เราประสบปัญหาครอบครัวหนักมาก ย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อวันที่ 5 พ.ย 67 เราเริ่มมีปากเสียงกับแม่ เรื่องที่เราตกงานแล้วไม่ยอมไปหางานทำตามแม่บอกทันทีทันใด แถมเอาเจ้าของบ้านมารุมด่าสารพัด มาไล่เราออกจากบ้านด้วย พ่อก็เข้าข้างแม่ แม่มักข่มขู่โดยเอาเจ้าของบ้านมาอ้างตลอด
จนถึงวันที่ 14 พ.ย 67 เราทนแรงกดดันไม่ไหวจนต้องหนีออกมาอยู่อพาร์ทเม้นท์คนเดียวกะทันหันพร้อมเงินติดตัวเล็กน้อย โชคดีอย่างนึงตรงนั้นสงบปลอดภัยบ้าง ทีนี้ครอบครัวก็โทรตามเรา กดดันหนักมากเรื่องงาน เราตัดสินใจตัดการติดต่อไปพักนึง ระหว่างนั้นเรากินประหยัดสุดๆ มีอดมื้อกินมื้อด้วย เราเริ่มออกหางานทำเกี่ยวกับงานออฟฟิศแต่ดันสัมภาษณ์ไม่ผ่านอีก ทีนี้เราคิดหนักเลยว่าจะเอาอย่างไรดีกับเงินน้อยนิด เพราะบอกพ่อแม่ไปก็คงไม่ช่วยอะไรเพียงเพราะไม่ทำตามสั่ง เราตัดสินใจทำงานออนไลน์พลางๆ ไปก่อน ไม่ได้เงินทันทีถึงอย่างนั้นก็ขอให้ได้ทำ หลังจากนั้นช่วงปลายเดือน พ.ย เราเริ่มคุยกับพ่อแม่อีกครั้ง
วันที่ 28 พ.ย 67 แม่ไปรับเราออกมาจากหอกะทันหัน บอกว่าจะให้ไปอยู่ที่ใหม่ ตรงนี้มันแพง ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมาก แม่คงเข้าใจสิ่งที่เราอยากทำ
เมื่อลูกไม่มีทางเลือก ลูกควรทำอย่างไร? 1
จนถึงวันที่ 14 พ.ย 67 เราทนแรงกดดันไม่ไหวจนต้องหนีออกมาอยู่อพาร์ทเม้นท์คนเดียวกะทันหันพร้อมเงินติดตัวเล็กน้อย โชคดีอย่างนึงตรงนั้นสงบปลอดภัยบ้าง ทีนี้ครอบครัวก็โทรตามเรา กดดันหนักมากเรื่องงาน เราตัดสินใจตัดการติดต่อไปพักนึง ระหว่างนั้นเรากินประหยัดสุดๆ มีอดมื้อกินมื้อด้วย เราเริ่มออกหางานทำเกี่ยวกับงานออฟฟิศแต่ดันสัมภาษณ์ไม่ผ่านอีก ทีนี้เราคิดหนักเลยว่าจะเอาอย่างไรดีกับเงินน้อยนิด เพราะบอกพ่อแม่ไปก็คงไม่ช่วยอะไรเพียงเพราะไม่ทำตามสั่ง เราตัดสินใจทำงานออนไลน์พลางๆ ไปก่อน ไม่ได้เงินทันทีถึงอย่างนั้นก็ขอให้ได้ทำ หลังจากนั้นช่วงปลายเดือน พ.ย เราเริ่มคุยกับพ่อแม่อีกครั้ง
วันที่ 28 พ.ย 67 แม่ไปรับเราออกมาจากหอกะทันหัน บอกว่าจะให้ไปอยู่ที่ใหม่ ตรงนี้มันแพง ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรมาก แม่คงเข้าใจสิ่งที่เราอยากทำ