป)
ทั้งสามครั้งที่มาขอให้ไม่พาลูกไปไหนจากเค้า
ก้ไม่เคยได้คำตอบมาเลยว่าอยากกลับมาอยู่ด้วยกันไหม เคยแต่บอกว่า ไม่ได้อยากกลับมาอยู่ด้วยกันแบบเดิม เหมือนอยากแค่เห็นลูก เห็นพัฒนาการ สุดท้ายแล้วมีแค่คำถามที่ทิ้งท้ายถามเราคืนว่า "อยากให้มาอยู่ด้วยหรอ"
เวลาเราอยู่ด้วยกัน เหมือนคนรักกันปกติ หมายถึงภายนอกที่คนมองเข้ามา เค้าไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
วันสุดท้ายที่เจอเค้าคือที่บ้านเค้าเอง เทศกาลวันหยุดจบลง เค้าขับรถกลับไปทำงาน
กับคำลาสั้นๆ ที่ไม่ได้ยืดเยื้อ
พอแยกย้าย เรากลับมาบ้านเกิด
เค้าก็กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม
มีคุยกัน ส่งรูปลูกให้
จนฟางเส้นสุดท้ายขาด
เค้าขอความช่วยเหลือ เราเร่งทำให้ทุกอย่าง
เพราะเราก็ติดดูแลลูก รีบทำรีบจบ
ในขณะเดียวกัน มีเอกสารสำคัญไปที่บ้านเค้า
เค้าทักมาบอก ไม่กี่สัปดาห์เค้ากลับบ้านไปเอา เก็บเอาไว้ที่ตัวเอง ไม่ส่งมา แล้วบอกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา ต้องเร่งส่งงานปลายปี
จึงต้องพูดว่า ถ้าไม่ส่งมา ก้ไม่ต้องมาถามหาลูกอีก ซึ่งจริงๆไม่ได้เอาเด็กมาอ้าง แต่มันหมดความอดทน
เราได้รับเอกสารหลังจากวันแรกที่รู้ ร่วม 2 เดือนกว่าจะได้เอกสารมา
จากนั้น เราเลิกติดต่อทันที โมโหมากกับคำพูดของเค้าที่บอกว่า เพิ่งจะรู้หรอว่าต้องใช้เอกสาร (จริงๆเราทวงมาตลอดแต่ไม่เคยได้) เค้าก็ไม่ทักมาร่วมเดือน เค้าพยายามติดต่อกลับมา มาถามหาลูกบ้าง มาถามหาข้อมูลใบราคางานจากเราจะเอาไปเสนอลูกค้าบ้าง พยายามส่งลิ้งค์หางานให้เรา จนสัปดาห์ก่อนมาขอไฟล์งานของเรา เอาไปเป็นตัวอย่างให้งานตัวเองบ้าง
จบกันที่วันนี้เลย ที่เราต้องตัดสินใจพูดแรงๆ เราเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ที่ไม่คุย เพราะอยากลืมๆกันไปซักที เพราะยิ่งคุยเรายิ่งไม่ลืมเลย
เคยบอกไปแล้วว่า ถ้าเลือกแล้วก็ไปเถอะ เพราะเราจะไปเหมือนกัน
วันนี้เค้าโทรมาถามเรื่องไฟล์เอกสารว่าทำไมไม่ส่งให้ เราเลยต้องพูดแรงๆใส่ว่า ทำไมไม่ทำเอง รู้ทั้งรู้ว่ามันต้องส่งแล้ว เค้าก็สวยมาว่าไลน์ก็ไม่ตอบโทรก้ไม่รับไม่อยากคุยหรอ ซึ่งเราตอบว่าใช่ ไม่อยากคุย
แล้วเหตุผลที่มาขอไฟล์คืออยากทำงานง่ายๆ เอามาตั้งต้นเป็นไฟล์งานตัวเอง
เราพูดไปคำนึงว่า คิดไม่ได้เลยจริงๆ ทำไมถึงคิดไม่ได้
