Billboard : BTS ทลายกำแพงสุดท้ายที่เคยขวางกั้นศิลปิน K-pop มานาน และก้าวขึ้นมาเป็นวงป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกา

BTS

Billboard’s Greatest Pop Star of 2020
Billboard’s No. 19 Greatest Pop Stars of the 21st Century 

"BTS ทลายกำแพงสุดท้ายที่เคยขวางกั้นศิลปิน K-pop มานาน และก้าวขึ้นมาเป็นวงป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกา"

ในปี 2020 ทีมงาน Billboard ได้อัปเดตรายชื่อโปรเจ็กต์ที่เปิดตัวในปี 2018 ซึ่งได้ทำการเลือก 'Greatest Pop Star' สำหรับศิลปินป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแต่ละปีย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 1981

บทความนี้เขียนว่าเพราะอะไร BTS ถึงเป็น Greatest Pop Star ของปี 2020 ของ Billboard

    ชาวอเมริกันมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการปฏิเสธต่อสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นระบบเมตริก ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า และแน่นอนว่า K-pop ด้วย จนกระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกที่เต็มไปด้วยสีสันของเพลงป๊อปเกาหลีถือเป็นแนวเพลงที่อยู่ชายขอบของกระแสเพลงป๊อปอเมริกัน

โดยมีจุดเด่นเป็นเพลงฮิตไวรัลที่โดดเด่น เช่น “Gangnam Style” ของ PSY และกลุ่มศิลปินอย่าง 2NE1 และ Girls’ Generation ซึ่งเคยปรากฏในลำดับท้าย ๆ ของชาร์ต Billboard

แต่หลังจากการทัวร์ที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติเป็นเวลาครึ่งทศวรรษ อัลบั้มอันดับ #1 ถึง 3 ชุดในชาร์ต Billboard 200 และการสะสมแฟนคลับ ARMY อย่างต่อเนื่องจากทั่วโลก

RM, Jin, SUGA, j-hope, Jimin, V และ Jung Kook — หรือที่รู้จักกันในนามบอยแบนด์ระดับโลก BTS ได้เปิดทางให้แนวเพลงนี้บุกเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ อย่างแท้จริง และกลายเป็นศิลปินป๊อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 2020 (Billbaord Greatest Pop Stars of 2020)

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 BTS ได้ปล่อย studio album ชุดที่ 4 MAP OF THE SOUL : 7 โดยมีเพลงเปิดตัวสุดเร้าใจอย่าง “On” อัลบั้มนี้ทำให้พวกเขาคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 เป็นครั้งที่ 4 โดยนักวิจารณ์ชื่นชมความหลากหลายทางดนตรีและความเป็นผู้ใหญ่ในฐานะนักแต่งเพลงของพวกเขา แม้จะได้รับเสียงชื่นชมและการเปิดตัวบนชาร์ตที่แข็งแกร่ง วงยังคงไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักจากสถานีวิทยุในสหรัฐฯ

เพื่อเข้าถึงผู้ฟังในสหรัฐฯมากขึ้น เพลงนี้จึงมาพร้อมกับวิดีโอที่สวยงาม 3 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่น remix ที่มีศิลปินป๊อปภาษาอังกฤษอย่าง Sia ร่วมร้อง และการปรากฏตัวในรายการทีวียามดึกที่โด่งดังหลายรายการ “On” ได้กลายเป็นเพลงแรกของ BTS ที่ติด Top 5 ในชาร์ต Billboard HOT 100 โดยเปิดตัวที่อันดับ #4

ด้วยตารางทัวร์คอนเสิร์ตในสนามกีฬาระดับนานาชาติที่จะเริ่มในเดือนเมษายน BTS กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะครองตลาดสหรัฐฯ อย่างเต็มตัว

