เรื่องราวอ้างอิงจากคดีทีเ่กิดขึ้นจริงในปี 1964 เมื่อหนุ่มนักมนุษยธรรม ชาวยิวผิวขาว 2 คน และ หนุ่มผิวดำ 1 คนหายตัวไปอย่างลึกลับ ในเมืองเนโชบา รัฐ มิสซิสซิปปี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ FBI 2 คนต้องเข้ามาสอบสวนหาความจริง
อเมริกาประเทศที่ถูกเรียกว่าเป็นประเทศแห่งความเสมอภาคกลับมีอดีตที่น่าหดหู่ และมักจะพยายามปกปิดความชั่วร้ายของสังคมอยู่เสมอ องค์กร Klu Klux Klan (KKK) ที่อยู่คู่สังคมคนผิวขาว ไม่ยอมรับทั้งคนยิว และคนผิวสีอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนคริสต์
นิกายโปรเตสแตนต์ และมองว่าคนเหล่านี้เป็นเพียงแค่เดนมนุษย์ที่ไม่ควรค่าแก่การมีชีวิต เป็นเพียงแมลงที่สามารถเหยียบทำลายได้ตลอดเวลา
เรื่องย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นที่ เด็กหนุ่ม 3 คน ขับรถอยู่บนถนน และมีรถขับตามมาสามคัน หนึ่งในนั้นเป็นรถตำรวจ เมื่อทั้งสามตัดสินใจจอดรถเพื่อลดความตึงเครียด กลับโดนยิงทิ้ง และกลายเป็นบุคคลสาบสูญ FBI 2 คนถูกส่งมาตรวจสอบ จอห์นสัน (Gene Hackman) อลัน (Willem Dafoe) อลันเป็น FBI หนุ่มที่เรียนจบมาสูง จึงได้เป็นผู้รับผิดชอบคดีโดยตรง โดยจอห์นสัน เป็น FBI มากประสบการณ์
ทั้งสองร่วมมือกันสืบหาคนร้าย โดยการสั่งให้ขนทหาร และ FBI จำนวนมากมาเพื่อตรวจขนพื้นที่ ที่พบซากรถของทั้ง 3 คน เรื่องราวบานปลายขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนผิวสีในเมืองถูกรุมทำร้ายอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มคนผิวขาว เพื่อจะบีบไม่ให้ใครขึ้นให้การ ขณะที่เหล่าตำรวจ และนายอำเภอของท้องที่ ก็ไม่สนใจอะไร และแสดงท่าทีชัดเจนว่าพวกเขาก็รังเกียจคนผิวสี
ความโหดเหี้ยมของกลุ่ม Klu Klux Klan และการดูถูกเหยียดหยามจากคนผิวขาวในสังคม ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างรุนแรง ไม่มีการเกรงใจเลย
ช่วงสุดท้ายของหนัง ที่ดึงเอาสันดานดิบของตัวเอกอย่าง จอห์นสัน ที่โกรธแค้นกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนห้ามใจไม่อยู่ และเมื่อเขามีหลักฐานมากพอ เขาก็เริ่มลงมือจัดการเหล่าร้าย ด้วยการข่มขู่ และขู่เข็ญให้รับสารภาพ
เรื่องราวเป็นอย่างไรต้องไปดูครับ
รีวิว
เนื้อเรื่องถูกเขียนออกมาได้อย่างเข้มข้น แสดงความรุนแรงออกมาแบบไม่มียั้ง บทพูดที่ถูกใส่เข้าไป แสดงให้เห็นภาพจิตใจอันโสมมของคนผิวขาวในยุคนั้นได้อย่างชัดเจน ยิ่งมีการหยิบเอาคลิปของกลุ่ม Klu Klux Klan ออกมาฉายเป็นพื้นหลังให้ดู มีการเปิดคำพูดของหัวหน้ากลุ่ม และมีเพลงของกลุ่มให้ได้ยิน ทำให้ยิ่งเห็นภาพของยุคสมัยอย่างชัดเจน มีการพูดถึงการแบ่งห้องน้ำ ที่นั่งบนรถเมล์ ที่นั่งในร้านอาหาร หรือแม้แต่น้ำดื่มก็มีการแบ่งว่าของคนผิวสี และคนผิวขาว
มีฉากที่แสดงให้เห็นถึงความไม่กลัวต่อกฎหมายของกลุ่มคนผิวขาว บุกเข้าไปทำร้ายคนผิวสีถึงในบ้าน จับคนออกมาแขวนคอ