ไม่รู้เค้าจะเข้าใจมั้ยนะ ความหมายคือ ต่อมห้มีงูก เราไม่ควรติดต่อกัน อีกอย่างนึง เราสองคนจบไม่สวย ภึงแม้ว่ามันจะกลับมาเจอเพื่อเคลียใจกันก็ตาม แล้วเค้ามีคนของเค้าแล้ว เค้าเลือกแล้ว การที่ติดต่อกลับมา ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม อยากให้คิดถึงคนของเค้าบ้าง เพราะเราคิดกลับกันถ้าแฟนตัวเองมาติดต่อแฟนเก่า จะรู้สึกยังไง
ทางคนใหม่เค้าให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเค้าไม่ได้ เพราะเด็กกว่า 7-8 ปี ไม่ได้เรียนจบ และไม่เข้าใจสายงานที่เราทำ มีแค่คำปลอบใจว่าสู้ๆนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
จากที่เคยปรึกษาเรา เพราะเราทำงานสายเดียวกัน เราให้คำตอบเค้าได้ เพราะเรารู้ลักษณะงาน เค้าต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้เพราะเค้าเลือกเอง คนใหม่เค้าเคยพูดกับผู้ชายว่า ผู้ชายมีเราเป็นเซฟโซน ซึ่งคนใหม่เองไม่ใช่ ออกแนวน้อยใจ
พอจบบทสนทนาวันนี้ เราบอกว่าไม่อยากคุย น้ำเสียงที่ปลายสายเค้าเศร้าเลย เสียงเศร้าๆ
พูดให้เราฟังว่า จะได้รู้ว่าไม่อยากติดต่อกันอีกแล้ว จากนั้นเราเป็นคนรอให้เค้ากดวางสายเอง กดวางสายจะเป็นเค้ากดซึ่งเราทำมันตั้งแต่คบกันจนเลิกกัน มันติดนิสัยไปซะ จริงๆเราไม่น่ารอให้กดวางอีกเลย เพราะเค้าเคยบอกว่า คนอื่นในชีวิตเค้าเลือกที่จะกดตัดสายก่อน
เราอยากให้สายนี้เป็นสายสุดท้ายที่เค้าโทรมาจริงๆ เค้าอยากมีชีวิตแบบไหนก็ไปใช้ได้เลย เรากับลูกที่เคยคิดว่าจะอยู่ไม่ได้ ตอนนี้อยู่ได้แล้ว มันต้องตัดแล้ว เราโอเคขึ้นมากแล้ว
ลูกก็สบายดี ไม่ต้องห่วงตรงนี้เลย ไปใช้ขีวิตที่อยากใข้ได้เลย
อยากขอโทษจริงๆ สำหรับเรื่องที่พูดแรงๆวันนี้
เค้าเคยบอกว่าไม่ได้ทิ้งลูก แต่พอเราถามว่าแล้วทิ้งเราใช่ไหม เค้าไม่พูด แต่กับลูกตอบได้เต็มปากว่าไม่ทิ้ง
เพราะถ้าเค้าเลือกลูกอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะแม่กับลูกมีความผูกพันธ์กันอยู่ เค้าคิดไม่ได้เลย
เหตุการณ์วันนี้ที่ต้องพูดใส่แรงๆ เราเก็บกลับมาคิดว่า เราเหมือนใจร้ายเลย แต่จริงๆเทียบกับสิ่งที่เค้าทำเราไม่ได้ซักนิด
อยากตัดใจกับคนที่เลิกกันแล้ว แต่เค้ายังทักมาหาเรื่องงานบ้าง เรื่องลูกบ้าง จนกลายเป็นยิ่งคุย ยิ่งรู้สึก
เรากับแฟนเก่าคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปี 1 จนก่อนเลิกประมาณ 10 ปีที่คบกัน แต่ไม่ได้แต่ง
