การขึ้นรูปใบมีดด้วยความร้อนหรือการตีเหล็ก คือการเผาเหล็กให้ร้อนได้อุณฟภูมิที่เหมาะสมแล้วก็ตีด้วยค้อน เป็นการสร้างชิ้นงานด้วยวิธีโบราณที่เรายังใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้
การฟรอจก์ทูเชพน่ะเป็นยังไง
คืออยากให้ใบมีดออกมายังไงก็ตีไปอย่างนั้นเลยครับ เป็นวิชาหรือบทเรียนหลักๆของABS หรือสมาคมช่างตีเหล็กอเมริกัน คือตีให้มากตัดแต่งหรือปาดเจียรให้น้อย อธิบายด้วยภาพประกอบจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ในวีดีโอนี้จะตีขึ้นรูปใบมีดแบบบาติย่า ด้วยเหล็ก SUP9 ขนาด 6 x 50 มิลล์และยาว 9 นิ้ว เป้าหมายคือแผ่นใบมีดที่ยาว 13 1/2 - 14 นิ้ว ถ้าเราขึ้นรูปด้วยการตัดแต่งไม่ไปไม่ถึงแน่ หรือตีขึ้นรูปแบบง่ายก็ไม่ยาวขนาดนั้น มันต้องตีฟรอจก์ทูเชพ คือตีไล่เนื้อทั้งหมดของเหล็กให้ไหลไปตามรูปทรง
งานหลักของการตีใบมีดแบบนี้เลยคือการรวมปลายใบมีดเพื่อให้ได้ใบมีดที่มีความเหนียวมากกว่าการทำปลายแบบวิธีตัดแต่ง สิ่งที่ต้องคำนึงให้มากคืออุณหภูมิในการตี คือกินไฟให้เหมาะสมทั้งอุณหภูมิและเวลา ตีให้เหมาะสมรู้ว่าตอนไหนควรตีและตอนไหนควรหยุดตี รู้ว่าเอาเหล็กเข้าเผาตอนไหนและเมื่อไหร่ควรจะดึงออกมาตี
ตีปลายเสร็จแล้วก็ตีช่วงเอวหรือคอด้ามโคนใบ ซึ่งตามแบบมันเว้าคอดเข้าไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงหน้ามีดหรือกลางใบ ส่วนนี้ตีไม่ยากแต่ค่อนข้างเหนื่อยหรือตีหนักถ้าตีไม่หนักมันไม่ลงและไม่ยืดออกมา ถ้าตีแบบพะเนินคือมีคนถือคนนึงและคนตีอีกคนก็จะบรรเทาเรื่องพละกำลังและเวลาไปได้มาก
เล่มนี้นอกจากตีขึ้นรูปแบบปรกติแล้วยังต้องตีให้เป็นยาคุตคือเป็นซิงเกิ้ลบีเวลและตีหลุมที่ใบมีดด้านนึง มันจะมีกรรมวิธีเฉพาะของการสร้างใบมีดแบบนี้ คือทำใบมีดให้รับหรือกระจายแรงดันขณะขั้นตอนของการชุบแข็ง คือถ้าตีใบมีดไม่ถูกต้องมันจะคดเวลาจุ่มลดอุณหภูมิ มีดแบบนี้มีซ้ายมีขวาและมีลักษณะเฉพาะของการใช้งาน มีดญี่ปุ่นกับมีดไซบีเรียเป็นซิงเกิ้ลบีเวลไม่เหมือนกัน คือการใช้งานเค้าใช้คนละแบบเลยออกแบบมีดให้เข้ากับรูปแบบของการตัด
