สมองดี จิตใจดี เชื่อกันว่า มีโอกาสประสพความสำเร็จสูงและมีความสุข
คุณสมบัติสองอย่างนี้ เป็นหัวใจของผู้มีจิตบริการ และผู้นำที่ดี
แต่ก็มีจังหวะแหกโค้ง ที่อาจจะพาชีวิตตกเหว
เพราะสภาพแวดล้อม ทำให้จิตและมันสมองของคุณ
overthinking จนทำร้ายตัวคุณเอง
มีคำกล่าวว่า
หากสนใจทุกเรื่องราวตลอดเส้นทาง ก็มัวแต่หยุด
แก้ไขใส่ใจทุกปัญหา จนเดินทางไม่ถึงที่หมาย
อาการคิดมา มาจากการติดยึดกับอดีต เรื่องราวในอดีตที่เจ็บปวดชัดเจนเกินไป
นั่นอาจเป็นแรงขับให้คุณสู้คน หรือ อาจจะเป็นหลุมความคิดวกวน
บางครั้งเราวิเคราะห์อนาคตมากจนเกินไป และบางอย่างก็ไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
นำไปสู่ความกลัว ความระแวดระวัง ความกังวล
และคุณอาจจะเอาเคสที่ผิดพลาด มาสร้างความกังวลให้กับตนเอง
แทนที่จะมองจุดที่ทำสำเร็จได้
ความเครียดนี้ นำไปสู่ อาการของโรคทางกายอีกมากมาย
นอกจากนี้ ความเครียดยังเกิดจากหมดปัญญาในบางเรื่อง แม้แต่ละคน มีจุดแข็งของตนเอง
แต่ก็มีบางด้านที่เป็นจุดอ่อนของคุณ เช่น คุณอาจจะเก่งงานมาก
แต่ไม่เอาไหนเลยในเรื่องความสัมพันธ์
คุณไม่สามารถวิเคราะห์อย่างทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับการเอาใจคนอื่น
หรือ ปรัชญาความเป็นไปของโลก
คุณไม่ให้เวลากับการเรียนรู้สิ่งใหม่
แล้วปล่อยให้ input เหล่านั้นค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตนเอง
หากวันนี้ มีความเครียดฝังอยู่ คุณจะปัดเป่าความเครียดได้อย่างไร ?
1.
หาจุดที่จำเป็นต้องใส่ใจ
แน่หล่ะ การใส่ใจรายละเอียดของงานน้อย ก่อปัญหาในภายหลังได้
แต่หากใส่ใจเรื่องน้อยๆ งานใหญ่ก็ไม่สำเร็จ
ดังนั้น คุณอาจจะต้องเรียบเรียง ว่าในงานของคุณนั้น
อะไรควรทุ่มเทเวลา และอะไรควรให้ผู้ช่วยช่วยทำได้
หรือ อะไรปล่อยผ่าน ได้
2.
อย่าวางเป้าว่าต้องสมบูรณ์แบบ
อย่ากลัวความล้มเหลวมากเกินไป
เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้น เรียนรู้และปรับปรุง
คิดเสียว่า เรามีวันข้างหน้าไว้ทำดีกว่าที่ผ่านมา
ชีวิตสมัยใหม่ มีความซับซ้อน จึงต้องหาจุดสมดุล
จึงไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องคิด ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องระวัง
เพียงแต่ใช้ความคิดอย่างพอดี วางแผนแต่พองาม
3.
