สวัสดีค่ะ วันนี้ มาทำแกงป่าเนื้อ
ที่อยากกินมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มี
เวลาได้ทำกับข้าวกินเองเลย
เมื่อเปลี่ยนการใช้ชีวิต อะไรๆก็
เปลี่ยนไป แม้กระทั่งอาหารการกิน
แกงเสร็จปุ๊บ ตักกินปั๊บ รสชาติจัดจ้าน
เผ็ดร้อน ถึงใจมาก
ทำกับข้าวกินรวบ มื้อเช้าและมื้อกลางวัน
ในมื้อเดียว ตอน 11 โมง ก็เตรียมทำของ
ไปขายต่อ
ขอเล่าเรื่อง วิถีชีวิตแม่ค้าขายหมี่แห้ง...
กระเทียมเจียว แยกจากน้ำมันขึ้นมา
แล้วค่อยไปผสมตอนจะใช้คลุกหมี่
จะได้ความหอมมากกว่า
ไก่แดง หั่นใส่ถาดพร้อมหยิบขาย
ตลาดแห่งนี้ จะขายดีมากในวันจันทร์
เพราะตลาดนัดในวัดใกล้ๆ เขาไม่มี
ใน 1 สัปดาห์ แม่ค้าทุกคนจะตั้งตารอ
ทำของกันเต็มที่ พร้อมขาย
หนังไก่ ที่เราแยกออกมาจาก ไก่แดง
ก็เอามาเจียว ใส่ถุงเล็กๆ เอาไว้แถม
ให้กับลูกค้าขาประจำ
เราเริ่มขายหมี่แห้งมา เป็นระยะเวลา
2 เดือนแล้ว ก็มีขาประจำน่าจะเป็น
10 คน ได้แล้ว เราสังเกตุได้ว่า
ลูกค้าเรา คือ คนที่ชอบกินบะหมี่แห้ง
ปกติ เขาไปกินตามร้านบะหมี่ คือ...
ไม่มีรสชาติอะไร และราคาเริ่มต้นคือ
40 บาท ได้หมูแดง และผักกวางตุ้ง
คล้ายๆกับที่เราทำ ต่างกันที่เราใช้
เนื้อไก่ แทน เนื้อหมู
ตั้งแต่ขายมา เจอลูกค้าที่ไม่กิน ไก่
3 คน เขาจะถามว่า นี่หมู หรือไก่
เราก็แจ้งไปว่า ไก่ค่ะ ถ้าไม่กินไก่
ก็ไม่เป็นไรนะคะ...😊😊
ไปตั้งร้าน บ่าย 2 โมงครึ่ง พร้อมขาย
บ่าย 3 บางวัน ลูกค้า ยืนรอ ลวกเส้น
ชุดแรกก็มี แต่บางที นั่งจนบ่าย 4 โมง
ยังไม่มีใครประเดิม ก็บ่อย🤣🤣🤣
เราจะขายดีช่วงคนเลิกงาน คือ
ประมาณ 5 โมง ถึง 6 โมงครึ่ง
หลังจากนั้น คือ นิ่ง เลย...
นี่ภาพ วันที่ไฟดับ ช่วง 6 โมงพอดี
ถึงกับต้องจุดเทียนขายกันเลย
คนกำลังมา แล้ว ก็หันหลังกลับ
ไปเลย แม่ค้าในตลาดก็ เลิ่กลั่ก
กำลังจะขายได้ เอางัยต่อ จะเก็บ
กลับบ้านตามลูกค้า ของก็ยังเหลือ
จะนั่งต่อ ก็ ตบยุง กันแหล่ะ
แต่วันนั้น ถือว่าเรายังโชคดี คือมีลูกค้า
2 คน ซื้อ คนละ 2 ห่อ เรางี้ โปะๆ แถมๆ
แบบไม่ยั้งมือ
( ซึ่งจริงๆ น่าจะหยิบได้ถึง 6 ห่อ )
แต่ด้วยความ อยากกลับบ้านแล้ว
ขายได้ก็ดีใจจะแย่....
