ล่าสุด รอบ สัปดาห์ วันที่ 28/11 - 4/12
สาขา ไอคอน ซีเนคอนิค
ให้รอบฉาย
- The Colors Within
- The Lord of The Ring
ถึงแควันสาร์ 29/11 ( 3 วัน ) จากนั้น หั่นรอบทิ้ง
แต่สาขาอื่น บางสาขา ก็เป็นเหมือนกัน
พอเข้าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะหั่นหนังที่ ตั๋วออกน้อย ทิ้งทันที่
จากแต่ก่อน คนดู จะมีเวลา 7 วัน ในการดูหนังในโรง
แต่ตอนนี้ มีเวลาแค่ 2-3 วัน
ถ้าเป็นคนทำงานที่ บริษัทให้วันหยุด วันอาทิตย์วันเดียว คือ ไม่มีโอกาสดู
ค่ายหนัง ที่ซื้อหนังเข้ามา จากเดิมมีเวลาขายได้แค่ 7 วัน ก็แทบไม่มีกำไรแล้ว
ตอนนี้ โรง ให้เวลาขายหนัง แค่ 2-3 วัน จะเอาอะไรมาเป็นกำไรได้
ค่ายหนังถ้าไม่ได้กำไร อีกหน่อยก็จะไม่มีการนำเข้าหนังมาเป็นทางเลือก
สุดท้าย ผู้บริโภค คนดูหนัง ก็จะเจอแต่หนัง Blokbuster เท่านั้น
หนังที่ไม่ใช่ Blokbuster จะทำเงินให้ไม่มาก
ให้ รอบ 1 รอบ ต่อวัน ก็ยังดีกว่า หั่นทิ้ง ตัดสิทธิ ไม่ให้รอบ ไม่ให้โรง แบบที่ ปัจจุบันเป็นอยู่ตอนนี้
model การขายของ Major สำหรับ หนังนอกกระแส หนังฟอร์มเล็ก
Major จะไม่ลง หนังฟอร์มเล็ก ในทุกสาขา
แต่จะเลือก สาขา ซึ่งจำกัดไม่กี่สาขา ไม่กี่จังหวัด
ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร Major จะเลือกสาขาที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ในแต่ละ ช่วงเขตพื้นที่
Major : Rajchayothin , Paragon Cineplex , Icon Cineconic เป็นต้น
แต่เดิมเมื่อ Major ลงการฉายให้สาขาดังกล่าว จะคงสภานะรอบฉาย ของหนังฟอร์มเล็ก อย่างน้อย 7 วัน
แต่ ปัจจุบัน พบ บางสาขา ที่เคยถูก Major เลือกให้เป็นสาขาฉายหนังฟอร์มเล็ก ถอดหนังออกหลังจากผ่านไป 2 วัน
การแจ้ง ผลกำไรล่าสุด ของ Major ใน ไตรมาส 3/2567
" สำหรับไตรมาส 3/2567 งบการเงินรวมงวด 3 เดือน บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 1,660 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 50 ล้านบาท
ไม่รวมรายการพิเศษกำไรภาษีจากการขายเงินลงทุนในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 91 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/2566 บริษัทจะมีกำไรมากกว่าไตรมาส 3/2566 คิดเป็นร้อยละ 276
และมีสัดส่วนกำไรต่อรายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 3 "
จากผลกำไร Major ยังมี ศักยภาพพอ ที่จะฉายหนังฟอร์มเล็กได้
รายได้จาก Popcorn อาหาร เครื่องดืม ที่ขายในราคาสูงกว่าปกติ
ซึ่งเคยมีประเต็นจนผู้บริโภคร้องเรียนออกสื่อ เคยมีหน่วยงานราชการตรวจสอบ แต่เรื่องก็ถูกกลบให้เงียบหายไป
รายได้จาก อาหาร เครื่องดื่ม เกินราคา ที่ Major เลี่ยงการเปิดเผย เป็นสัดส่วนกำไรมากล้นพอ ที่จะคง model การขาย ลงฉายหนังแบบเดิมได้
ถ้าหาก Major มีวิศัยทัศน์ ที่จริงใจกับ คนดูหนังจริง
Major ให้เวลาหนังใหม่ที่เข้าสัปดาห์แรก 2-3 วัน ถ้าเรื่องไหนตั๋วออกน้อย จะหั่นรอบทิ้ง ไม่ให้รอบ ไม่ให้โรง โหดไปไหม ?