เรามีเหตุให้ต้องกลับบ้านนานร่วมเดือนมางานสีดำ จากนั้นไม่ถึงสัปดาห์เค้านอกใจนอกกายไปกับคนใหม่ ในขณะที่เราเริ่มท้อง (ซึ่งตอนแรกยังไม่ทราบนะคะ) จู่ๆเค้าถามเมนมาไหม และเร่งให้เรารีบตรวจ จะได้รีบรู้ว่าท้องรึเปล่า จนไม่กี่วันเค้าบอกว่าอยากอยู่คนเดียว และสืบทราบได้เองว่าเค้าไปนอนกะคนใหม่เรียบร้อยแล้ว
มีการกลับมารับเรา แต่มีเงื่อนไขว่าให้อยู่บ้าน และเค้าไม่รู้สึกอะไรแล้ว ให้กลับมาคลอด และมีคนช่วยเลี้ยงที่นั่น (รู้ภายหลังว่ากลับมารับเพราะแม่ใช้ให้มาพาเรากับหลานกลับไปและจะช่วยดาวน์รถให้)
เราอยู่บ้านไม่ได้เนื่องจากเหตุผลเรื่องงานและของกินเป็นหลัก เลยขอกลับไปอยู่กับเค้า
พอไปอยู่จริง สองสามวันแรกกลับมานอนด้วย หลังจากนั้นความจริงก็เผยออกมาเรื่อยๆ (ไปสามวันแรกมาขอเราไปเที่ยวทะเลกับคนใหม่ พอเรางี่เง่าก้หนีไปเลย ติดต่อไม่ได้ จนถึงจุดแวะพักรถ โทรกลับมาบอกว่าถึงไหนแล้ว) อยู่ไปเรื่อยๆจนไม่กลับมาห้อง และไม่มาอยู่ด้วยอีกเลย บางทีเหมือนจะห่วง กลับมาดูแลเราบ้าง แล้วก็ไป มีเวลาอยู่ด้วยกันไม่ถึง 1 ชม. และไม่ทุกวัน
ก่อนจะคลอด เรายอมรับความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยิ่งใกล้ ยิ่งเห็น เค้าไม่กลับมาห้อง มาทีก้มาเอาเสื้อผ้า เลยตัดสินใจแพคเสื้อผ้าแล้วเอาให้เค้าไป จะได้ไม่ต้องมาห้องบ่อยๆ เพราะเราอยากทำใจได้ด้วยส่วนนึง
เค้าก็มาเล่าให้ฟังบ้าง เรื่องระหว่างเค้ากับคนใหม่เป็นยังไง ออกแนวปรึกษาเรื่องแฟนใหม่ให้แฟนเก่าฟัง (เวลาทะเลาะกัน แฟนใหม่เค้าชอบพูดว่าจะเก็บเสื้อผ้าเค้ามาวางให้หน้าห้อง ผู้ชายก้จะทักมาหาเราว่า มีเสื้อผ้าเค้ามาแล้วยังพอดีว่าทะเลาะกัน)
มีปรึกษากันเรื่องงานบ้าง เพราะเคยทำงานด้วยกัน ลักษณะงานเดียวกัน เป็นที่ปรึกษากันและกันมาตลอดหลายปี เค้าไม่มีรถใช้ เราท้องไม่อยากไปไหน เค้าเอารถเราไปใช้และไปเที่ยวกับคนใหม่บ้าง
มันก้มีที่รู้สึกได้ว่า บางช่วงที่เค้าดูเหมือนไม่มีใครเข้าใจ เค้าจะมาหาเรา มานั่งคุยเรื่องงาน มานั่งเล่น แล้วกลับไป แต่เราดูออกว่า เครียดทั้งงาน ทั้งคนใหม่ อาจจะมีปากเสียงกันเพราะเรากับลูก
พออยู่ไปเรื่อยๆ เค้าทำให้เรารู้สึกได้อีกว่า เค้ายังห่วงเรานะ เคยถามเค้าว่า ที่ทำมาทั้งหมดนี่มันคืออะไร เค้าก็ตอบว่าไม่รู้ เหมือนเค้าไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็ยังทิ้งทางนั้นไม่ได้ เค้าขอเคลียตัวเอง แล้วจะให้คำตอบ
