การที่เราจะตัดใจจากคนๆแล้วเดินออกมาแบบเข้มแข็งต้องทำยังไง

คือผมคบกันกับแฟนคนนี้มาจะสองปีแล้ว เกริ่นไว้ก่อนนะครับครับเขามีลูกติด1คนที่เขาฝากพี่สาวเขาเลี้ยเพราะเขามีปัญหากับแม่และพ่อ ช่องแรกๆเขาเป็นคนที่นิสัยน่ารักเอาอกเอาใจ ไม่งอนหรืองี่เง่าเลยถึงจะมีบ้างแต่ก็นานๆที  ทางบ้านเขาก็ยินดีที่เราเข้ามาทำให้เขามั่นคงขึ้นมา มีเงินส่งเสียลูกต่างจากแต่ก่อนที่เขาเที่ยวร้านเหล้ารักสนุก การพนัน,เหล้า,สังคมเพื่อนที่ดูก็รู้ว่ามีเเต่ประเภทที่ชักนำไปในทางอบายมุข เราพบกันที่ร้านอาหารที่ผมทำงานอยู่ ช่วงนั้นผมเป็นพ่อครัวอยู่ เขาเป็นคนเข้าหาผมก่อนในตอนนั้นแล้วตกลงคบหาดูใจกัน ช่วงนั้นเหมือนมันดีมาก เวลาผมเลิกงานเราไม่ต้องขอว่าอยากกินอะไรเขารู้ใจเราทุกอย่าง ส่วนผมก็คอยซัพพอร์ตเรื่องกำลังใจ และแบ่งเบาภาระในบ้านช่วย ทำหน้าที่แฟนที่ดีเท่าที่ผมจะทำได้ ทุกอย่างดีไปหมด จนเขาขอให้ผมเลิกสูบบุหรี่และเลิกใช้กัญ*า โดยที่เขามีข้อเสนอที่ว่าเขาจะเลิกเที่ยวและเลิกการพนันให้ ผมก็คิดว่ามันดีต่อชีวิตและต่อลูกของเขาผมก็เลยสัญญากับเขาว่าจะไม่ใช้ของพวกนี้อีก แต่ๆพอมาช่วงหลังๆมานี้ในช่วงหลังครบรอบ7-8เดือน ในความรู้สึกเหมือนเขาจะหมดโปรแล้ว เขาไม่แม้แต่จะเห็นใจเราเลย ทั้งงี่เง่ามากขึ้น ชอบทะเลาะแล้วโมโหคุมสติตัวเองไม่ได้ทำลายข้าวของไม่พอทำร้ายร่างกาย ผมยอมมาตลอดไม่เคยตอบโต้ไม่บอกใครไม่ปรึกษาใครได้เเต่เก็บไว้ และเงินไม่เก็บไม่ส่งให้ลูก ด่าผมสารพัดและยังด่าไม่ให้เกียรติครอบครัวผม อีกทั้งยังแอบเล่นการพนันออนไลน์เพราะจับได้จากสลิปเงิน เขาต้องหาเรื่องมาทะเลาะกับผมทุกวันแม้ว่าเรื่องนั้นมันไม่น่าจะหยิบมาเป็นประเด็นได้ จนมาเมื่อเดือนตุลาเขากับทะเลาะกับผมเรื่องที่ว่าผมพึ่งเลิกงานแต่รู้สึกไม่ไหวแต่เขาก็จะให้ผมไปรับที่ทำงาน คือเขาใช้รถไปทำงานผมต้องเดินไปเกือบกิโลครึ่ง ทั้งที่ผมปวดท้องและอาเจียนบ่อย ปกติเขาเลิกงาน5โมงครึ่ง ผมต้องนั่งรอหน้าออฟฟิศเกือบ2ชั่วโมง อ้วกไปหลายรอบจนลุงยามซื้อยาดมมาให้ แล้วเขาก็เลิกงานผมก็พขับรถกลับเลยเพราะรู้ตัวว่าจะไม่ไหวแล้ว เเล้วถึงหอพักก็มาทะเลาะกันครั้งใหญ่เลยว่าไม่พาไปหาอะไรกิน ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าผมแย่มากก็ไม่ฟังว่าผมสำออยทีนี้ก็ทะเลาะกันใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆเริ่มทำลายข้าวของ แล้วเขาก็คว้าไม้กวาดมาตีผม ผมเหมือนจะอารมณ์ระเบิดจนขาดสติต่อยไปที่หน้าเขาจนโหนกแก้มแตกผมรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไปตอนนั้นมากรีบหาน้ำแข็งมาประคบให้เขา