สร้างภูมิต้านทานจากคนรอบข้าง
คุณอาจจะใช้วิธีเขียน แทนที่จะเถียงกับคนที่เถียง
คนเหล่านั้น จะหมดคำถามถ้าเขาได้เห็นว่า คุณทำได้ตามที่บอก
นายเอ บอกว่า การเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ ชีวิตที่ดี
นายบี บอกว่า เป็น Youtuber คือ ชีวิตที่ดี ทั้งสองคนฝัน ตามสมองและศักยภาพของตัวเอง
นายบี ไม่รู้สึกว่า ทำอย่างนายเอ ง่าย และนายเอ ไม่รู้สึกว่า อดทนอย่างนายบี คือเส้นทางที่เขาเดินได้
ดังนั้น ต่างคนต่างก็มีคำถามต่อกันและกัน ว่า ทำได้อย่างไร
ไม่ใช่กับทุกคนในชีวิต ที่คุณจะต้องเสียเวลาโน้มน้าว
กลับกัน บางที คุณต้องหาเรื่องคุยเรื่องที่เขาชอบเสียมากกว่า
คุณไม่ต้องโน้มน้าวแฟนคลับก้าวไกล และแฟนคลับเพื่อไทย
คนที่คุณโน้มน้าวได้ คือ คนที่มีความคิดกลางๆ
ยังไม่ใช่แฟนตัวยงของพรรคใดพรรคหนึ่ง
4.
ออกกำลังกาย แสงแดดยามเช้าและการออกกำลัง ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย
และการเบรคจากงานบ้าง มีวินัยกับการออกกำลังทำให้ไอเดียความคิดของคุณแพรวพราว
หรือ ตรงประเด็นมากขึ้น
5.
Happiness is here and now.
ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอ รอให้เรียนจบ รอให้แต่งงาน รอให้มีลูก รอให้ลูกเรียนจบ...
รอให้มีเงินล้าน ... เมื่อไหร่คุณจะมีความสุข ?
ในเวลาที่มีปัญหาคุณก็มีความสุขได้ แค่มีความคิดที่ยืดหยุ่น
บางคนสู้พิษเศรษฐกิจในกรุงไม่ไหว
กลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด ได้อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า
สัมผัสความผูกพันแบบคนชนบท เกิดไอเดียพัฒนาอสังหา
ทำธุรกิจยั่งยืนให้ชุมชนของตนเอง
ประเทศไทยอาจมี working spaces
ที่คนทั่วโลกสามารถเช่าห้องทำงานระยะ 1 ปี ในราคาที่ไม่แพง
ในภาวะสงคราม ประเทศไทยกลายเป็นจุดสนใจของการท่องเที่ยว
เพราะมีเงินไม่มาก ก็มาเที่ยวได้
อนาคต สังคมผู้สูงอายุ เป็นโอกาสให้กับประเทศไทยอีก
คนไทยดูแลดี ค่าครองชีพต่ำ อาหารไม่ขาดแคลน
เข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลง่ายกว่าอีกหลายประเทศ
ยุคทองมักจะซ่อนอยู่ในวิกฤติ
สร้างสิ่งนี้เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าแบบไหน
และตอนที่คุณสร้าง คุณต้องมีความสุขไปด้วย
ในยามเจ็บป่วย
แต่เป็นโอกาสให้คนในครอบครัวได้กลับมาพูดคุย ดูแลกัน
เปิดทางให้เรียนรู้สุขภาพอย่างแตกฉาน
ในวัยเรียน จันทร์-ศุกร์ไม่ว่างเลย
แต่คุณก็มีเพื่อนร่วมสนุกมากกว่าวัยอื่นๆ
ในภาวะที่เงินหมด คุณอาจตัดสินใจง่ายขึ้น
เพราะทางเลือกในชีวิตเริ่มน้อยลง ช้อยส์ที่เงินไม่พอ ก็ตัดออกไป
ในภาวะที่ฝนตก นั่งดูเด็กๆวิ่งเล่นน้ำฝน
อาจจะทำให้คิดว่า นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้ระเบิดเสียงหัวเราะ
โดยไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย
ไม่ใช่ทุกขั้นตอน ที่ชีวิตจะได้อย่างที่หวัง
แม้บางสิ่งไม่ได้เป็นตามแผน บางครั้งล้มเหลว ผิดพลาด
หรือทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ
ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องเสียใจนาน เพียงเรียนรู้ มองหาข้อดีของสิ่งใหม่ที่ได้มา
วันข้างหน้า ยังมีโอกาสทำให้ดีกว่าเดิม ด้วยวิธีที่เปลี่ยนไป