แม้แต่มีดของไซบีเรียเองมีดแต่ละแบบยังหันกันไปคนละด้าน อธิบายให้ฟังเข้าใจง่ายๆ ถ้าเป็นมีดมือขวาคือคนใช้งานถนัดขวา มีดเล็กเค้าจะตั้งด้านองศาไว้ด้านในเอาด้านแบนหรือด้านหลุมไว้ด้านนอก แต่ถ้าเป็นมีดตัดขนาดใหญ่หรือมีดฟันไม้เค้าจะตั้งด้านองศาไว้ด้านนอกและเอาด้านเรียบหรือด้านหลุมไว้ข้างใน
ซับซ้อนขนาดนั้น ละเอียดขนาดนั้น ซาบซึ้งตรึงใจอะไรขนาดนั้น
เป็นหนึ่งในอารยธรรมมีดชั้นสูงที่ได้รับการยกย่องหรือแม้แต่การรับรู้จากสังคมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากรูปร่างและการเรียวหรือการตั้งองศาของใบมีดก็เป็นอีกเรื่องหลักๆของการตีฟรอจก์ทูเชฟ คือนอกจากจะได้รูปร่างบนล่างแล้ว ส่วนแนวคมที่จะต้องเรียวหรือบางลงไปตามหลักจีโอมิตรีของใบมีดเราก็สร้างหรือควบคุมด้วยการตี ในจุดนี้นอกจากการจัดรูปร่างให้เหมือนคมมีดแล้วเรายังควบคุมไปถึงความหนาแน่นของเนื้อเหล็ก ความหนาแน่นของปริมาณคาร์บอนต่อปริมาตรและขนาดของเกรนเหล็ก
ใบมีดที่สร้างด้วยวิธีนี้จัดว่าเป็นของดีแต่มันก็ทำได้ยากอยู่นะครับ เท่าที่ดูหลังๆมาหรือยุคนี้คนที่ทำแบบนี้จริงๆเหลือไม่มากแล้ว ส่วนใหญ่จะตีน้อยกว่านี้หรือใช้การตัดแต่งเข้าช่วยเพื่อให้งานน้อยลง แต่สำหรับความคิดส่วนตัวของผมใบมีดของเหล็กร้อนและงานร้อนที่คุณสมบัติสูงสุดยังคงต้องใช้วิธีนี้ในการสร้างมันขึ้นมา
Forged to shape ฟรอจก์ทูเชพ การตีขึ้นรูป หรือตีให้ใกล้เคียงกับรูปทรงใบมีดที่สุด
การฟรอจก์ทูเชพน่ะเป็นยังไง
คืออยากให้ใบมีดออกมายังไงก็ตีไปอย่างนั้นเลยครับ เป็นวิชาหรือบทเรียนหลักๆของABS หรือสมาคมช่างตีเหล็กอเมริกัน คือตีให้มากตัดแต่งหรือปาดเจียรให้น้อย อธิบายด้วยภาพประกอบจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ในวีดีโอนี้จะตีขึ้นรูปใบมีดแบบบาติย่า ด้วยเหล็ก SUP9 ขนาด 6 x 50 มิลล์และยาว 9 นิ้ว เป้าหมายคือแผ่นใบมีดที่ยาว 13 1/2 - 14 นิ้ว ถ้าเราขึ้นรูปด้วยการตัดแต่งไม่ไปไม่ถึงแน่ หรือตีขึ้นรูปแบบง่ายก็ไม่ยาวขนาดนั้น มันต้องตีฟรอจก์ทูเชพ คือตีไล่เนื้อทั้งหมดของเหล็กให้ไหลไปตามรูปทรง
งานหลักของการตีใบมีดแบบนี้เลยคือการรวมปลายใบมีดเพื่อให้ได้ใบมีดที่มีความเหนียวมากกว่าการทำปลายแบบวิธีตัดแต่ง สิ่งที่ต้องคำนึงให้มากคืออุณหภูมิในการตี คือกินไฟให้เหมาะสมทั้งอุณหภูมิและเวลา ตีให้เหมาะสมรู้ว่าตอนไหนควรตีและตอนไหนควรหยุดตี รู้ว่าเอาเหล็กเข้าเผาตอนไหนและเมื่อไหร่ควรจะดึงออกมาตี