ผมทำอะไรไม่ถูกเลย ผมรีบวิ่งไปซื้อยาที่หน้าหอเพื่อจะมาล้างแผลให้เขากลับมาคือเขาไม่ยอมเปิดประตูให้ คือตอนนั้นผมเข้าใจว่าเขากลัวเพราะผมไม่เคยเป็นแบบนั้น ผมเลยงัดหลังบ้านเข้าไปเพื่อที่จะล้างแผลให้ จังหวะนั้นคือลืมไปเลยว่าตัวเองป่วย วันนัน้คือไม่ได้นอนทั้งสองคน พรุ่งนี้เช้าผมก็พาไปหาหมอไปเอ็กซเรย์สมอง ผลคือแค่ช้ำนิดหน่อยและเป็นแผลเล็กน้อย คือวันนั้นผมโชคดีมากที่ในตอนนั้นมันเป็นมือข้างที่ไม่ถนัด ทุกวันนี้ผมยังเสียใจกับเรื่องนี้แค่นึกถึงผมก็แทบจะร้องไห้ออกมาเลยว่าผมมันเลวที่ทำร้ายผู้หญิง นี่ถึงเป็นหนึ่งอย่างที่ทำให้ครอบครัวเขาไม่ชอบผมจากที่ชอบผมมากกลายเป็นเกลียดมาก ผมพยายามอธิบายให้เขาฟังแล้วว่าผมใช้อารมณ์ชั่ววูบไม่มีใครเข้าใจ มีเพียงพี่เขยของเขาที่เข้าใจว่าเรามีความกดดันและปัญหาที่สะสมมาโดยที่ไม่เคยระบายให้ใครฟัง ทุกวันนี้ผมจึงต้องระวังเรื่องอารมณ์มากๆ  จนมาล่าสุดเขาออกจากงานเพราะความที่เป็นคนคิดลบไม่สร้างมิตรไม่เข้ากับใครพอมีปัญหาก็ไม่มีใครช่วยเขาเลยออก และไปหาลูกที่ต่างจังหวัดผมอยู่หอคนเดียวเพราะผมต้องทำงาน อยู่เขาโทรมาถามว่าหยุดวันไหน ผมก็บอกไปตามตรงว่า29-31วันที่หนึ่งมกราทำงาน
นี่คือประเด็นทะเลาะว่าผมไม่มีเวลาให้เขากับลูก จะให้ผมออกจากงาน ทั้งๆที่ผมอยู่ในช่วงโปรกำลังจะประเป็นพนักงานประจำ แต่เขาจะให้ออกเพราะอยากให้มีเวลาให้ ด้วยความคิดผมก็อธิบายไปว่า ''เธอต้องหางานใหม่ให้ได้ก่อนมั้ย เดี๋ยวเค้าจะออกให้เพราะถ้าออกมันจะกลายเป็นตกงานสองคน อย่าลืมนะว่าเรามีภาระ มีลูกและมีรถ''และหลังจากนี้ก็ทะเลาะกันหนักมาก จนเขาได้โทรไปบอกให้เจ้าของหอมาไล่ผมออก เพราะในสัญญาเช่ามีแค่ชื่อเขาเป็นคนเช่า อีกอย่างรถที่ผ่อนอยู่ก็ของเขา ตอนนี้ผมก็เคว้งอยู่ข้างนอกไม่มีที่อยู่ เงินติดตัวก็ไม่มีสักบาท ตั้งแต่เขาไปหาลูกเมื่อวันที่1เขาให้ผมไว้แค่140ผมใช้ถึงเมื่อกลางวันนี้ก็หมดแล้ว ขออีกก็ไม่ให้ เจ้าของห้องไล่ผมออกมาตอนนี้ได้แต่หวังว่าผมอยู่ให้ถึงวันที่10เพราะเงินออก จะได้หาห้องอยู่ สภาพตอนนี้ทั้งตัวมีแค่กระเป๋าหนึ่งในใส่ชุดทำงานและรองเท้าเซฟตี้ เรื่องนี้ผมต้องผ่านมันไปให้ได้โดยที่ไม่บอกทางบ้านเพราะพ่อผมเข้าโรงพยาบาลถ้าแกรับรู้คงจะทรุดหนัก ติดที่ว่าตอนนี้ผมใจไม่แข็งพอที่จะยอมรับว่ามันจบทั้งที่ยังรักมาก ผมต้องทำยังไงให้ใจมันแข็งพอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่