เราท้อง ทำงานและอยู่กับลูก 2 คน จนคลอด
กลับมาอยู่ที่เดิม มีน้องที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเค้ามาช่วยเลี้ยง ช่วยดูแลทั้งเราและหลาน (ถ้าไม่ได้เด็กคนนี้เราแย่แน่ๆ เพราะท้องแรกทำไรไม่เป็นเลย พอเห็นน้องมันช่วย เราก็เรียนรู้จากเค้า น้องเลี้ยงหลานมาเยอะ เรียกว่าเก่งเลยทีเดียว แต่น้องมันยังเรียนอยู่เราเกรงใจ)
ส่วนผู้ชายให้คำมั่นว่าจะมาช่วยดูแลลูกทุกวัน พอถึงวันคลอดพาไปรพ.-นอนเฝ้า-กลับไปทำงานแล้วมานอนเฝ้าใหม่ พอหมอให้กลับบ้านก็มาอยู่ช่วยดูแลลูก นอนเฝ้าลูก สะดุ้งตื่นตีสอง ก็กลับไปอยู่กับอีกคนตามเคย
อีกวันต่อมา เค้าไม่มาเลย และคาดว่าทะเลาะกัน อีกฝั่งเหมือนไม่พอใจที่ผู้ชายคนนี้ต้องรับผิดชอบเรากับลูก และกลัวว่าผู้ชายจะกลับมาอยู่กับเราและทิ้งเค้า
หลังคลอด จะเป็นความรู้สึกเหมือนเมียหลวง ที่ผัวทิ้งไปอยู่กับเมียน้อย
ทั้งความรู้สึกที่มันรู้สึกได้เอง ทั้งคำพูดของเพื่อนที่มองเข้ามาในความสัมพันธ์นี้ ทั้งการกระทำของผู้ชาย แต่ที่กล่าวมาตั้งแต่เริ่มต้นนั้น เราไม่เคยมีสัมพันธ์กันเลยซักครั้ง หลังคลอดก็ไม่มี ด้วยความที่เราก็กลัว เหมือนหยุดคิดทบทวนอะไรหลายอย่างจนไม่ได้คิดเรื่องนี้ ส่วนตัวผู้ชายเองไม่ทำแน่นอน เพราะนางสดกับใหม่เรียบร้อยแล้ว
จนเราตัดสินใจกลับบ้านเกิด บอกเค้าก่อนกลับ 4 เดือน ก่อนกลับเรากลับไปอยู่บ้านเค้าตามเคย เค้าก็มีมารับไปดูงานมาส่งบ้าน แวะกินข้าวที่บ้าน มาหาลูก มารับเราไปดูงานเค้า เหมือนไปเที่ยวหน้างาน ทำแบบตอนที่ยังคบกัน ตั้งแต่บอกเค้าว่าจะไป มี 3 ครั้ง ที่มาขอให้เรากับลูกอยู่ต่อ
ครั้งแรกถามว่าจะไปจริงๆหรอ เหมือนยอม แต่ถ้าเค้ามาธุระที่กทม.ก็ให้ออกมาเจอกัน
ครั้งที่สองขอให้ย้ายไปอยู่บ้านเช่าที่อื่นที่ไม่ไกลกัน จะช่วยออกค่าเช่า ซึ่งปัจจุบัน ณ ตอนนั้น เราอยู่หอพัก ขอให้เลือกบ้านที่กว้างหน่อย เผื่อที่เลี้ยงลูก อยากให้เลือกบ้านที่มี 2 ห้อง บางวันอาจจะขอมานอนพักอีกห้องนึง และขออีกว่าเค้าอยากทำอาหารขายเพราะเครียดงานประจำ อยากมีรายได้เสริม จะมาขอใช้ครัวบ้านเช่าเรา ไม่อยากยุ่งกับครัวที่บ้านเช่าของคนใหม่ของเค้า ซึ่งเหตุผลเราไม่ทราบ ถามแล้วเค้าบอกว่ามันวุ่นวาย แล้วก็เงียบไป