แต่ในเดือนมีนาคม การระบาดของ COVID-19 ได้ทำลายความหวังในการแสดงสดของ BTS และศิลปินที่ออกทัวร์คนอื่น ๆ ลง ขณะที่ศิลปินหลายรายพยายามปรับตัวอย่างเร่งด่วน ทุกการเคลื่อนไหวของ BTS ในช่วงเดือนต่อมาถูกวางแผนอย่างแม่นยำ โดยได้รับทั้งผลประโยชน์ทางการเงินและวัฒนธรรมในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และทั่วโลก 

ด้วยการสนับสนุนจากฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่น BTS หันมาครองพื้นที่ไลฟ์สตรีมและกิจกรรมออนไลน์แทน

พวกเขาจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริง 'BANG BANG CON' ในเดือนมิถุนายน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยทำรายได้ถึง 19 ล้านดอลลาร์ และยังกล่าวสุนทรพจน์แสดงความยินดีอย่างจริงใจ (ทั้งภาษาอังกฤษและเกาหลี) ในงาน Dear Class of 2020 ของ YouTube ซึ่งเป็นกิจกรรมเสมือนจริงสำหรับนักเรียนที่จบการศึกษาในช่วงโรคระบาด COVID-19

ในขณะที่ศิลปินระดับ A-list มักเลือกปรากฏตัวในงานต่าง ๆ อย่างจำกัด แต่ BTS กลับเพิ่มการแสดงมากขึ้น พวกเขาปรากฏตัวในงาน Billboard Music Awards, MTV Video Music Awards และยังจัดการแสดงแบบใกล้ชิดในรายการ Tiny Desk ของ NPR ทำให้พวกเขายังคงรักษาการปรากฏตัวและความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียได้ตลอดทั้งปี

นอกเหนือจากตัวเลขความสำเร็จแล้ว BTS ยังสะท้อนจิตสำนึกทางสังคมในบทเพลงผ่านการลงมือทำจริง โดยตอบสนองต่อกระแสเรียกร้องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติในอเมริกา ในเดือนมิถุนายน หลังจากการประท้วงทั่วประเทศเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ George Floyd BTS ได้บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับขบวนการ Black Lives Matter

เมื่อถูกถามถึงการตัดสินใจนี้ Jin ได้เล่าว่า “เวลาเราอยู่ต่างประเทศหรือในสถานการณ์อื่น ๆ เราเองก็เคยเผชิญกับอคติ” (ความนิยมของ BTS ในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะมีการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจของการเลือกปฏิบัติและอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชีย-อเมริกันในปี 2020 ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากวาทกรรมเกี่ยวกับ COVID-19)

เมื่อเดือนสิงหาคมมาถึง สมาชิกทั้ง 7 คนยังคงมีทีเด็ดซ่อนอยู่ในแขนเสื้อสีพาสเทลของพวกเขา แม้จะมีความสำเร็จมากมาย แต่ BTS ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก American pop radio จนกระทั่งพวกเขาออกซิงเกิลภาษาอังกฤษเพลงแรกในชีวิต “Dynamite” เพลงป๊อปจังหวะเร้าใจที่สร้างแรงระเบิดในกระแสหลักของวงการเพลงสหรัฐฯ

การปล่อย “Dynamite” กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญของ BTS ในตลาดเพลงอเมริกัน เพลงนี้ทะยานเข้าสู่คลื่นวิทยุ รายการประกาศรางวัล เทรนด์ TikTok และคว้าอันดับ #1 บนชาร์ต Billboard HOT 100

นอกจากนี้ เพลงยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GRAMMY ในสาขา Best op duo/group performance — ซึ่งถือเป็นการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GRAMMY ครั้งแรกสำหรับศิลปินเคป๊อป ซึ่งเป็นความสำเร็จที่วงปรารถนามานาน

ภายในเดือนตุลาคม ต้นสังกัดของพวกเขา Big Hit Entertainment ก็เตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ โดยสามารถระดมทุนได้เทียบเท่ากับ 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งทำให้ บังชีฮยอก ผู้ก่อตั้งและประธานร่วมของบริษัทกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังจากเพลงแรกของวงที่ขึ้นอันดับ 1 BTS ก็สามารถทำได้อีกสองครั้งบนชาร์ต Billboard HOT 100 เพื่อปิดท้ายปี

