อุซเบกิสถาน เป็นประเทศในแถบเอเชียกลาง ส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมโบราณอันโด่งดัง เราเดินทางช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวค่ะ
ซึ่งต้นเดือนพฤศจิกายนจะมีอากาศที่ค่อนข้างแห้ง ลมเย็น เปิดดูอุณหภูมิตอนกลางคืนอยู่ช่วง 6-8 องศา ถ้าเป็นกลางวันจะอุ่นขึ้นมาหน่อย คือช่วง 18-20 องศา
แผนการเดินทาง (Itinerary) : เราแพลนทริปนี้ไว้แบบหลวมๆ ค่ำเมืองไหนนอนเมืองนั้น เริ่มต้นประเทศแรกที่อุซเบกิสถาน นั่งบัสต่อไปคีร์กีซสถาน และนั่งบัสต่อไปปิดทริปที่คาซัคสถานค่ะ
แนะนำโหลด App Yandex Go (สำหรับเรียก Taxi หรือสั่งอาหาร) กับ App 2GIS (แผนที่บอกการเดินทางทั้งรถยนต์ และรถสาธารณะ ใช้ตอนแรกไม่ค่อยถนัดเพราะเสริชภาษาอังกฤษ มันจะแปลออกมาเป็นภาษารัสเซียแทน แต่ใช้แอพนี้ในประเทศนี้จะละเอียดกว่า Google maps ปักหมุดให้ถูกนะคะ)
[ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Uzbek , Russian ส่วนภาษาอังกฤษจะใช้ในแหล่งท่องเที่ยวหรือเมืองใหญ่ๆ
วีซ่า (Visa) : สมัครขอ E-Visa อุซเบกิซสถาน ที่นี่
https://e-visa.gov.uz/main
1.กรอกข้อมูล Citizenship , เลือก Entry type แบบ Single entry 20 USD , Double entry 35 USD , Multiply 50 USD
2.เลือก Arrival date กับ Departure date
3.กรอกข้อมูลส่วนตัว กรอกข้อมูลที่พักในอุซเบกิซสถาน
4.(นานที่สุด) ตรงขั้นตอนแนบไฟล์ภาพถ่ายและพาสปอร์ต ต้องปรับภาพให้ได้ขนาด 35x45 mm size , 300 dpi , นามสกุล .jpg เท่านั้น
เราลองใช้บริการปรับภาพของ visafoto.com 1 ใบ (เสริช google ว่า “photo visa uzbe” ก็เจอเลย) ใบละ 250 บาท จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ใครไม่เก่งปรับภาพลองใช้เงินแก้ปัญหาดูค่ะ
5.Activation แสดงข้อมูลที่กรอกไปก่อนหน้านี้ เมื่อกรอก Email ด้านล่างสุด จะมี Code ส่งไปให้
6.Copy Code ยาวๆที่ได้รับทางเมล์มากรอกแถบ Payment เพื่อจ่ายเงิน
(ขั้นตอนพิจารณาวีซ่า 3 วันทำการ)
สกุลเงิน (Currency) : UZB Sum (1 บาท ประมาณ 368 Sum) ค่าเงินถูกมาก
Time Zone : ช้ากว่าไทย 2 ชม.
