[CR] ค่ายเเบกความสุขไปให้น้อง แม่นิลคี จังหวัดตาก

          แรงแรงกระเพิ่อมของก้อนหินที่ร่อนไปบนผิวน้ำทำให้เกิดจังหวะ 1 2 3 4 จะไกลมากน้อยแค่ไหนมันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ของการปาของคนคนนั้น เช่น ประสบการณ์ ความฟลุ๊ค หรืออื่น ๆ ความสุขที่เราแบ่งปันก็คงเช่นเดียวกับก้อนหินที่ปล่อยออกจากมือไปเช่นกัน มันน่าจะสามารถส่งต่อไปได้ไกลตราบเท่าที่แรงของก้อนหินนั้นจะเคลือนที่ออกไปในมุมที่เหมาะสม เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คงสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่จะเขียน...คำตอบคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1 : )  บทที่ 1 

          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ โรงเรียนที่อยู่บนเขาแห่งหนึ่ง ห่างไกลออกไปจากเมืองหลวง กว่าเจ็ดร้อยกว่ากิโลเมตร สถานที่ เพลง "โรงเรียนของหนู" ของพี่ปูพงษ์สิทธิ์น่าจะอธิบายอะไรได้ดี สถานที่ ๆ รถธรรมดาไม่อาจขึ้นไปได้สะดวกนัก และเป็นสถานที่ ๆ ทำให้เราได้อีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่บันทึกไว้ในความทรงจำ เมื่อย้อนนึกถึงวันวาน ก็มานั่งเขียนถึงเรื่องราวในวันก่อน บางคนอาจบอกว่านี่เป็นลักษณะของคนแก่ที่ชอบพูดถึงแต่เรื่องอดีต แต่อันที่จริงคนเราก็แก่ขึ้นเสมอนะ อันนี้น่าเป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ว่าเราแก่กว่าเมื่อวาน

2 : )  เพื่อนใหม่

         ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 หรือพ.ศ. 2560  เราเดินทางไปรวมกันที่ปั๊มแห่งหนึ่ง ที่มีสมาชิกกว่า 10 ชีวิต มาจากต่างสถานที่ หลากหลายอาชีพที่ได้ชักชวนมารวมตัวกัน ในส่วนของเรามีพี่ที่ทำงานชวนมาอีกที เรียกโครงการหรือกลุ่มของเรานี้ว่า “ค่ายแบกความสุขไปให้น้อง” มาถึงตรงนี้อันที่จริงเราแถบไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยในตอนนั้น รู้แค่ว่าไปทำค่ายบนดอยในจังหวัดที่ห่างไกล นั่นก็เป็นข้อมูลเพียงพอแล้วที่จะตกลงปลงใจตอบปากรับคำเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ (เรามันเด็กกิจกรรมนำวิชาการอยู่แล้ว)

3 : )  กะทิน้ำแข็ง

          คุณคิดว่าขนมหวานที่อร่อยที่สุดของคุณคืออะไร ? .... มันคงไม่ยากนักถ้าหากเราจะเดินไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ หรือสั่งแบบเดริเวอรี่ให้มาส่งถึงหน้าประตูบ้าน แต่สำหรับเด็ก ๆ ที่นี่ ไอศกรีมกะทิสีขาวโพลนสักคนละถ้วยคงจะหวานชื่นใจอยู่ไม่น้อย หลังจากรถกระบะที่เทียวรับขนคนและขนสัมภาระสิ่งของเที่ยวสุดท้ายขึ้นมาบนที่โรงเรียน ถังไอกศรีมถูกยกลงมาตั้ง เด็ก ๆ ก็วิ่งกรูกันมาเข้าแถวยืนรอต่อคิวกันอย่างเป็นระเบียบ ยิ้มในตาและร้อยยิ้มที่เปื้อนหน้าของน้อง ๆ ทำให้เราเผลอยิ้มตามได้ในทันใด และไม่ใช่มีแค่เด็ก ๆ เท่านั้น ผู้เฒ่าชราที่อุ้มหลานตัวเล็ก ๆ ไว้ข้างเอวก็มาร่วมต่อแถวยิ้มตาหยีไม่มีฟันรอคิวไอศรีมด้วยเช่นกัน