ภาพวันที่ขายหมดเกลี้ยง
เราจะล้างหม้อ ล้างถาด แล้วเก็บไว้
ใต้โต๊ะ ให้เรียบร้อย
ภาพตอนที่เราตั้งร้านขาย เราจะถอดรองเท้า
ยืนบนเสื่อน้ำมัน รู้สึกว่า มันสะอาดดี
และภาพตอนเก็บร้าน
และเมื่อเราขายหมด ก็เก็บล้างอุปกรณ์
ครึ่ง ชม.และนำมาเช็ดให้แห้ง อีก ครึ่ง ชม.
เช็ดโต๊ะ เก็บผ้าปูพื้น ใช้เวลา 1 ชม.
กว่าจะได้กลับบ้าน บางวันขายดีมาก
หมดตั้งแต่ 5 โมงครึ่ง
(ทำของน้อย)
บางวันอืดๆหน่อย หมด ทุ่มครึ่ง
เราก็กลับบ้านช้ากว่าร้านอื่นอยู่ดี
รายได้...เราติดนิสัย ทำบัญชี
ก็เลยทำต้นทุน และผลกำไรในแต่ละวัน
วันที่แย่ นิ่งสุดๆ ได้กำไร 47 บาท
วันที่ขายดี ทำของน้อย แล้วขายหมด
ได้กำไร 300+
วันที่ขายดีมากๆ คือวันจันทร์ ทำของ
ไปเต็มที่ ได้กำไร 500+
ณ วันนี้ เราพอใจ ในยอดขายที่ได้
ทำเท่าที่จะทำไหว คนเป็นแม่ค้า
แทบทุกคนอยากขายหมด ได้กำไรเยอะๆ
กันทุกคน แต่การค้าขาย เศรษฐกิจ
แบบนี้ ได้แค่พอเลี้ยงครอบครัว
ใช้จ่ายประหยัดๆหน่อย ก็พออยู่ได้
ไม่คาดหวัง จะไม่ผิดหวัง
คำนี้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์จริงๆ
ไม่อย่างนั้น เราจะท้อ...เมื่อต้องเก็บ
ของที่ขายไม่หมด หอบกลับบ้าน
มันจะเสียดายของ เสียใจ การทำใจ
เอาไว้ตั้งแต่ต้น คือการสร้าง
กำลังใจ และแรงผลักดันให้ตัวเอง
ได้ต่อสู้ในการทำมาหากิน ในทุกๆวัน
แต่.....สิ่งที่ได้แถมมากับการขายของ
โดยที่ไม่ตั้งใจ และไม่คาดคิดคือ...
อาการบาดเจ็บทางร่างกาย...
ขายได้ 15 วัน ปลายนิ้วมีอาการ ชา
ซื้อยากิน หาหมอ กินวิตามินบำรุง
ปลายประสาท แช่น้ำอุ่น นวดแขน
ให้เลือดไปหล่อเลี้ยงฝ่ามือ ลดพังผืด
สารพัด ที่จะค้นคว้า รักษาตนเอง
เดือนครึ่งแล้ว ยัง ชา เหมือนเดิม
แต่....ไม่ถอยค่ะ ชีวิตยังต้องต่อสู้
ดิ้นรนทำมาหากินต่อไป แม้ในใจจะ
คิดระแวง ว่าสาเหตุ อาจมาจาก กระดูก
เสื่อมเลยไปกดทับเส้น แต่ก็ไม่อาจ
หยุดยั้งเราได้ค่ะ
ทิ้งภาพ วุ้น สวยๆที่เราทำไปถวายพระ
ในวัน ทำบุญตลาดที่เราขายของ
เอาไว้ว่างๆจะมาตั้งกระทู้ เล่าสู่
เรื่องราวต่างๆในชีวิตแม่ค้า
ให้หลายๆท่านได้อ่านอีกนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
แกงป่าเนื้อ เผ็ดร้อนถึงใจ แกงกินเองในรอบ 1 เดือน...มาเล่าสู่วิถีชีวิตแม่ค้าขายหมี่แห้ง