ขาไป เราเดินทางกับ Uzbekistan Airways ค่ะ เป็น Direct flight Bangkok ไปยัง Tashkent ตอนเช็คอิน Ground staff ไทยน่ารักมาก ถามให้เลือกที่นั่งก่อนเลย เราเลือกริมหน้าต่าง เพราะ 2-3 ชม.ก่อนเครื่อง Landing จะได้ชมแนวเทือกเขา Pamir และเทือกเขา Hindu kush อย่างเต็มอิ่ม
เส้นทางสายไหมโบราณ หรือ Silk Road ในอดีตมีความสำคัญเรื่องการค้าระหว่างจีน ยุโรปและเอเชียกลาง เมืองที่พาดผ่าน ได้แก่เมืองหลวง Tashkent , Samarkand , Bukhara และ Khiva
เช้ามืดอากาศ 8 องศา วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้า เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงจาก Tashkent ไป Samarkand ค่ะ จากที่พักไปสถานีรถไฟใช้เวลา 5 นาทีโดย Taxi ราคา 15000 sum(40 บาท)
Tashkent Railway station มี 3 แห่ง
1.สถานีหลัก Central Railway Station ให้บริการรถไฟความเร็วสูง Afrosiyob ไปยัง Samarkand, Bukhara และ Khiva
2.South Station(ติดกับสนามบิน) ให้บริการรถไฟไปยังเมืองทางตอนใต้และตะวันตกของประเทศ เช่น Termez
3.North Station เป็นสถานีที่ใช้ขนส่งสินค้าเป็นหลัก
จองตั๋วรถไฟความเร็วสูงออนไลน์ที่นี่ www.eticket.railway.uz/en/home ตั๋วรอบเวลาดีๆเต็มเร็วมาก ส่วนเรารอลุ้นจองตั๋วหลุดช่วงใกล้วันเดินทาง ปรากฎว่าโชคดีเจอหลุดมา 2 ที่นั่ง เพราะระบบที่นี่สามารถคืนตั๋วก่อนรถไฟออก 1 ชม. ทำให้เห็นว่าบางรอบรถไฟที่เคยเต็มแล้ว จะมีที่ว่างโผล่มาเรื่อยๆ
และระยะเวลาเดินทางแต่ละรอบรถไฟก็ต่างกัน บางรอบ 2:30 ชม. 3:30 ชม. จนถึง 4 ชม.ก็มีค่ะ
SAMARKAND
เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย Unesco ในปี ค.ศ. 2001
จากที่พักเดินไป Registan Square ใช้เวลา 10 นาที มีซุ้มขายกาแฟ เครื่องดื่มตั้งอยู่หลายร้าน ช่วงนี้ตามทางเดินจะเห็นใบไม้ร่วงหล่น ต้นไม้เหลืองอร่ามตลอดสองข้างทาง
ที่นี่คือจุดศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเมือง Samarkand ในภาษา Uzbek แปลความหมาย Registan คือทะเลทราย ในยุคก่อนจตุรัสนี้ถูกปกคลุมไปด้วยทราย ต่อมามีการสร้างอาคารทั้งหมด 3 หลังได้แก่ Madrasah of Ulugh Beg , Sher-Dor Madrasah และ Tillya-Kori Madrasah ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนา ความอลังการของแต่ละอาคารถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีสันสดใส
(Tillya-Kori Madrasah)
อาคารนี้ถูกสร้างหลังสุด โดยสร้างหลังอาคาร Sher-Dor Madrassah ถึง 10 ปี เพื่อความสมบูรณ์แบบในทางสถาปัตยกรรม
Tilla-Kori หมายถึงการปิดทอง ได้จากการตกแต่งลงสีจากทองเป็นหลัก และยังสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน
เวลาทำการ : Peak season 7:00 to 00:00 am.
Non-season 08:00 to 8:00 pm.
ราคาตั๋วผู้ใหญ่ 65,000 UZS(177 บาท) เด็ก 35,000 UZS(95 บาท) รับเงินสด และบัตรเครดิต(คิดค่า Service charge fee)