ในเดือนตุลาคม 2020 BTS คว้าอันดับ 1 ครั้งที่สองด้วยการร่วมปรากฏตัวในเวอร์ชันรีมิกซ์ของเพลง “Savage Love” ของ Jawsh 685 และ Jason Derulo ซึ่งช่วยให้เพลงนี้พุ่งจากอันดับ 8 ขึ้นสู่อันดับ 1 หลังจากปล่อยเวอร์ชันใหม่ได้เพียงสัปดาห์เดียว

จากนั้น เพื่อปิดท้ายปี 2020 ที่ยิ่งใหญ่ BTS ได้ปล่อยอัลบั้ม "BE" ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับซิงเกิลที่มีเนื้อหาเข้ากับสถานการณ์กักตัวในช่วงโควิดอย่าง “Life Goes On” ทั้งอัลบั้มและซิงเกิลเปิดตัวพร้อมกันที่อันดับ 1 บน Billboard 200 และ Billboard HOT 100 ตามลำดับ

ที่น่าประทับใจคือ “Life Goes On” กลายเป็นเพลงที่ร้องเป็นภาษาเกาหลีเพลงแรกที่ขึ้นอันดับ 1 ในประวัติศาสตร์ 62 ปีของ Billboard HOT 100 (ทำลายสถิติอันดับ 2 ของเพลง “Gangnam Style” ของ PSY ในปี 2012)

มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ BTS ได้กลายเป็นศิลปินเอเชียรายแรกที่ปรากฏอยู่ในรายชื่อนี้ ร่วมกับซเปอร์สตาร์ที่พูดภาษาอังกฤษได้อย่างไม่ต้องสงสัยในความยิ่งใหญ่ของพวกเขา

แม้ว่าผลงานที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษมักจะถูกจัดอยู่ในหมวด "ต่างประเทศ" แต่การได้รับการยอมรับในระดับนี้จากสื่อตะวันตกสำหรับวงที่ส่วนใหญ่ร้องเพลงเป็นภาษาเกาหลี— โดยตัววงยังได้รับการยกย่องให้เป็น Entertainer of the Year ประจำปี 2020 โดย TIME — รู้สึกเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลประตูของเพลง Top 40 ในอเมริกา

*(วลี "changing of the guard" เป็นสำนวนที่หมายถึงการเปลี่ยนแปลงผู้นำหรือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ในบริบทนี้ หมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเพลงอเมริกัน โดยเฉพาะเพลง Top 40 ซึ่งเดิมทีถูกครอบครองโดยศิลปินภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ แต่การที่ BTS ซึ่งเป็นวงที่ร้องเพลงส่วนใหญ่เป็นภาษาเกาหลี ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ แสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานหรือแนวคิดในวงการเพลงอเมริกันที่เปิดกว้างต่อศิลปินจากวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างมากขึ้น)

ด้วยเหตุการณ์สำคัญแต่ละครั้งและอันดับ 1 ครั้งแรกในปี 2020 BTS ทำให้ผู้ฟังชาวอเมริกันยากที่จะปฏิเสธไม่เพียงแค่ความเป็นซูเปอร์สตาร์สูงสุดของวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตำแหน่งที่สมควรได้รับของ K-pop ในวงการเพลงกระแสหลักด้วย และเมื่อเรามาถึงจุดที่เริ่มเปิดใจฟังเพลงเหล่านี้แล้ว มันน่าเสียดายที่ต้องนึกถึงเพลงป๊อปคลาสสิกที่เราอาจพลาดไปเพียงเพราะกำแพงด้านภาษาเคยขวางกั้นเราไว้



Source: Billboard


BTS : "ป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี 2020" (Greatest Pop Star of 2020) โดย Billboard

BTS : "ป๊อปสตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอันดับ 19 แห่งศตวรรษที่ 21 (The 19th “Greatest Pop Star” of the 21st century) โดย Billboard
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่