จากบ้านที่แสนสุขกลายเป็นนรกเมื่อคนในบ้านไปค้ำประกัน

สวัสดีค่ะ พ่อของเราไปค้ำประกันให้เพื่อน2คนค่ะ
ธุรกิจของเรามีหลายธุรกิจค่ะรายได้รวมเดือนละ1.5แสนกว่าบาท
แต่เป็นเงินหมุนด้วยนะคะ

1. คนแรกที่พ่อค้ำประกันให้ยอดล้านกว่า 
เค้าหนีหายไป เลยโดนฟ้องและพ่อเราต้องจ่ายแทน
ซึ่งคนจ่ายคือแม่เราค่ะ 
- จ่ายจนหมดแล้ว

คิดว่าคงจะหลุดพ้น อยู่ดีๆมีหมายศาลส่งมาค่ะ
พ่อไปแอบค้ำให้เพื่อนอีกคน

2.คนที่สองที่พ่อค้ำประกันให้ล้านกว่าเหมือนกันค่ะ
แต่คนนี้เค้าไม่มีเงินเลย ล้มละลาย สามีก็ล้มละลาย
เป็นโรคประจำตัวและคิดว่าน่าจะเสียชีวิตเร็วๆนี้

และตอนนี้ทางเจ้าหนี้ก็ได้อายัดที่ดินของเราไปค่ะ
เป็นที่ดินที่เราคิดว่าจะสร้างบ้านหลังใหม่

ทุกวันนี้ตั้งแต่มีหมายศาลก็เครียดมาก
เพราะหนี้ก้อนแรกก็จ่ายไปแล้ว หนี้ก้อนที่2ยังต้องมาจ่ายอีก
ซึ่งเป็นเงินที่เราไม่ได้ใช้

บ้านที่มีรอยยิ้มกลายเป็นหดหู่ ทุกคนเครียดในทุกวัน
เรามีอาชีพที่อยากทำนอกจากธุรกิจที่บ้าน แต่เราไปไม่ได้ค่ะ

ทุกคนในบ้านเริ่มพูดจาหยาบคายใส่กัน
ไม่ได้ไปทานอาหารตามเทศกาลต่างๆ
วันนี้เป็นวันพ่อ แต่ครอบครัวของเราต้องทำงานงกๆ
ไม่สามารถไปไหนได้ 

เรามีความคิดอยากตายเกือบทุกวัน เราได้ที่1 เกีรตินิยมอันดับ1
เรียนดี แต่มองตัวเองตอนนี้มันหดหู่มาก ความฝันเราดับ เราทำอะไรไม่ได้
เราตั้งใจทำทั้งหมดมาเพื่ออะไร 

-- ฝากถึงทุกคนที่ค้ำประกันคนอื่นนะคะ อย่าค้ำให้ใครเด็ดขาด
คุณไม่รู้หรอกว่า ใครบ้างจะมารับกรรมนี้ อาจจะเป็นลูก ภรรยา สามีคุณในอนาคตก็ได้

-- ฝากถึงคนที่หนีหนี้ คุณกำลังทำให้ครอบครัวคนอื่นเดือดร้อน
ทำลายความฝัน ความหวัง ความสุขของคนอื่นอยู่ กู้เองก็จ่ายเองเถอะค่ะ
คนที่เค้าค้ำให้เค้าไม่ได้โง่ เค้าแค่เชื่อใจว่าคุณจะไม่หนี

อยากขอร้องทุกท่าน ช่วยชี้แนะแนวทางให้เราหน่อยค่ะ 
1.เราจะทำยังไงได้บ้างให้เค้าจ่ายหนี้ โดยที่เราไม่จ่าย
2.เรามีความคิดอยากตายบ่อยมาก หรือเราควรจะทำจริงๆ
เราอยู่บ้านแล้วไม่มีความสุขเลย แต่ละคนพูดจาแย่มาก ชอบตะโกนใส่กัน 
เราเครียดค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 58
ขอบคุณทุกท่านมากๆค่ะ
เราได้พูดคุยกับพ่อแม่ถึงทางออกแล้วค่ะ

ผู้ค้ำทุกคนช่วยกันปิดยอดค่ะ
มีเงินสำรองไว้ปิดยอดแล้วค่ะ แต่เค้าไม่ยอมเล่าให้เราฟัง
เราเลยคิดว่าเป็นการทำบุญไปค่ะ

สอบถามพ่อแล้วไม่มีการค้ำประกันใดๆแล้วค่ะ
การค้ำประกันนี้เป็นการค้ำเมื่อ10ปีก่อนค่ะ

เราขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ ที่ช่วยชี้แนะและให้กำลังใจ
ขอบคุณจากใจค่ะ

- ที่ดินผืนนั้นเราอยากเอาไว้สร้างบ้านใหม่ให้ลูกเราในอนาคตค่ะ เราออกเองด้วยส่วนนึงค่ะ

-  สำหรับคนที่ถามว่าจะไปเครียดอะไร มันไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของพ่อแม่เรา สมบัติของเค้า เค้าให้เราเยอะกว่าหนี้2ล้านอีก ?

   ถูกค่ะ เค้าให้เรามากกว่า2ล้านอยู่แล้ว เรารักพวกเค้ามากค่ะ การเห็นเค้าเปลี่ยนไป เครียด ทำให้เราเครียดไปด้วยค่ะ เราเลยอยากหาทางออกค่ะ เพราะเราพึ่งกลับมาจากทำงานตปทมาช่วยงานที่บ้านค่ะ มาถึงก็เจอเรื่องแบบนี้เลย เราเครียดค่ะ

ขอบคุณทุกท่านมากๆจริงๆค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
แยกให้ออก  2 เรื่อง
1. เรื่องพ่อแม่ มีหนี้จะเหตุอะไร มันคือหนี้พ่อแม่ ไม่เกี่ยวกับ จขกท. หนี้ใช้ไม่ไหวมากสุดก็ไม่มีทรัพย์สิน แล้วถูกฟ้องล้มละลาย ผ่านไป 3 ปี ชีวิตก็กลับมาเป็นปกติเริ่มต้นกันใหม่

2. จขกท. เรียนจบแล้ว ได้เกียรตินิยมก็หางาน หาเงินในส่วนของ จขกท. สร้างตัวด้วยลำแข้งตัวเองครับ อย่าไปสนใจเงินพ่อแม่ ผมเองตอนเกิดมาพ่อแม่ยากจนไม่มีอะไรให้ เรียนจบแค่อาชีวะ ยังสู้จนรวยได้ จขกท. ก็สามารถทำได้ครับถ้าพยายาม

เรื่องอยากตายเพราะเป็นหนี้เปลี่ยนความคิดไปได้เลยครับ ไปดูเศรษฐีหลายคนเขาก็เคยเป็นหนี้ท่วมหัวกันมาก่อนทั้งนั้น ไม่ใช้หลักล้าน แต่หลักพันล้านดลยนะ  แต่เขาก็ดิ้นจนกลับมารวยได้ เคส จขกท. มันเล็กน้อยมากนะถ้าคิดเทียบกับเขา

เก็บความผิดพลาดเป็นบทเรียนแล้วเดินหน้าชีวิตต่อไปครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่