สาขา ไอคอน ซีเนคอนิค
ให้รอบฉาย
- The Colors Within
- The Lord of The Ring
ถึงแควันสาร์ 29/11 ( 3 วัน ) จากนั้น หั่นรอบทิ้ง
แต่สาขาอื่น บางสาขา ก็เป็นเหมือนกัน
พอเข้าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะหั่นหนังที่ ตั๋วออกน้อย ทิ้งทันที่
จากแต่ก่อน คนดู จะมีเวลา 7 วัน ในการดูหนังในโรง
แต่ตอนนี้ มีเวลาแค่ 2-3 วัน
ถ้าเป็นคนทำงานที่ บริษัทให้วันหยุด วันอาทิตย์วันเดียว คือ ไม่มีโอกาสดู
ค่ายหนัง ที่ซื้อหนังเข้ามา จากเดิมมีเวลาขายได้แค่ 7 วัน ก็แทบไม่มีกำไรแล้ว
ตอนนี้ โรง ให้เวลาขายหนัง แค่ 2-3 วัน จะเอาอะไรมาเป็นกำไรได้
ค่ายหนังถ้าไม่ได้กำไร อีกหน่อยก็จะไม่มีการนำเข้าหนังมาเป็นทางเลือก
สุดท้าย ผู้บริโภค คนดูหนัง ก็จะเจอแต่หนัง Blokbuster เท่านั้น
หนังที่ไม่ใช่ Blokbuster จะทำเงินให้ไม่มาก
ให้ รอบ 1 รอบ ต่อวัน ก็ยังดีกว่า หั่นทิ้ง ตัดสิทธิ ไม่ให้รอบ ไม่ให้โรง แบบที่ ปัจจุบันเป็นอยู่ตอนนี้
model การขายของ Major สำหรับ หนังนอกกระแส หนังฟอร์มเล็ก
Major จะไม่ลง หนังฟอร์มเล็ก ในทุกสาขา
แต่จะเลือก สาขา ซึ่งจำกัดไม่กี่สาขา ไม่กี่จังหวัด
ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร Major จะเลือกสาขาที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ ในแต่ละ ช่วงเขตพื้นที่
Major : Rajchayothin , Paragon Cineplex , Icon Cineconic เป็นต้น
แต่เดิมเมื่อ Major ลงการฉายให้สาขาดังกล่าว จะคงสภานะรอบฉาย ของหนังฟอร์มเล็ก อย่างน้อย 7 วัน
แต่ ปัจจุบัน พบ บางสาขา ที่เคยถูก Major เลือกให้เป็นสาขาฉายหนังฟอร์มเล็ก ถอดหนังออกหลังจากผ่านไป 2 วัน
การแจ้ง ผลกำไรล่าสุด ของ Major ใน ไตรมาส 3/2567
" สำหรับไตรมาส 3/2567 งบการเงินรวมงวด 3 เดือน บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 1,660 ล้านบาท มีกำไรสุทธิเท่ากับ 50 ล้านบาท
ไม่รวมรายการพิเศษกำไรภาษีจากการขายเงินลงทุนในบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 91 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/2566 บริษัทจะมีกำไรมากกว่าไตรมาส 3/2566 คิดเป็นร้อยละ 276
และมีสัดส่วนกำไรต่อรายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 3 "
จากผลกำไร Major ยังมี ศักยภาพพอ ที่จะฉายหนังฟอร์มเล็กได้
รายได้จาก Popcorn อาหาร เครื่องดืม ที่ขายในราคาสูงกว่าปกติ
ซึ่งเคยมีประเต็นจนผู้บริโภคร้องเรียนออกสื่อ เคยมีหน่วยงานราชการตรวจสอบ แต่เรื่องก็ถูกกลบให้เงียบหายไป
รายได้จาก อาหาร เครื่องดื่ม เกินราคา ที่ Major เลี่ยงการเปิดเผย เป็นสัดส่วนกำไรมากล้นพอ ที่จะคง model การขาย ลงฉายหนังแบบเดิมได้
ถ้าหาก Major มีวิศัยทัศน์ ที่จริงใจกับ คนดูหนังจริง