ครั้งที่สาม มาคุยตอนจะย้ายกลับบ้านเค้า ขอให้ไม่ไป ขอให้ออกไปเช่าบ้านอยู่ในเมืองก็ได้ ถ้าติดเรื่องงานก็ฝากลูกให้แม่เค้าเลี้ยง โดยบอกว่าจะช่วยจ่ายค่าเช่าอีกตามเคย (ซึ่งเราไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ถ้าคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ เงินค่าเช่า เราไม่มี
และเค้าคงซัพพอร์ทเราไม่ได้ตลอดไป)
ทั้งสามครั้งที่มาขอให้ไม่พาลูกไปไหนจากเค้า
ก้ไม่เคยได้คำตอบมาเลยว่าอยากกลับมาอยู่ด้วยกันไหม เคยแต่บอกว่า ไม่ได้อยากกลับมาอยู่ด้วยกันแบบเดิม เหมือนอยากแค่เห็นลูก เห็นพัฒนาการ สุดท้ายแล้วมีแค่คำถามที่ทิ้งท้ายถามเราคืนว่า "อยากให้มาอยู่ด้วยหรอ"
เวลาเราอยู่ด้วยกัน เหมือนคนรักกันปกติ หมายถึงภายนอกที่คนมองเข้ามา เค้าไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
วันสุดท้ายที่เจอเค้าคือที่บ้านเค้าเอง เทศกาลวันหยุดจบลง เค้าขับรถกลับไปทำงาน
กับคำลาสั้นๆ ที่ไม่ได้ยืดเยื้อ
พอแยกย้าย เรากลับมาบ้านเกิด
เค้าก็กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม
มีคุยกัน ส่งรูปลูกให้
จนฟางเส้นสุดท้ายขาด
เค้าขอความช่วยเหลือ เราเร่งทำให้ทุกอย่าง
เพราะเราก็ติดดูแลลูก รีบทำรีบจบ
ในขณะเดียวกัน มีเอกสารสำคัญไปที่บ้านเค้า
เค้าทักมาบอก ไม่กี่สัปดาห์เค้ากลับบ้านไปเอา เก็บเอาไว้ที่ตัวเอง ไม่ส่งมา แล้วบอกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา ต้องเร่งส่งงานปลายปี
จึงต้องพูดว่า ถ้าไม่ส่งมา ก้ไม่ต้องมาถามหาลูกอีก ซึ่งจริงๆไม่ได้เอาเด็กมาอ้าง แต่มันหมดความอดทน
เราได้รับเอกสารหลังจากวันแรกที่รู้ ร่วม 2 เดือนกว่าจะได้เอกสารมา
จากนั้น เราเลิกติดต่อทันที โมโหมากกับคำพูดของเค้าที่บอกว่า เพิ่งจะรู้หรอว่าต้องใช้เอกสาร (จริงๆเราทวงมาตลอดแต่ไม่เคยได้) เค้าก็ไม่ทักมาร่วมเดือน เค้าพยายามติดต่อกลับมา มาถามหาลูกบ้าง มาถามหาข้อมูลใบราคางานจากเราจะเอาไปเสนอลูกค้าบ้าง พยายามส่งลิ้งค์หางานให้เรา จนสัปดาห์ก่อนมาขอไฟล์งานของเรา เอาไปเป็นตัวอย่างให้งานตัวเองบ้าง
จบกันที่วันนี้เลย ที่เราต้องตัดสินใจพูดแรงๆ เราเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ที่ไม่คุย เพราะอยากลืมๆกันไปซักที เพราะยิ่งคุยเรายิ่งไม่ลืมเลย
เคยบอกไปแล้วว่า ถ้าเลือกแล้วก็ไปเถอะ เพราะเราจะไปเหมือนกัน
วันนี้เค้าโทรมาถามเรื่องไฟล์เอกสารว่าทำไมไม่ส่งให้ เราเลยต้องพูดแรงๆใส่ว่า ทำไมไม่ทำเอง รู้ทั้งรู้ว่ามันต้องส่งแล้ว เค้าก็สวยมาว่าไลน์ก็ไม่ตอบโทรก้ไม่รับไม่อยากคุยหรอ ซึ่งเราตอบว่าใช่ ไม่อยากคุย
