แม่หยัว หนึ่งในร้อย จำเป็นไหม ต้องเล่นใหญ่ทุกซีน ?

ทั้งสองเรื่อง คือ หมุดหมายสำคัญของปี 2024 
ทั้งองค์ประกอบฉาก เครื่องแต่งกาย การกำกับ บทละคร ฝีมือการแสดง 

สิ่งที่ต้องระวัง แม้ว่าฉากจะใหญ่ เครื่องแต่งกายจะหนัก 
อาจจะไม่ต้องเล่นใหญ่ตลอดเรื่อง 
ตรงข้าม การแสดงที่น่าติดตาม คือ เล่นใหญ่ในจังหวะที่ต้องพีค
และเก็บความเก๋าเกม ความโหดเหี้ยม ความเจ็บปวดได้อย่างละเมียด
แต่ละตัวละคร อาจเก็บอารมณ์ได้มากน้อยไม่เท่ากัน 

อย่าลืมว่า ตัวละครยังคงต้องอยู่ในสังคมของเขา
มีบทบาทตามตำแหน่ง ชนชั้นทางสังคม ที่ตัวละครต้อง perform  ได้เหมาะสม
การระบายความคิด แสดงออกได้ในพื้นที่ส่วนตัว เช่น การพูดคุยกับคนสำคัญ
เว้นแต่ได้รับความกดดันอย่างสมเหตุสมผลให้แสดงอารมณ์
แบบไม่แคร์คนรอบข้าง ซึ่งก็ไม่บ่อยในพื้นที่สาธารณะ

ดังนั้น ซีรีย์ไทย อาจไม่ต้องเล่นใหญ่ทุกซีนแบบละครเวที 
รอคอยว่า อยากได้ตัวละครไทยที่ร้าย แต่อดรักอดเห็นใจไม่ได้จริงๆ 
ร้ายแบบเกลียดไม่ลง ที่นึกออกตอนนี้ คือ แม่ย้อยแห่งกรงกรรม ซึ่งดูมา 3 รอบ

นั่นคือ การเกลา ให้ตัวละครดูสมดุลระหว่างความดี-เลว 
เมื่อไหร่ควรจะ soft เมื่อไหร่ควรจะแรง 
ในอีกด้าน เข้าใจว่า ซีรีย์สองเรื่องนี้ คุมโทนของตัวเองอยู่
แม่หยัว ดิบโหด เข้มข้น ส่วนหนึ่งในร้อย ถ้าเป็นภาพเขียนก็คือ expressionist 
เล่นให้เห็นชัด เข้าใจจุดนี้ เพียงแต่ศิลปะการแสดงแบบซ่อนเร้น จะทำให้
ซีนพีค มีความหมาย
เช่น การออกแบบตัวละครพระไชยราชา วามน  แม่พระเอกในหนึ่งในร้อย
สามารถเพิ่มซีนที่เห็นด้านที่อ่อนโยนของตัวละครได้มากขึ้น

อำนาจ ทำให้คนเปลี่ยนไป เป็นกระบวนการที่ถูกเอาใจหรือด้วยหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
จนลืมความสำคัญของเรื่องเล็กน้อย ที่อดีตเคยใส่ใจอย่างละเอียดอ่อน
มนุษย์อาจไม่ใช่ผู้บงการสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามปรารถนาเท่านั้น
แต่บริบทก็มีอำนาจเหนือมนุษย์เช่นกัน 

ความวุ่นวาย/ปมเรื่อง นั้น อาจไม่ใช่เพียงวางตัวผู้ร้ายให้กับบ้าน หรือ ให้กับประเทศ
แต่เป็นปัญหา ที่มาจากความเกินไป มากบ้างน้อยบ้าง ของคนทุกคน
สร้างจุดสุกงอมให้คนที่ร้าย กล้าปล่อยความร้ายออกมา
แล้วเรื่องก็จบลง ที่การสูญเสีย และตัวละครทั้งหมด หาสมดุลใหม่ในการอยู่ร่วมกัน

แม่หยัว และ หนึ่งในร้อย  เป็นการเล่าเรื่องราวของชนชั้นสูง
ดังนั้น การแสดงออก ควรดูมีชั้นเชิง อาจไม่ต้องเล่นใหญ่ทุกซีน 
ในซีนที่ต้องเกินเบอร์ ก็จัดไป ในซีนที่ต้องอ่อนโยน ก็ต้องมัดใจคนดู

แม่หยัวตอนจบ เราชอบซีนจุ๊บหน้าผาก ไม่มากเกินไป ไม่ต้องจูบ-สัมผัส พร่ำเพรื่อ 
ส่วน พระเอก เรื่องหนึ่งในร้อย ก็คุมกรอบของตัวละครซึ่งมีอาชีพในแวดวงราชการได้ดี 

ถ้านักแสดง สามารถเล่นเบาได้ แรงได้
จะทำให้จังหวะการเล่นมีความคมคายดั่งเพลงกระบี่
เวลาฟาด ก็ฟาด ได้สม การรอคอย 
เวลาเล่นน้อย ก็ดูมีลูกเล่น มีรสนิยม น่าค้นหา

ทั้งหมดนี้ เพียง 1  ฟีคแบค และจะติดตามชม
ฝีมือของทั้งสองค่ายที่พัฒนายิ่งๆขึ้นไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่