4 : )  ห้องเรียนสาขา

          ห้องเรียนสาขาแม่นิลคี อยู่ภายใต้ความดูแลของโรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวงวิทยาที่อยู่ในตัวเมือง แต่สถานที่ให้ความรู้แห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาห่างจากตัวตำบลแม่สองกว่า 28 กิโลเมตร อยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อาชีพทำไร่ทำสวนเป็นหลัก ถ้าจำไม่ผิดห้องเรียนสาขาแห่งนี้มีการเรียนการสอนแค่ระดับอนุบาล – ป.3 ส่วนใครมีความสามารถ หรือต้องการเรียนให้สูงขึ้นจะต้องติดรถของครูลงไปเรียนในตัวเมืองข้างล่าง หรือเรียนที่นี่และไปสอบที่ในเมืองพร้อมโรงเรียนหลัก และถ้าจำไม่ผิดตอนที่ไปที่แห่งนี้มีครูสอนอยู่แค่ 3 คน

5 : )  กิจกรรม

          โดยปกตินอกจากเราเอาของที่รวบรวมจากผู้ที่บริจาคมาแล้ว การทำค่ายเราก็จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสันทนาการ วิชาการ การละเล่นก็จัดขึ้นให้กับน้อง ๆ ได้สนุกสนานไปกับพี่ ๆ ด้วยเช่นกัน พี่ ๆ Staff และน้อง ๆ ถูกแบ่งกลุ่มจัดทีมตามสีต่าง ๆ เพื่อดำเนินกิจกรรมสันทนาการ กีฬา พัฒนาโรงเรียน และอีกหนึ่งกิจกรรมหลักคือ การจัดโซนห้องสมุดใหม่ เพราะการมาในครั้งนี้เราได้นำหนังสือที่ดี มาให้น้อง ๆ มากมายเลยทีเดียว การละเล่นถูกดำเนินไป จนพระอาทิตย์ใกล้ลาจาก หลังจากเสียงของทีมสวัสดิการส่งสัญญาณว่ามื้อเย็นพร้อม “ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง .....” เสียงเด็ก ๆ ประสานเสียงเจือยแจ้วท่องกันด้วยความชำนาน ก่อนความสงบจะมาเยือนท้องฟ้านั้นถูกแต้มสีดำไปนานแล้ว 
 
6 : )  คืนดาวที่พราวแสง 

            ที่นี่ไม่มีไฟฟ้าใช้ตามสูตร มีเพียงแสงไฟนำทางจากแบตเตอรี่เมื่อถึงเวลาก็จะต้องทำการดับลง ในคืนนี้เราใช้อาคารเรียนชั้นเดียวของน้อง ๆ เป็นที่ซุกหัวนอน โทรศัพท์กลางป่าเช่นนี้ใช้เป็นไฟฉายอย่างดีเลยทีเดียว ยิ่งดึกขึ้นเสียงของเหล่าแมลงส่งเสียงเซ็งแซ่แข่งกับความสงบดังระงมไปทั่ว ห้องเรียนสาขาแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่มีป่าเขาลำเนาไพรห้อมล้อมเอาไว้ และในความโชคดีอย่างมากของเหล่าพรานภาพ หลังจากที่แหงนหน้ามองฟ้าขึ้นไป เราจะได้ล่า“ช้าง”ด้วยความบังเอิญ และที่นี่เราคิดว่าสวยไม่แพ้ที่ใดที่เคยไปมา และหากโชคชั้นเดียวยังไม่เพียงพอก็มอบโชคชั้นที่ 2 กันต่อ ผ้าผ่อนถูกหอบมาปูนอน แหงนหน้าหงายท้องเท้งเต้งกันที่กลางสนาม เพราะคืนนี้มี “ดาวตก”ด้วยนะ

7 : ) Smile

          เช้าวันใหม่ เด็ก ๆ มาคอยชะเง้อชะแง้รอทำกิจกรรมกับพี่ ๆ ตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ ฝ่ายสวัสดิการลุกไปดำเนินการหน้าที่ของตัวเองนานแล้ว และกิจกรรมแรกของเช้านี้คือการพาน้องออกกำลังกาย   มีกิจกรรมวิชาการ ไม่ว่าจะสอนน้องแยกขยะ แปรงฟัน และเล่นเกมต่าง ๆ ที่พี่ ๆ ก็ล้วนแต่สรรหามาให้น้องเล่นกัน หรือบางทีก็เพื่อให้พี่ ๆ เนี่ยแหละสนุกกันเอง เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ และพี่ ๆ ดังกลมเกลียวไปพร้อม ๆ กับกิจกรรมที่แข่งกับเวลา แต่ละกลุ่มจะหมุนเวียนเปลี่ยนฐานทำกิจกรรมไปเรื่อย ๆ รอยยิ้มเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ นั้นทำให้เราลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียว ดวงตะวันเดินทางจากตะวันออกมายังตะวันตกอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับเวลาแห่งความสนุกและความสุขที่มักผ่านไปไวเสมอ 