ปล.กรณีจ้างช่างภาพ ต้องเสียเพิ่มอีกนะคะ (ระบุว่า Taking photos and videos of the architectural objects 35,000 UZS)
และในทุกวันช่วง 18:00 น. มีการแสดงที่ชื่อ "The Secret of the Five-Century Bracelet" หรือเรียกว่า FOLKLORE THEATER บริเวณหน้า Registan ให้เราได้ชมพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิม การละเล่น การเต้นรำ และบทเพลง พร้อมด้วยการแสดงจากโรงละครหุ่นเชิดพื้นบ้าน
(ด้านหน้า Sher-Dor Madrasah)
อาคารหลังนี้ถูกออกแบบให้สะท้อนภาพของ Madrasah of Ulugh Beg ฝั่งตรงข้ามที่มีอยู่เดิมอย่างสมมาตร แต่ครั้งนึงอาคารเกิดทรุดตัวลง และถูกสร้างขึ้นมาใหม่สูงกว่าเดิม
Sher-Dor มีความหมายว่า “ตกแต่งด้วยเสือ” มาจากภาพวาดเสือโคร่งทองขนาดใหญ่สองตัวแบกดวงอาทิตย์ไว้บนหลังที่กำลังไล่ตามกวางดาวสีขาวประดับประดาทางเข้าซุ้มประตู ต่อมาภาพนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของอุซเบกิสถาน
(Madrasah of Ulugh Beg)
อาคารหลังแรกของจตุรัส ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1420 โดยคำสั่งของท่าน Ulugh Beg รัชทายาทแห่งราชวงศ์ Temurids ซึ่งเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์
ภายนอกตกแต่งด้วยหอคอยสูงสองมุม ภายในจะเป็นลานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีทางเข้าไปยังห้องพักและห้องเรียนของนักเรียนประมาณ 100 ห้อง
เดินเข้าไปภายในอาคารเพื่อชมซุ้มดาวสิบแฉกที่ถูกตกแต่งลวดลาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าและดาราศาสตร์
Siab Bazaar
เดินต่อมาอีกไม่ไกล สู่ตลาดใหญ่ดั้งเดิม ถึงเก่าแต่สะอาดสะอ้าน แต่ละโซนจะถูกแยกอย่างชัดเจน โซนหัตถกรรมเสื้อผ้า โซนอาหาร ถั่ว เครื่องเทศท้องถิ่น ผักดอง ผลไม้ตามฤดูกาล รวมถึงขายของเบ็ดเตร็ด
ปล.ภายในตลาดมีร้าน Money exchange นะคะ
เวลาเปิดปิด 7:00 - 19:00
Bibi-Khanym Mosque
ติดกับ Siab bazaar คือ Amir Temur(Bibi-Khanym Mosque) มัสยิดแห่งนี้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ถือเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง โดยสามารถรองรับผู้สักการะได้ประมาณ 10,000 คน
ใช้เวลาเดินเท้าจาก Registan 15 นาที
ขอแวะเติมพลังก่อนนะคะ เมนูนี้จะเป็น Plov ข้าวอบอาหารประจำชาติของชาวอุซเบค มีเครื่องเคียงเป็นเหล่าบรรดาผักดอง พริกในจานก็ดองนะคะ กินเข้ากันกับ Shahalik(เนื้อย่าง)ดีค่ะ มื้อนี้ปิดท้ายด้วยชาเขียวร้อนๆ
Plov นิยมเสริฟในงานเทศกาลสำคัญตามธรรมเนียม นอกจากนี้คุณค่าทางอาหารก็มากเช่นกัน ด้วยส่วนประกอบเพิ่มพลังหลายชนิดคลุกเคล้ารวมกันแล้วนำไปอบ
Shah-i-Zinda
สุสานนี้มีขนาดใหญ่เหมือนพระราชวัง ถูกออกแบบสร้างขึ้นอย่างปราณีตสะท้อนถึงแก่นแท้ของศิลปะ ด้วยชื่อของสถานที่นี้หมายถึง สุสานของกษัตริย์ผู้ทรงชีวิต(The living king) สิ่งที่เพิ่มเสน่ห์ของหลุมศพด้วยการประดับโมเสคอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ชีวิตหลังความตายที่ไม่มีสิ้นสุดตามประเพณีโบราณจนถึงปัจจุบัน