การแสดงที่ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวของทั้ง Gene Hackman และ Willem Dafoe ในบท FBI ที่ต้องการสืบหาความจริงและมอบความยุติธรรมให้กับคนที่เสียชีวิต
Michael Rooker (เคยเล่นเป็น Yoodu ใน Guardina of Galaxy) ในบท Frank Bailey หนึ่งในสมาชิก Klu Klux Klan ก็เล่นได้น่าเตะ น่าถีบมาก แสดงได้สมบทบาท การออกบท ออกท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้า ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นคนเหยียดผิวได้ยอดมาก
Frank Bailey (เจ้าของเสีย Chucky ในซีรีย์ Chucky) ในบท ผู้ช่วยนายอำเภอ หนึ่งในผู้ร่วมลงมือฆาตกรรมโหด ก็เล่นได้เหี้ยมมาก ถึงจะดูหน้าอ่อน แต่การส่งบท และการแสดงออกทางสีหน้า ที่รู้สึกน่าหมั่นไส้ น่าเตะจริงๆ
บอกได้เลยว่าดาราแต่ละคนเล่นได้ดีมากๆ ทุกคำที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของนักแสดงถูกถ่ายทอดออกมาได้งดงาม เหนือคำบรรยาย
ฝีมือการกำกับการแสดงของ Alan Parker ไม่ทำให้ผิดหวังเลย ต้องยอมรับว่า หนังดีไม่ดี ผู้กำกับสำคัญมาก เพราะต่อให้ฝีมือการแสดงไม่ดี แต่ถ้าผู้กำกับเก่งจริงๆ ก็สามารถดึงเอาความสามารถทางการแสดงของนักแสดงออกมาได้ ยิ่งนักแสดงในเรื่องนี้แต่ละคนต้องบอกเลยว่า ชั้นครูทั้งนั้น เลยยิ่งทำให้หนังออกมาได้สุดยอดมาก
การเขียนบทของ Chris Gerolmo ที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจริง การดึงเอาเหตุการณ์ต่างๆ ออกมาและดัดแปลง ขีดเขียน ให้เห็นภาพอย่างชัดเจน มีการยกตัวอย่างเรื่องราวในช่วงเวลาเดียวกัน ยกชื่อบุคคลที่มีอยู่จริงในเวลานั้นอย่าง Martin Luther King นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของคนผิวสีในอเมริกา
ฉากต่างๆ ที่ถูกทำขึ้น อย่างบรรจง แม้จะถูกเผา ถูกระเบิด ในภายหลังก็ยังทำออกมาได้สวยงาม ดูสมจริง
ทั้งเพลง และ BG ของหนังทำออกมาได้สุดยอด เข้ากับสถานการณ์ การตัดต่อ การถ่ายภาพ ทำให้ทุกอย่างดูลื่นไหล น่าสนใจ น่าติดตาม
ตอนจบคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของหนัง "หนังดีไม่ดี สำคัญที่ตอนจบ" เป็นสิ่งที่ผมพูดติดปากเสมอ และหนังเรื่องนี้ ก็ทำตอนจบได้ยอดเยี่ยมมาก
แม้หนังจะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ แต่ก็แพ้ให้กับเรื่อง Rain Man ถึงจะเสียดายแต่ก็เข้าใจ และยอมรับได้
ถ้าคุณชอบดูหนัง และไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ แสดงว่าคุณยังไม่ใช่คอหนังที่แท้จริง
[CR] ขุดมารีวิวกับหนังเหยียดผิว Missisippi Burning เมืองเดือดคนดุ (1988)
อเมริกาประเทศที่ถูกเรียกว่าเป็นประเทศแห่งความเสมอภาคกลับมีอดีตที่น่าหดหู่ และมักจะพยายามปกปิดความชั่วร้ายของสังคมอยู่เสมอ องค์กร Klu Klux Klan (KKK) ที่อยู่คู่สังคมคนผิวขาว ไม่ยอมรับทั้งคนยิว และคนผิวสีอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ และมองว่าคนเหล่านี้เป็นเพียงแค่เดนมนุษย์ที่ไม่ควรค่าแก่การมีชีวิต เป็นเพียงแมลงที่สามารถเหยียบทำลายได้ตลอดเวลา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้