พ่อกับแม่กำลังจะฟ้องหย่ากันค่ะ และเรากับพี่ชายก็โดนพ่อฟ้องไปด้วย
ครอบครัวเราแตกแยกเพราะพ่อมีเมียน้อยค่ะ ตั้งแต่จำความได้พ่อทำร้ายร่างกายแม่มาตลอด ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูเรากับพี่ชายเลยค่ะ เพราะพ่อเราถูกไล่ออกจากงานค่ะ แต่แม่เราเป็นพนักงานบริษัทค่ะ คนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านคือแม่
จนวันหนึ่งแม่จับได้ว่า พ่อมีเมียน้อย ประจวบกับตอนนั้นเรากับพี่ชายเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัด ทำให้แม่ต้องอยู่บ้านกับพ่อสองคน พ่อจะคอยหาเรื่องทะเลาะแล้วก็ทำร้ายร่างกายแม่ตลอด
จนประมาณปีพ.ศ. 2557 แม่ทนไม่ไหว เรากับพี่ชายเป็นห่วงแม่เลยตัดสินใจย้ายมาเช่าบ้านอยู่กัน 3 คนค่ะ หลังจากนั้นเรา 3 คนก็ไม่เคยติดต่อพ่ออีกเลยค่ะเป็นเวลากว่า 10 ปี
จนวันหนึ่งที่เราและพี่ชายเรียนจบมีงานทำ แม่เกษียณออกจากงาน พ่อก็กลับเข้ามาในชีวิตพวกเราค่ะ กลับมาพร้อมกับภาระหนี้สินที่ตัวเองไปสร้างไว้ในตอนที่แยกกันอยู่กับพวกเราค่ะ กลับมาเพื่อที่จะให้เราและพี่ชายช่วยจ่ายหนี้ให้ค่ะ แต่เรากับพี่ชายไม่ยอม พ่อเลยมาฟ้องหย่าและขอแบ่งทรัพย์สินกับแม่ค่ะ
ทรัพย์สินที่แบ่ง มีดังนี้ค่ะ
1.ที่ดินพร้อมบ้านเช่า
ซึ่งที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเก่าของแม่ค่ะ ยายซื้อให้แม่โดยใส่ชื่อในโฉนดที่ดินเป็นชื่อแม่คนเดียว แต่ซื้อให้หลังจดทะเบียนสมรสกับพ่อแล้ว แต่ยายไม่ได้ยกให้เป็นสินสมรส ซึ่งตอนนี้แม่ได้ทำการโอนเป็นชื่อเรากับพี่ชายแล้ว แต่พ่อฟ้องเรากับพี่ชายให้เพิกถอนชื่อออกค่ะ เพราะพ่อต้องการแบ่งรายได้ของบ้านเช่าครึ่งนึง
สอบถามผู้รู้ว่าพ่อมีสิทธิ์มาแบ่งในสินส่วนตัวของแม่ด้วยหรอคะ
2.ที่ดินพร้อมอาคาร ชั้นเดียว
ที่ดินตรงนี้เคยเปิดเป็นร้านขายของค่ะ ตอนแรกแม่เป็นคนลงทุนเปิดร้านและให้พ่อขายของค่ะ พ่อเป็นคนไม่เก็บเงินค่ะ ขายได้เท่าไหร่ก็เอาไปเที่ยวหมด เอาไปเลี้ยงเมียน้อยหมด จนแม่จับได้เลยจะไม่ลงทุนให้แล้ว ในปีพ.ศ. 2557 ก่อนที่แม่จะแยกย้ายออกมา พ่อไม่มีเงินลงทุนเลยขู่บังคับโดยการเอามีดมาขู่แม่ (แต่ตอนนั้นตำรวจก็ไม่รับทำคดีเพราะแจ้งว่าเป็นเรื่องผัวเมีย) ให้แม่เอาที่ดินตรงนี้ ไปกู้กับธนาคารได้เงินมาจำนวนหนึ่ง เงินตรงนี้พ่อเป็นคนเอาไปใช้ส่วนตัวคนเดียวค่ะ และพ่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารยังบอกแม่ว่า แม่ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบในหนี้ตรงนี้ แต่ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร
สอบถาบผู้รู้ค่ะ ตอนนี้พ่อฟ้องแบ่งที่ดินตรงนี้ครึ่งนึงซึ่งเป็นสินสมรส และให้แม่ใช้หนี้ร่วม แม่ต้องร่วมใช้หนี้ด้วยหรอคะในเมื่อหนี้สินตรงนี้แม่ไม่ได้เป็นคนนำเงินมาใช้เลย
3. พ่อฟ้องแบ่งเงินเกษียณของแม่ที่ได้ตอนออกจากงานค่ะ
ตอนนี้เราไม่รู้จะต้องหาทางออกแบบไหนอีกแล้วค่ะ ไม่คิดว่าคนที่เรียกตัวเองว่าพ่อ จะทำร้ายครอบครัวได้มากมายขนาดนี้ ในวันที่เราสามคนแยกออกมาอยู่กันเอง ในวัยที่เรากำลังเรียนอยู่ เราต้องดิ้นรนกันเองในตอนนั้นพ่อไม่เคยสนใจพวกเราเลย ไปมีความสุขกับทางที่ตัวเองเลือก
แต่พอวันที่พ่อทำชีวิตตัวเองพัง พ่อก็เลือกที่จะกลับมาให้เรารับผิดชอบชีวิตพ่อ กลับมาทำร้ายพวกเราซ้ำๆอีก
ใครพอจะมีคำแนะนำ หรือส่งเรื่องให้หน่วยงานไหนช่วยเหลือได้บ้างคะ
ปล.เรื่องนี้เคยมีการนัดไปไกล่เกลี่ยที่ศาลแล้วค่ะแต่ก็ไม่สำเร็จ
เรากำลังจะขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัว ใครมีประสบการณ์ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
ครอบครัวเราแตกแยกเพราะพ่อมีเมียน้อยค่ะ ตั้งแต่จำความได้พ่อทำร้ายร่างกายแม่มาตลอด ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูเรากับพี่ชายเลยค่ะ เพราะพ่อเราถูกไล่ออกจากงานค่ะ แต่แม่เราเป็นพนักงานบริษัทค่ะ คนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านคือแม่
จนวันหนึ่งแม่จับได้ว่า พ่อมีเมียน้อย ประจวบกับตอนนั้นเรากับพี่ชายเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัด ทำให้แม่ต้องอยู่บ้านกับพ่อสองคน พ่อจะคอยหาเรื่องทะเลาะแล้วก็ทำร้ายร่างกายแม่ตลอด
จนประมาณปีพ.ศ. 2557 แม่ทนไม่ไหว เรากับพี่ชายเป็นห่วงแม่เลยตัดสินใจย้ายมาเช่าบ้านอยู่กัน 3 คนค่ะ หลังจากนั้นเรา 3 คนก็ไม่เคยติดต่อพ่ออีกเลยค่ะเป็นเวลากว่า 10 ปี
จนวันหนึ่งที่เราและพี่ชายเรียนจบมีงานทำ แม่เกษียณออกจากงาน พ่อก็กลับเข้ามาในชีวิตพวกเราค่ะ กลับมาพร้อมกับภาระหนี้สินที่ตัวเองไปสร้างไว้ในตอนที่แยกกันอยู่กับพวกเราค่ะ กลับมาเพื่อที่จะให้เราและพี่ชายช่วยจ่ายหนี้ให้ค่ะ แต่เรากับพี่ชายไม่ยอม พ่อเลยมาฟ้องหย่าและขอแบ่งทรัพย์สินกับแม่ค่ะ
ทรัพย์สินที่แบ่ง มีดังนี้ค่ะ
1.ที่ดินพร้อมบ้านเช่า
ซึ่งที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินเก่าของแม่ค่ะ ยายซื้อให้แม่โดยใส่ชื่อในโฉนดที่ดินเป็นชื่อแม่คนเดียว แต่ซื้อให้หลังจดทะเบียนสมรสกับพ่อแล้ว แต่ยายไม่ได้ยกให้เป็นสินสมรส ซึ่งตอนนี้แม่ได้ทำการโอนเป็นชื่อเรากับพี่ชายแล้ว แต่พ่อฟ้องเรากับพี่ชายให้เพิกถอนชื่อออกค่ะ เพราะพ่อต้องการแบ่งรายได้ของบ้านเช่าครึ่งนึง
สอบถามผู้รู้ว่าพ่อมีสิทธิ์มาแบ่งในสินส่วนตัวของแม่ด้วยหรอคะ
2.ที่ดินพร้อมอาคาร ชั้นเดียว
ที่ดินตรงนี้เคยเปิดเป็นร้านขายของค่ะ ตอนแรกแม่เป็นคนลงทุนเปิดร้านและให้พ่อขายของค่ะ พ่อเป็นคนไม่เก็บเงินค่ะ ขายได้เท่าไหร่ก็เอาไปเที่ยวหมด เอาไปเลี้ยงเมียน้อยหมด จนแม่จับได้เลยจะไม่ลงทุนให้แล้ว ในปีพ.ศ. 2557 ก่อนที่แม่จะแยกย้ายออกมา พ่อไม่มีเงินลงทุนเลยขู่บังคับโดยการเอามีดมาขู่แม่ (แต่ตอนนั้นตำรวจก็ไม่รับทำคดีเพราะแจ้งว่าเป็นเรื่องผัวเมีย) ให้แม่เอาที่ดินตรงนี้ ไปกู้กับธนาคารได้เงินมาจำนวนหนึ่ง เงินตรงนี้พ่อเป็นคนเอาไปใช้ส่วนตัวคนเดียวค่ะ และพ่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคารยังบอกแม่ว่า แม่ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบในหนี้ตรงนี้ แต่ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร
สอบถาบผู้รู้ค่ะ ตอนนี้พ่อฟ้องแบ่งที่ดินตรงนี้ครึ่งนึงซึ่งเป็นสินสมรส และให้แม่ใช้หนี้ร่วม แม่ต้องร่วมใช้หนี้ด้วยหรอคะในเมื่อหนี้สินตรงนี้แม่ไม่ได้เป็นคนนำเงินมาใช้เลย
3. พ่อฟ้องแบ่งเงินเกษียณของแม่ที่ได้ตอนออกจากงานค่ะ
ตอนนี้เราไม่รู้จะต้องหาทางออกแบบไหนอีกแล้วค่ะ ไม่คิดว่าคนที่เรียกตัวเองว่าพ่อ จะทำร้ายครอบครัวได้มากมายขนาดนี้ ในวันที่เราสามคนแยกออกมาอยู่กันเอง ในวัยที่เรากำลังเรียนอยู่ เราต้องดิ้นรนกันเองในตอนนั้นพ่อไม่เคยสนใจพวกเราเลย ไปมีความสุขกับทางที่ตัวเองเลือก
แต่พอวันที่พ่อทำชีวิตตัวเองพัง พ่อก็เลือกที่จะกลับมาให้เรารับผิดชอบชีวิตพ่อ กลับมาทำร้ายพวกเราซ้ำๆอีก
ใครพอจะมีคำแนะนำ หรือส่งเรื่องให้หน่วยงานไหนช่วยเหลือได้บ้างคะ
ปล.เรื่องนี้เคยมีการนัดไปไกล่เกลี่ยที่ศาลแล้วค่ะแต่ก็ไม่สำเร็จ