เรามีสถานที่แนะนำสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกค่ะ นั่นคือ HAZRATI XIZR MOSQUE และ Shah-i-Zinda ฉากวิวเบื้องหลังทั้งสองที่ไม่ต่างกันมากนัก แต่เราชอบ Shah-i-Zinda มากกว่า ที่ที่มีหุบเขาหลุมศพล้อมรอบ เหมือนธรรมชาติกำลังเอ่ยถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
หลังพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว เราเดินกลับมาที่ Registan Square อีกครั้ง เพราะคืนนี้มีคอนเสิร์ตงานมาราธอนที่จัดขึ้นในเช้าวันพรุ่งนี้ค่ะ เป็นค่ำคืนที่ครึกครื้น พ่อแม่พาเด็กๆวิ่งเล่นลูกโป่ง นักกีฬาเตรียมตัวกันที่จุด Start ขณะที่อีกกลุ่มจับจองหาที่นั่งที่ยืนฟังวงดนตรีท่ามกลางอากาศหนาว บรรยากาศดีๆก็เพลินไปอีกแบบ
Early November in Uzbekistan | อุซเบกิซสถาน
อุซเบกิสถาน เป็นประเทศในแถบเอเชียกลาง ส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมโบราณอันโด่งดัง เราเดินทางช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวค่ะ
ซึ่งต้นเดือนพฤศจิกายนจะมีอากาศที่ค่อนข้างแห้ง ลมเย็น เปิดดูอุณหภูมิตอนกลางคืนอยู่ช่วง 6-8 องศา ถ้าเป็นกลางวันจะอุ่นขึ้นมาหน่อย คือช่วง 18-20 องศา
แผนการเดินทาง (Itinerary) : เราแพลนทริปนี้ไว้แบบหลวมๆ ค่ำเมืองไหนนอนเมืองนั้น เริ่มต้นประเทศแรกที่อุซเบกิสถาน นั่งบัสต่อไปคีร์กีซสถาน และนั่งบัสต่อไปปิดทริปที่คาซัคสถานค่ะ
แนะนำโหลด App Yandex Go (สำหรับเรียก Taxi หรือสั่งอาหาร) กับ App 2GIS (แผนที่บอกการเดินทางทั้งรถยนต์ และรถสาธารณะ ใช้ตอนแรกไม่ค่อยถนัดเพราะเสริชภาษาอังกฤษ มันจะแปลออกมาเป็นภาษารัสเซียแทน แต่ใช้แอพนี้ในประเทศนี้จะละเอียดกว่า Google maps ปักหมุดให้ถูกนะคะ)
[ ข้อมูลสำหรับการเดินทาง ]
ภาษา (Languages) : Uzbek , Russian ส่วนภาษาอังกฤษจะใช้ในแหล่งท่องเที่ยวหรือเมืองใหญ่ๆ
วีซ่า (Visa) : สมัครขอ E-Visa อุซเบกิซสถาน ที่นี่ https://e-visa.gov.uz/main
1.กรอกข้อมูล Citizenship , เลือก Entry type แบบ Single entry 20 USD , Double entry 35 USD , Multiply 50 USD
2.เลือก Arrival date กับ Departure date
3.กรอกข้อมูลส่วนตัว กรอกข้อมูลที่พักในอุซเบกิซสถาน
4.(นานที่สุด) ตรงขั้นตอนแนบไฟล์ภาพถ่ายและพาสปอร์ต ต้องปรับภาพให้ได้ขนาด 35x45 mm size , 300 dpi , นามสกุล .jpg เท่านั้น
เราลองใช้บริการปรับภาพของ visafoto.com 1 ใบ (เสริช google ว่า “photo visa uzbe” ก็เจอเลย) ใบละ 250 บาท จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ใครไม่เก่งปรับภาพลองใช้เงินแก้ปัญหาดูค่ะ
5.Activation แสดงข้อมูลที่กรอกไปก่อนหน้านี้ เมื่อกรอก Email ด้านล่างสุด จะมี Code ส่งไปให้
6.Copy Code ยาวๆที่ได้รับทางเมล์มากรอกแถบ Payment เพื่อจ่ายเงิน
(ขั้นตอนพิจารณาวีซ่า 3 วันทำการ)
สกุลเงิน (Currency) : UZB Sum (1 บาท ประมาณ 368 Sum) ค่าเงินถูกมาก
Time Zone : ช้ากว่าไทย 2 ชม.
