ดิฉันได้ยื่นฟ้องแบ่งสินสมรส โดยมีที่ดิน5ไร่ บ้าน1หลัง รถยนต์2คัน และธุรกิจค้าขายที่ลงทุนไปในราคา4ล้าน
ตอนนี้จำเลยได้ยื่นคำให้การปฏิเสธโดยระบุว่า ธุรกิจค้าขายเขาทำของเขามา20ปีและทำมาแต่เพียงผู้เดียว (ทั้งที่แต่งงานวันแรกดินฉันยังไปขายของ จัดเตรียมของ ไปซื้อของลงทุนด้วย) ที่ดิน บ้าน รถยนต์ เป็นสินส่วนตัวที่จำเลยซื้อขึ้นในระหว่างสมรสเป็นสินส่วนตัว (ก่อนสมรสเขามีที่มรดกของบิดา3ไร่ ดิฉันไม่ได้ฟ้องส่วนนี้ กับ หนี้ธนาคารอีก6แสน) หลังจากหย่าทางจำเลยได้ให้เงิน1.5ล้านบาท (จริงๆให้มาแค่1.3ล้าน) ตอนนี้พยานของดิฉันเขาเซ็นเป็นพยานให้จำเลยทั้ง2คน เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการหย่าและฟ้องแบ่งสินสมรส ส่วนลูกน้องที่เหลือเขาก็ยังทำงานกับจำเลยอยู่ถ้าให้เป็นพยานเขาคงลำบากใจและถูกไล่ออก
คำถาม
1.มีแค่สเตสเม้นท์ที่ระบุจำนวนเงิน1.3 ไม่มีพยานบุคคล เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานหักล้างการให้การเท็จได้ไหม
2.ผลกำไรจากธุรกิจส่วนตัวระหว่างสมรสเป็นสินส่วนตัวไม่ใช่สินสมรสหรอคะ
3.ตอนหย่าได้เซ็นยกลูกสองคนให้จำเลย เพราะ เงิน สมบัติทุกอย่าง เป็นชื่อของจำเลยทั้งสิ้น (แม้ตอนที่สมรสกันจะซื้อกับข้าวดิฉันยังต้องขอเงินจากจำเลยเพื่อซื้อ) ทางจำเลยจะอ้างลูกเพื่อขอยกฟ้องได้ไหมคะ
4.หลังจากฟ้องแบ่งสินสมรสดิฉันจะฟ้องขอลูกคนนึงได้ไหม โดยที่ดิฉันทำงานรับจ้างได้แค่วันละ500-600 ต่างจากจำเลยที่หาเงินได้วันละเป็นหมื่น