ตีปลายเสร็จแล้วก็ตีช่วงเอวหรือคอด้ามโคนใบ ซึ่งตามแบบมันเว้าคอดเข้าไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงหน้ามีดหรือกลางใบ ส่วนนี้ตีไม่ยากแต่ค่อนข้างเหนื่อยหรือตีหนักถ้าตีไม่หนักมันไม่ลงและไม่ยืดออกมา ถ้าตีแบบพะเนินคือมีคนถือคนนึงและคนตีอีกคนก็จะบรรเทาเรื่องพละกำลังและเวลาไปได้มาก
เล่มนี้นอกจากตีขึ้นรูปแบบปรกติแล้วยังต้องตีให้เป็นยาคุตคือเป็นซิงเกิ้ลบีเวลและตีหลุมที่ใบมีดด้านนึง มันจะมีกรรมวิธีเฉพาะของการสร้างใบมีดแบบนี้ คือทำใบมีดให้รับหรือกระจายแรงดันขณะขั้นตอนของการชุบแข็ง คือถ้าตีใบมีดไม่ถูกต้องมันจะคดเวลาจุ่มลดอุณหภูมิ มีดแบบนี้มีซ้ายมีขวาและมีลักษณะเฉพาะของการใช้งาน มีดญี่ปุ่นกับมีดไซบีเรียเป็นซิงเกิ้ลบีเวลไม่เหมือนกัน คือการใช้งานเค้าใช้คนละแบบเลยออกแบบมีดให้เข้ากับรูปแบบของการตัด
แม้แต่มีดของไซบีเรียเองมีดแต่ละแบบยังหันกันไปคนละด้าน อธิบายให้ฟังเข้าใจง่ายๆ ถ้าเป็นมีดมือขวาคือคนใช้งานถนัดขวา มีดเล็กเค้าจะตั้งด้านองศาไว้ด้านในเอาด้านแบนหรือด้านหลุมไว้ด้านนอก แต่ถ้าเป็นมีดตัดขนาดใหญ่หรือมีดฟันไม้เค้าจะตั้งด้านองศาไว้ด้านนอกและเอาด้านเรียบหรือด้านหลุมไว้ข้างใน
ซับซ้อนขนาดนั้น ละเอียดขนาดนั้น ซาบซึ้งตรึงใจอะไรขนาดนั้น
เป็นหนึ่งในอารยธรรมมีดชั้นสูงที่ได้รับการยกย่องหรือแม้แต่การรับรู้จากสังคมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากรูปร่างและการเรียวหรือการตั้งองศาของใบมีดก็เป็นอีกเรื่องหลักๆของการตีฟรอจก์ทูเชฟ คือนอกจากจะได้รูปร่างบนล่างแล้ว ส่วนแนวคมที่จะต้องเรียวหรือบางลงไปตามหลักจีโอมิตรีของใบมีดเราก็สร้างหรือควบคุมด้วยการตี ในจุดนี้นอกจากการจัดรูปร่างให้เหมือนคมมีดแล้วเรายังควบคุมไปถึงความหนาแน่นของเนื้อเหล็ก ความหนาแน่นของปริมาณคาร์บอนต่อปริมาตรและขนาดของเกรนเหล็ก
ใบมีดที่สร้างด้วยวิธีนี้จัดว่าเป็นของดีแต่มันก็ทำได้ยากอยู่นะครับ เท่าที่ดูหลังๆมาหรือยุคนี้คนที่ทำแบบนี้จริงๆเหลือไม่มากแล้ว ส่วนใหญ่จะตีน้อยกว่านี้หรือใช้การตัดแต่งเข้าช่วยเพื่อให้งานน้อยลง แต่สำหรับความคิดส่วนตัวของผมใบมีดของเหล็กร้อนและงานร้อนที่คุณสมบัติสูงสุดยังคงต้องใช้วิธีนี้ในการสร้างมันขึ้นมา