ขาไป เราเดินทางกับ Uzbekistan Airways ค่ะ เป็น Direct flight Bangkok ไปยัง Tashkent ตอนเช็คอิน Ground staff ไทยน่ารักมาก ถามให้เลือกที่นั่งก่อนเลย เราเลือกริมหน้าต่าง เพราะ 2-3 ชม.ก่อนเครื่อง Landing จะได้ชมแนวเทือกเขา Pamir และเทือกเขา Hindu kush อย่างเต็มอิ่ม
เส้นทางสายไหมโบราณ หรือ Silk Road ในอดีตมีความสำคัญเรื่องการค้าระหว่างจีน ยุโรปและเอเชียกลาง เมืองที่พาดผ่าน ได้แก่เมืองหลวง Tashkent , Samarkand , Bukhara และ Khiva
เช้ามืดอากาศ 8 องศา วันนี้ตื่นตั้งแต่ตีห้า เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงจาก Tashkent ไป Samarkand ค่ะ จากที่พักไปสถานีรถไฟใช้เวลา 5 นาทีโดย Taxi ราคา 15000 sum(40 บาท)
Tashkent Railway station มี 3 แห่ง
1.สถานีหลัก Central Railway Station ให้บริการรถไฟความเร็วสูง Afrosiyob ไปยัง Samarkand, Bukhara และ Khiva
2.South Station(ติดกับสนามบิน) ให้บริการรถไฟไปยังเมืองทางตอนใต้และตะวันตกของประเทศ เช่น Termez
3.North Station เป็นสถานีที่ใช้ขนส่งสินค้าเป็นหลัก
จองตั๋วรถไฟความเร็วสูงออนไลน์ที่นี่ www.eticket.railway.uz/en/home ตั๋วรอบเวลาดีๆเต็มเร็วมาก ส่วนเรารอลุ้นจองตั๋วหลุดช่วงใกล้วันเดินทาง ปรากฎว่าโชคดีเจอหลุดมา 2 ที่นั่ง เพราะระบบที่นี่สามารถคืนตั๋วก่อนรถไฟออก 1 ชม. ทำให้เห็นว่าบางรอบรถไฟที่เคยเต็มแล้ว จะมีที่ว่างโผล่มาเรื่อยๆ
และระยะเวลาเดินทางแต่ละรอบรถไฟก็ต่างกัน บางรอบ 2:30 ชม. 3:30 ชม. จนถึง 4 ชม.ก็มีค่ะ
SAMARKAND
เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย Unesco ในปี ค.ศ. 2001
จากที่พักเดินไป Registan Square ใช้เวลา 10 นาที มีซุ้มขายกาแฟ เครื่องดื่มตั้งอยู่หลายร้าน ช่วงนี้ตามทางเดินจะเห็นใบไม้ร่วงหล่น ต้นไม้เหลืองอร่ามตลอดสองข้างทาง
ที่นี่คือจุดศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเมือง Samarkand ในภาษา Uzbek แปลความหมาย Registan คือทะเลทราย ในยุคก่อนจตุรัสนี้ถูกปกคลุมไปด้วยทราย ต่อมามีการสร้างอาคารทั้งหมด 3 หลังได้แก่ Madrasah of Ulugh Beg , Sher-Dor Madrasah และ Tillya-Kori Madrasah ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนา ความอลังการของแต่ละอาคารถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีสันสดใส
(Tillya-Kori Madrasah)
อาคารนี้ถูกสร้างหลังสุด โดยสร้างหลังอาคาร Sher-Dor Madrassah ถึง 10 ปี เพื่อความสมบูรณ์แบบในทางสถาปัตยกรรม
Tilla-Kori หมายถึงการปิดทอง ได้จากการตกแต่งลงสีจากทองเป็นหลัก และยังสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน
เวลาทำการ : Peak season 7:00 to 00:00 am.
Non-season 08:00 to 8:00 pm.
ราคาตั๋วผู้ใหญ่ 65,000 UZS(177 บาท) เด็ก 35,000 UZS(95 บาท) รับเงินสด และบัตรเครดิต(คิดค่า Service charge fee)
ปล.กรณีจ้างช่างภาพ ต้องเสียเพิ่มอีกนะคะ (ระบุว่า Taking photos and videos of the architectural objects 35,000 UZS)
และในทุกวันช่วง 18:00 น. มีการแสดงที่ชื่อ "The Secret of the Five-Century Bracelet" หรือเรียกว่า FOLKLORE THEATER บริเวณหน้า Registan ให้เราได้ชมพิธีแต่งงานแบบดั้งเดิม การละเล่น การเต้นรำ และบทเพลง พร้อมด้วยการแสดงจากโรงละครหุ่นเชิดพื้นบ้าน
(ด้านหน้า Sher-Dor Madrasah)