แล้วเหตุผลที่มาขอไฟล์คืออยากทำงานง่ายๆ เอามาตั้งต้นเป็นไฟล์งานตัวเอง
เราพูดไปคำนึงว่า คิดไม่ได้เลยจริงๆ ทำไมถึงคิดไม่ได้
ไม่รู้เค้าจะเข้าใจมั้ยนะ ความหมายคือ ต่อมห้มีงูก เราไม่ควรติดต่อกัน อีกอย่างนึง เราสองคนจบไม่สวย ภึงแม้ว่ามันจะกลับมาเจอเพื่อเคลียใจกันก็ตาม แล้วเค้ามีคนของเค้าแล้ว เค้าเลือกแล้ว การที่ติดต่อกลับมา ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม อยากให้คิดถึงคนของเค้าบ้าง เพราะเราคิดกลับกันถ้าแฟนตัวเองมาติดต่อแฟนเก่า จะรู้สึกยังไง
ทางคนใหม่เค้าให้คำปรึกษาเรื่องงานกับเค้าไม่ได้ เพราะเด็กกว่า 7-8 ปี ไม่ได้เรียนจบ และไม่เข้าใจสายงานที่เราทำ มีแค่คำปลอบใจว่าสู้ๆนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
จากที่เคยปรึกษาเรา เพราะเราทำงานสายเดียวกัน เราให้คำตอบเค้าได้ เพราะเรารู้ลักษณะงาน เค้าต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้เพราะเค้าเลือกเอง คนใหม่เค้าเคยพูดกับผู้ชายว่า ผู้ชายมีเราเป็นเซฟโซน ซึ่งคนใหม่เองไม่ใช่ ออกแนวน้อยใจ
พอจบบทสนทนาวันนี้ เราบอกว่าไม่อยากคุย น้ำเสียงที่ปลายสายเค้าเศร้าเลย เสียงเศร้าๆ
พูดให้เราฟังว่า จะได้รู้ว่าไม่อยากติดต่อกันอีกแล้ว จากนั้นเราเป็นคนรอให้เค้ากดวางสายเอง กดวางสายจะเป็นเค้ากดซึ่งเราทำมันตั้งแต่คบกันจนเลิกกัน มันติดนิสัยไปซะ จริงๆเราไม่น่ารอให้กดวางอีกเลย เพราะเค้าเคยบอกว่า คนอื่นในชีวิตเค้าเลือกที่จะกดตัดสายก่อน
เราอยากให้สายนี้เป็นสายสุดท้ายที่เค้าโทรมาจริงๆ เค้าอยากมีชีวิตแบบไหนก็ไปใช้ได้เลย เรากับลูกที่เคยคิดว่าจะอยู่ไม่ได้ ตอนนี้อยู่ได้แล้ว มันต้องตัดแล้ว เราโอเคขึ้นมากแล้ว
ลูกก็สบายดี ไม่ต้องห่วงตรงนี้เลย ไปใช้ขีวิตที่อยากใข้ได้เลย
อยากขอโทษจริงๆ สำหรับเรื่องที่พูดแรงๆวันนี้
เค้าเคยบอกว่าไม่ได้ทิ้งลูก แต่พอเราถามว่าแล้วทิ้งเราใช่ไหม เค้าไม่พูด แต่กับลูกตอบได้เต็มปากว่าไม่ทิ้ง
เพราะถ้าเค้าเลือกลูกอย่างเดียว มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะแม่กับลูกมีความผูกพันธ์กันอยู่ เค้าคิดไม่ได้เลย
เหตุการณ์วันนี้ที่ต้องพูดใส่แรงๆ เราเก็บกลับมาคิดว่า เราเหมือนใจร้ายเลย แต่จริงๆเทียบกับสิ่งที่เค้าทำเราไม่ได้ซักนิด