8 : ) ดาวลอยลอยดาว

             ค่ำคืนนี้ชาวบ้านและคุณครูนำของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตอบแทนน้ำใจผู้มาเยือนอย่างพวกด้วยความยินดี เช่นเดียวกับพวกเราที่ต้องขอบคุณกับการต้อนรับและการดูแลอย่างดี รอยยิ้มแห่งความยินดีเหล่านั้นทั้งของเด็ก ๆ และชาวบ้านก็ได้ตอบแทนเรามาอยู่แล้วเช่นกัน กองไฟที่ถูกจุดค่อย ๆ มอดดับลง สมาชิกหลงเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังนั่งพุดคุยกับคุณครูและชาวบ้านเรื่องสัพเพเหระ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่าง ๆ ภายใต้ท้องฟ้าในยามค่ำคืนกับน้ำใส ๆ ในแก้ว ที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงตอบแทน ที่ยังคงหมุนเวียนรอบวงมาไม่หยุดพัก

9 : ) เช้าวันสุดท้าย

          งอ คอ = (ตอนเช้า) - เช้าวันนี้เป็นเช้าสุดท้ายของกิจกรรม ณ ที่แห่งนี้แล้ว ก่อนแสงอาทิตย์จะแรกแย้มจากสุดขอบภูเขา คุณครูบอกว่าจะพาไปที่แห่งหนึ่งก่อนที่พวกเราจะกลับ สถานที่ที่เป็นแรร์ไอเทมที่ ๆ นักท่องเที่ยวก็ยังไม่รู้จัก เราฝืนขืนพาร่างลุกจากถุงนอนด้วยอาการลอย ๆ ที่เป็นผลมาจากดาวลอยที่ทำพิษเมื่อคืน รถกระบะ 2 คันของครูและชาวบ้านพาสมาชิกมาตามคำสัญญา ภาพเบื้องหน้าเมื่อมองไปไกลสุดสายตา ก่อนจะเป็นเขาที่กั้นเขตระหว่างไทยกับพม่า เบื่องล่างมองเห็นชาวบ้านตัวเล็กเหมือนมดเมื่อเทียบกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ตระการตา กำลังลงแรงแข็งขันช่วยเกี่ยวข้าวที่มีสีเหลืองทองอร่าม 
          เพียงในไม่ช้าเมื่อลมอ่อน ๆ พัดโชย หมอกขาวเป็นปุยฟุ้งคลุ้งเคลื่อนที่ปกคลุมแอ่งเบื้องหน้า ทะเลหมอกปรากฏขึ้นฉับพลัน ความเย็นชื้นจากน้ำค้างที่ยังคงเปียกตามพื้นหญ้าตามที่เราเดินฝ่าไป ธรรมชาติที่อยู่รอบตัวภาพเบื้องหน้าทำให้เวลาเหมือนถูกหยุด สายตาถูกพันธนาการเหมือนไม่สามารถละวางไปจากความสวยงามเหล่านั้น

 
10 : ) คี เลอะ นา เน่อ เก๊อะ บะ ต่า โช่ เง = (ขอให้คุณจงโชคดี)

          คำพูดเดิมที่ยังคงคลาสสิกสำหรับวันสุดท้าย “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา การจากลาไม่ใช่เรื่องน่ากลัว” คุณคิดเหมือนกันไหม...เด็ก ๆ มารวมตัวพร้อมหน้ากันที่หน้าเสาธงเช่นเดียวกับสมาชิกที่หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จ ก็มาร่วมชักภาพเป็นที่ระลึกร่วมกันกับเด็ก ๆ ก่อนจะจากกันไป ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หรือจะมีโอกาสอีกไหมที่จะได้เจอกันคำถามนั้นคงไม่สำคัญ ลึก ๆ แล้วได้แต่หวังว่าสิ่งที่เราทำเหล่านี้อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับการเป็นตัวอย่างที่ดีกับน้อง ๆ  สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อชุมชน ณ ที่แห่งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้อง ๆ จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้าและมีชีวิตที่ดี

ขอบคุณเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ มิตรภาพใหม่ที่มี และประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปีที่อยากบันทึกและนำมาเล่าขานให้ใครที่สนใจได้อ่านกัน 


สวัสดี
- เสือซ่อนยิ้ม - 
ชื่อสินค้า:   ค่ายเเบกความสุขไปให้น้อง เที่ยวดอยจังหวัดตาก เที่ยวดอยแม่นิลคี ค่ายอาสา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่