อาคารหลังนี้ถูกออกแบบให้สะท้อนภาพของ Madrasah of Ulugh Beg ฝั่งตรงข้ามที่มีอยู่เดิมอย่างสมมาตร แต่ครั้งนึงอาคารเกิดทรุดตัวลง และถูกสร้างขึ้นมาใหม่สูงกว่าเดิม
Sher-Dor มีความหมายว่า “ตกแต่งด้วยเสือ” มาจากภาพวาดเสือโคร่งทองขนาดใหญ่สองตัวแบกดวงอาทิตย์ไว้บนหลังที่กำลังไล่ตามกวางดาวสีขาวประดับประดาทางเข้าซุ้มประตู ต่อมาภาพนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของอุซเบกิสถาน
(Madrasah of Ulugh Beg)
อาคารหลังแรกของจตุรัส ก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1420 โดยคำสั่งของท่าน Ulugh Beg รัชทายาทแห่งราชวงศ์ Temurids ซึ่งเป็นทั้งนักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์
ภายนอกตกแต่งด้วยหอคอยสูงสองมุม ภายในจะเป็นลานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีทางเข้าไปยังห้องพักและห้องเรียนของนักเรียนประมาณ 100 ห้อง
เดินเข้าไปภายในอาคารเพื่อชมซุ้มดาวสิบแฉกที่ถูกตกแต่งลวดลาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของท้องฟ้าและดาราศาสตร์
Siab Bazaar
เดินต่อมาอีกไม่ไกล สู่ตลาดใหญ่ดั้งเดิม ถึงเก่าแต่สะอาดสะอ้าน แต่ละโซนจะถูกแยกอย่างชัดเจน โซนหัตถกรรมเสื้อผ้า โซนอาหาร ถั่ว เครื่องเทศท้องถิ่น ผักดอง ผลไม้ตามฤดูกาล รวมถึงขายของเบ็ดเตร็ด
ปล.ภายในตลาดมีร้าน Money exchange นะคะ
เวลาเปิดปิด 7:00 - 19:00
Bibi-Khanym Mosque
ติดกับ Siab bazaar คือ Amir Temur(Bibi-Khanym Mosque) มัสยิดแห่งนี้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ถือเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง โดยสามารถรองรับผู้สักการะได้ประมาณ 10,000 คน
ใช้เวลาเดินเท้าจาก Registan 15 นาที
ขอแวะเติมพลังก่อนนะคะ เมนูนี้จะเป็น Plov ข้าวอบอาหารประจำชาติของชาวอุซเบค มีเครื่องเคียงเป็นเหล่าบรรดาผักดอง พริกในจานก็ดองนะคะ กินเข้ากันกับ Shahalik(เนื้อย่าง)ดีค่ะ มื้อนี้ปิดท้ายด้วยชาเขียวร้อนๆ
Plov นิยมเสริฟในงานเทศกาลสำคัญตามธรรมเนียม นอกจากนี้คุณค่าทางอาหารก็มากเช่นกัน ด้วยส่วนประกอบเพิ่มพลังหลายชนิดคลุกเคล้ารวมกันแล้วนำไปอบ
Shah-i-Zinda
สุสานนี้มีขนาดใหญ่เหมือนพระราชวัง ถูกออกแบบสร้างขึ้นอย่างปราณีตสะท้อนถึงแก่นแท้ของศิลปะ ด้วยชื่อของสถานที่นี้หมายถึง สุสานของกษัตริย์ผู้ทรงชีวิต(The living king) สิ่งที่เพิ่มเสน่ห์ของหลุมศพด้วยการประดับโมเสคอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ชีวิตหลังความตายที่ไม่มีสิ้นสุดตามประเพณีโบราณจนถึงปัจจุบัน
เรามีสถานที่แนะนำสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกค่ะ นั่นคือ HAZRATI XIZR MOSQUE และ Shah-i-Zinda ฉากวิวเบื้องหลังทั้งสองที่ไม่ต่างกันมากนัก แต่เราชอบ Shah-i-Zinda มากกว่า ที่ที่มีหุบเขาหลุมศพล้อมรอบ เหมือนธรรมชาติกำลังเอ่ยถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
หลังพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว เราเดินกลับมาที่ Registan Square อีกครั้ง เพราะคืนนี้มีคอนเสิร์ตงานมาราธอนที่จัดขึ้นในเช้าวันพรุ่งนี้ค่ะ เป็นค่ำคืนที่ครึกครื้น พ่อแม่พาเด็กๆวิ่งเล่นลูกโป่ง นักกีฬาเตรียมตัวกันที่จุด Start ขณะที่อีกกลุ่มจับจองหาที่นั่งที่ยืนฟังวงดนตรีท่ามกลางอากาศหนาว บรรยากาศดีๆก็เพลินไปอีกแบบ