💯💖 “หนึ่งในร้อย” 💯📌 ครบถ้วน เต็มเปี่ยม สมกับที่จบบริบูรณ์ ไม่มีที่ติ ดีจนตอนสุดท้าย ยกให้เป็นหนึ่งในใจของปี 2567




💯💖 “หนึ่งในร้อย” 💯📌 ครบถ้วน เต็มเปี่ยม สมกับที่จบบริบูรณ์ ไม่มีที่ติ ดีจนตอนสุดท้าย ยกให้เป็นหนึ่งในใจของปี 2567







#หนึ่งในร้อยep19 

ทันทีที่ภาพสุดท้ายขัน ฉันนี้น้ำตาไหล ปลื้มปิติ ยินดีไปกับคุณพระ อนงค์ และครอบครัวทุกคน และใช่...ต้องยอมรับว่า ในที่สุด ฉันก็หลุดออกจากคำสาปแม่มดทองคำที่ครอบงำหัวใจฉันมานาน ประหนึ่งได้เดินมาสุดถนนในดินแดนเวทมนต์ ยืนอยู่ปลายทางที่เบื้องหน้าคือความงดงาม และฉันตะโกนออกมาสุดเสียง ในที่สุดละครค่ายนี้ก็จบสวยงามได้แล้ว(โว้ยยยยยย)

ไม่ใช่แค่ดีนะ นี่คือของดีมาก ดีจนไม่รู้สึกว่ามีข้อติเลย คือถ้าในมุมส่วนตัวหนึ่งในร้อยคือละคนที่สมบูรณ์ในทุกๆ มิติ อย่างที่เคยได้เขียนชมและบอกเล่าถึงมาหลายครั้งแล้ว

ในตอนนี้เรื่องราวไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร ประเด็นเรื่องหน้าที่การงานอะไรต่างๆ มันถูกอัดเต็มที่ไปแล้วในตอนก่อนหน้า เปิดมาก็สรุปคดีเลย จากนั้นก็เข้าสู่การเคลียร์ในกัน ทีละคน ทีละคน ที่ดีคือการที่ตามเก็บประเด็นต่างๆ ได้เต็มอิ่ม จนคนดูอย่างเราไม่ได้รู้สึกว่าติดค้างประเด็นไหน อาจจะมีบ้างเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้ามไป แต่ส่วนใหญ่ก็จบลงด้วยดีทั้งหมด

และบอกกล่าวหลายครั้งแล้วว่า นี่เป็นงานที่คนทำใส่ใจว่าคนดูต้องการอะไร เราอยากดูเรื่องสอบสวนรึ? เปล่า ที่เราดูเพราะรักอนงค์ ปลื้มคุณพระ และมีความสุขกับการได้เห็นแต่ละคนที่อยู่ในครอบครัว นั่น คือ สิ่งสำคัญ และก็ไม่ผิดหวัง คนทำละครเลือกเอาสิ่งที่คนดูอยากดูมามอบให้ โดยใส่สาระแก่นสารเพิ่มเติมเข้าไป อย่างพลังหญิง และการใช้ชีวิตที่ต้องเปิดกว้างปรับเปลี่ยน เราได้คิดไปพร้อมกับได้ยิ้ม ได้สนุกไปพร้อมกับสาระ และได้เรียนรู้ไปพร้อมกับความรัก

มันจะมีสักกี่เรื่องที่คนแซะกันว่ามีแต่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่ดูแล้วได้เรียนรู้วิธีคิด การมองโลก และเคารพคนที่ความดีงาม เท่าที่นึก...มีน้อยเต็มที

อีกสิ่งที่ต้องชมอย่างจริงจังเป็นการเป็นงานเลย คือการวางรายละเอียดแต่ละสิ่งอย่าง ค่อยๆ เชื่อมโยงเข้ากัน และเลือกหยิบมาปิดท้ายลงอย่าง สวยงาม

เช่นประเด็นเพื่อนพี่ชายคนโตของอนงค์ กับ เพื่อนชาย การเลือกมาปิดตัวละครนี้ ได้ผลเรื่องของกระแสชายรักชายก็ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องหลักใหญ่ก็คือ มันทำให้คนดูอย่างเราเติมเต็ม การได้เห็นคนที่รอ ที่พลาด ได้กลับมามีโอกาสที่จะมีความสุขอีกครั้ง เป็นเรื่องชวนยิ้ม และทำให้เห็นความใส่ใจของคุณพระที่เห็นใจคนอื่นทุกรายละเอียด

และหากยังไม่เห็นถึงความเก่งกาจของผู้สร้าง จะยกตัวอย่างอีกฉากหนึ่งที่...คิดมาดี ตั้งแต่ต้น เราจะเห็นคุณพระถือกล้องถ่ายรูปบ่อยๆ แล้วกล้องนี้ก็จะไปอยู่ในหลายๆ ช่วง หลายสถานที่ หลายคนถือ หลายคนถ่าย

แล้วในที่สุด ในตอนท้ายของตอนจบนี้ คุณพระก็พาอนงค์ไปห้องมืด(ห้องสีแดงที่ไว้ล้างฟิล์ม) เป็นการใส่องค์ประกอบของความโรแมนติก ลึกลับนิดๆ และมีสีสันที่ให้ความรู้สึกลึกไปอีกขั้น คือจริงๆ ใจความของฉากนี้มันคือ "ทั้งสองคนดูรูปถ่ายเก่าๆ แล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมา" ใช่มันคือการประมวลภาพที่ผ่านมาของละคร คือถ้าเป็นเรื่องอื่นก็คงนั่งดูเปิดรูปดูแล้วคุยกันตรงโซฟา...แต่หนึ่งในร้อยนี่ ไม่ใช่จ้า ฉันวางเอาไว้ตั้งแต่ตอนแรกๆ จ้า

มันคือความละเอียดอ่อน คิดมาดี มีความสุขในสิ่งที่ทำ รู้ได้เลยว่าคนทำมีความสุขอยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่ขยันคิดขยันทำขนาดนี้หรอก และอยากจะบอกไปถึงคนที่เกี่ยวข้องตรงนี้เลยว่า พวกเราก็รักงานของคุณ ขอบคุณที่เต็มที่และทำละครดีๆ ที่สนุก น่ารัก ยิ้มได้ตลอดเวลาที่ดู ยิ้มไป ยิ้มมา บิดม้วนจนตัวจะขาดแล้ว

ยกให้เป็นละคร โรแมนติก-ดราม่า ที่ดีที่สุดของปีเลย ดีจริงๆ ดีไปหมด จะว่าอวยก็ใช่แหละ แต่มันดีจริงๆ นะคู๊ณณณณณณ
และจากนี้ไป...คงรู้สึกเบาหวิวเหลือทน เมื่อวันพุธ พฤหัส ไม่มีอนงค์กับคุณพระแล้ว

ปล.ถ้าทำได้ขอเวอร์ชั่น Uncut เถอะนะคะคุณ จะตอนเอามารีรัน หรือลงไปแอพ 3+ ก็ได้ สัญญาว่าจะเข้าไปดู เพราะทุกวันนี้ก็เปิดดูใน Netflix จนม้วนเทปจะยานหมดแล้ว... (อุ้ย ม้วนเทป) ขอเถอะนะ กราบที่ตักท่านผู้บริหาร

#หนึ่งในร้อย #หนึ่งในร้อยตอนจบ
 
https://www.facebook.com/share/1ArdMYyW5z/?mibextid=WC7FNe


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่