โรคคิดมาก ที่เกิดกับคนไอคิวสูงและเห็นใจผู้อื่น
คุณสมบัติสองอย่างนี้ เป็นหัวใจของผู้มีจิตบริการ และผู้นำที่ดี
แต่ก็มีจังหวะแหกโค้ง ที่อาจจะพาชีวิตตกเหว
เพราะสภาพแวดล้อม ทำให้จิตและมันสมองของคุณ
overthinking จนทำร้ายตัวคุณเอง
มีคำกล่าวว่า
หากสนใจทุกเรื่องราวตลอดเส้นทาง ก็มัวแต่หยุด
แก้ไขใส่ใจทุกปัญหา จนเดินทางไม่ถึงที่หมาย
อาการคิดมา มาจากการติดยึดกับอดีต เรื่องราวในอดีตที่เจ็บปวดชัดเจนเกินไป
นั่นอาจเป็นแรงขับให้คุณสู้คน หรือ อาจจะเป็นหลุมความคิดวกวน
บางครั้งเราวิเคราะห์อนาคตมากจนเกินไป และบางอย่างก็ไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
นำไปสู่ความกลัว ความระแวดระวัง ความกังวล
และคุณอาจจะเอาเคสที่ผิดพลาด มาสร้างความกังวลให้กับตนเอง
แทนที่จะมองจุดที่ทำสำเร็จได้
ความเครียดนี้ นำไปสู่ อาการของโรคทางกายอีกมากมาย
นอกจากนี้ ความเครียดยังเกิดจากหมดปัญญาในบางเรื่อง แม้แต่ละคน มีจุดแข็งของตนเอง
แต่ก็มีบางด้านที่เป็นจุดอ่อนของคุณ เช่น คุณอาจจะเก่งงานมาก
แต่ไม่เอาไหนเลยในเรื่องความสัมพันธ์
คุณไม่สามารถวิเคราะห์อย่างทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับการเอาใจคนอื่น
หรือ ปรัชญาความเป็นไปของโลก
คุณไม่ให้เวลากับการเรียนรู้สิ่งใหม่
แล้วปล่อยให้ input เหล่านั้นค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตนเอง
หากวันนี้ มีความเครียดฝังอยู่ คุณจะปัดเป่าความเครียดได้อย่างไร ?
1. หาจุดที่จำเป็นต้องใส่ใจ
แน่หล่ะ การใส่ใจรายละเอียดของงานน้อย ก่อปัญหาในภายหลังได้
แต่หากใส่ใจเรื่องน้อยๆ งานใหญ่ก็ไม่สำเร็จ
ดังนั้น คุณอาจจะต้องเรียบเรียง ว่าในงานของคุณนั้น
อะไรควรทุ่มเทเวลา และอะไรควรให้ผู้ช่วยช่วยทำได้
หรือ อะไรปล่อยผ่าน ได้
2. อย่าวางเป้าว่าต้องสมบูรณ์แบบ
อย่ากลัวความล้มเหลวมากเกินไป
เมื่อความผิดพลาดเกิดขึ้น เรียนรู้และปรับปรุง
คิดเสียว่า เรามีวันข้างหน้าไว้ทำดีกว่าที่ผ่านมา
ชีวิตสมัยใหม่ มีความซับซ้อน จึงต้องหาจุดสมดุล
จึงไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องคิด ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องระวัง
เพียงแต่ใช้ความคิดอย่างพอดี วางแผนแต่พองาม
3. สร้างภูมิต้านทานจากคนรอบข้าง
คุณอาจจะใช้วิธีเขียน แทนที่จะเถียงกับคนที่เถียง
คนเหล่านั้น จะหมดคำถามถ้าเขาได้เห็นว่า คุณทำได้ตามที่บอก
นายเอ บอกว่า การเป็นมนุษย์เงินเดือนคือ ชีวิตที่ดี
นายบี บอกว่า เป็น Youtuber คือ ชีวิตที่ดี ทั้งสองคนฝัน ตามสมองและศักยภาพของตัวเอง
นายบี ไม่รู้สึกว่า ทำอย่างนายเอ ง่าย และนายเอ ไม่รู้สึกว่า อดทนอย่างนายบี คือเส้นทางที่เขาเดินได้
ดังนั้น ต่างคนต่างก็มีคำถามต่อกันและกัน ว่า ทำได้อย่างไร
ไม่ใช่กับทุกคนในชีวิต ที่คุณจะต้องเสียเวลาโน้มน้าว
กลับกัน บางที คุณต้องหาเรื่องคุยเรื่องที่เขาชอบเสียมากกว่า
คุณไม่ต้องโน้มน้าวแฟนคลับก้าวไกล และแฟนคลับเพื่อไทย
คนที่คุณโน้มน้าวได้ คือ คนที่มีความคิดกลางๆ
ยังไม่ใช่แฟนตัวยงของพรรคใดพรรคหนึ่ง
4. ออกกำลังกาย แสงแดดยามเช้าและการออกกำลัง ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย
และการเบรคจากงานบ้าง มีวินัยกับการออกกำลังทำให้ไอเดียความคิดของคุณแพรวพราว
หรือ ตรงประเด็นมากขึ้น
5. Happiness is here and now.
ความสุขไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอ รอให้เรียนจบ รอให้แต่งงาน รอให้มีลูก รอให้ลูกเรียนจบ...
รอให้มีเงินล้าน ... เมื่อไหร่คุณจะมีความสุข ?
ในเวลาที่มีปัญหาคุณก็มีความสุขได้ แค่มีความคิดที่ยืดหยุ่น
บางคนสู้พิษเศรษฐกิจในกรุงไม่ไหว
กลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด ได้อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า
สัมผัสความผูกพันแบบคนชนบท เกิดไอเดียพัฒนาอสังหา
ทำธุรกิจยั่งยืนให้ชุมชนของตนเอง
ประเทศไทยอาจมี working spaces
ที่คนทั่วโลกสามารถเช่าห้องทำงานระยะ 1 ปี ในราคาที่ไม่แพง
ในภาวะสงคราม ประเทศไทยกลายเป็นจุดสนใจของการท่องเที่ยว
เพราะมีเงินไม่มาก ก็มาเที่ยวได้
อนาคต สังคมผู้สูงอายุ เป็นโอกาสให้กับประเทศไทยอีก
คนไทยดูแลดี ค่าครองชีพต่ำ อาหารไม่ขาดแคลน
เข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลง่ายกว่าอีกหลายประเทศ
ยุคทองมักจะซ่อนอยู่ในวิกฤติ
สร้างสิ่งนี้เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าแบบไหน
และตอนที่คุณสร้าง คุณต้องมีความสุขไปด้วย
ในยามเจ็บป่วย
แต่เป็นโอกาสให้คนในครอบครัวได้กลับมาพูดคุย ดูแลกัน
เปิดทางให้เรียนรู้สุขภาพอย่างแตกฉาน
ในวัยเรียน จันทร์-ศุกร์ไม่ว่างเลย
แต่คุณก็มีเพื่อนร่วมสนุกมากกว่าวัยอื่นๆ
ในภาวะที่เงินหมด คุณอาจตัดสินใจง่ายขึ้น
เพราะทางเลือกในชีวิตเริ่มน้อยลง ช้อยส์ที่เงินไม่พอ ก็ตัดออกไป
ในภาวะที่ฝนตก นั่งดูเด็กๆวิ่งเล่นน้ำฝน
อาจจะทำให้คิดว่า นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้ระเบิดเสียงหัวเราะ
โดยไม่ต้องกังวลอะไรมากมาย
ไม่ใช่ทุกขั้นตอน ที่ชีวิตจะได้อย่างที่หวัง
แม้บางสิ่งไม่ได้เป็นตามแผน บางครั้งล้มเหลว ผิดพลาด
หรือทำร้ายคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ
ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องเสียใจนาน เพียงเรียนรู้ มองหาข้อดีของสิ่งใหม่ที่ได้มา
วันข้างหน้า ยังมีโอกาสทำให้ดีกว่าเดิม ด้วยวิธีที่เปลี่ยนไป