ผมนักศึกษา ปีที่ 1 คับ เป็นเด็กกรุงเทพอยู่บ้าน ไม่ใช่เด็กหอครับ ผมมีปัญหากับแม่บ่อยตรงที่ว่าไม่เห็นด้วยกับการที่ผมจะออกไปไหนคนเดียวเขาติดผมมากๆ บอกเสมอว่าผมไม่เข้าใจความรู้สึกแม่หรอกคำว่าเป็นหัวแก้วหัวแหวนของแม่มันเป็นห่วงแค่ไหน แค่มีวันหนึ่ง ผมอยู่ ปวส. แล้วปกตินั่งติดรถแม่ไปส่งวิทยาลัยแต่วันนั้นเขาไม่ว่าง ผมเลยบอกจะนั่งรถไปเองครับแต่กับกลายเป็นป้าพี่สาวแม่กับนั่งไปกับผมด้วยโดยบอกผมว่าเขาจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลพอดี แต่ผมมารู้ที่หลังว่าทั้งหมดโกหกจริงๆแล้วแม่บอกให้ป้าลางานเพื่อมาส่งผมในตอนเช้า ผมนี่อึ้งไปแล้วครับว่ามันต้องขนาดนี้เลยเหรอ? ตอนนี้ผมปี 1 เป็นนักศึกษาภาคต่อเนื่องแบบ 2 ปีจบ ก็เทียบได้กับอายุเทียบกับปี 3 ครับ ผมมีเพื่อนรอบตัวอยู่หอเยอะแต่ก็เป็นคนที่ตั้งใจเรียนติวกันมากกว่า บางเวลาก็มีไปเที่ยวหรือ ไปหาของกินบ้าง แต่ส่วนใหญ่ผมไปไม่ได้เพราะเพื่อนชอบกินกันช่วงเย็นๆแต่ผมต้องรีบกลับบ้านเพราะได้โดยแม่บอกว่าอยู่ดึกมันไม่ดี ผมเคยพูดเกรินๆกับแม่ว่าจบอยากออกไปหาเงินที่ตัวเองอยากลองทำ ซึ่งมันอาจจะไม่ใกล้บ้านจนไปกลับได้ทันทีคนแม่ตอบมาว่า จะทิ้งกูใช่ไหม คือผมสงสัยครับแค่การออกไปใช้ชีวิตหรือไม่อยู่กับที่บ้านตลอดเวลา
มันคือการเราทอดทิ้งคนในครอบครัวเหรอครับ? ทำไมเพื่อนผมบางคนไม่อยู่หอสามารถเรียนได้ดี ความคิดดี มีอิสระเวลา ไปไหนหรืออยู่กับแฟนหรือใคร ทำไมผมถึงไม่สามารถทำแบบทุกๆคนได้ ผมรู้สึกเครียด อึดอัด พยายามเรียนดีเพื่อให้ทุกคนยอมรับว่าเราก็มีความรับผิดชอบ
อยากจะให้พี่ๆทุกคนช่วยแนะนำผมหน่อยว่าผมควรที่พัฒนาตัวเองไปยังไง ผมอยากมีเซฟโซนของตัวเองสักนิดก็ยังดี แล้วผมจะพูดกับแม่ที่ติดผมยังไงให้เข้าใจแล้วเราไม่ทะเลาะกัน บอกก่อนผมไม่เคยเกลียดหรือโกรธแม่นะครับผมแค่อยากที่จะลองทำตัวเองในแบบที่อยากเป็น ถึงผมออกไปใช่เวลาผมจะไม่มาหาสักหน่อยครอบครัวยังไงก็เป็นครอบครัวอยู่ดีครับ
ทำยังไงจะหลุดออกจากกรอบ คำว่า หัวแก้วหัวแหวนของครอบครัวครับ?