แฝดสวรรค์ผู้สถิตนิรันดร์บนฟากฟ้า : Castor and Pollux

สำหรับใครที่มาชมบทความของผมเป็นครั้งแรกหรือครั้งแรกๆ แนะนำให้ไปชมพิพิธภัณฑ์คาปิโตลิเน ซึ่งได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว

อันที่จริงยังมีอะไรต่อมิอะไรให้ได้ดูที่พิพิธภัณฑ์คาปิโตลิเนอีกเยอะนะ อย่างเช่น สิ่งของที่ได้มาจากสุสาน ที่บ่งบอกชีวิตของชาวโรมันไว้หลากหลายคน ลงไปดูชั้นใต้ดินแล้วเห็นภาพของเมืองที่มีชีวิตชีวาเปี่ยมด้วยเรื่องราวสุขทุกข์ของมนุษย์เมื่อช่วงหลายพันปีมาแล้ว เรารู้เรื่องพวกเขาจากจารึกต่างๆ และบางทีก็มาจากจากหลุมฝังศพของพวกเขาเหล่านั้น ถูกหยิบยกมาเล่าขานให้เราได้ทราบกันจนถึงวันนี้

ในที่สุดเราก็มาพบกับจักรพรรดิมาร์กุส เอาเรลิอุส อีกครา ก็ต้องขอลาพระองค์ไว้ตรงนี้ แต่คราวนี้เราจะกลับออกไปอีกทิศหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ได้เห็นประติมากรรมบุรุษขี่ม้าคู่หนึ่งเฝ้าบันไดทางลงไป แลดูอ่อนเยาว์และช่างน่าสงสัยว่าลูกใครหนอช่างชวนให้รู้จัก

Castor และ Pollux อยู่คนละข้างของบันได แต่ใครคือ Castor ใครคือ Pollux คนเขียนก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ

พ่อหนุ่มสองคนนี้มีนามกรว่าคาสเตอร์ (Castor) และพอลลักซ์ (Pollux) ฟังดูอาจไม่ค่อยคุ้นเคย แต่อันที่จริงพวกเราส่วนใหญ่คงได้รู้จักพวกเขาแล้วแต่อาจไม่ค่อยคุ้นชื่อ ทั้งสองเป็นบุตรชายของพระนางลีดา (Leda) ราชินีของพระเจ้าทินดารูส (Tyndareus) กษัตริย์แคว้นสปาร์ตาของกรีก ซึ่งนอกจากจะมีบุตรชายคือพี่น้องนี่แล้ว ก็ยังมีลูกคนอื่นๆอีก และที่สำคัญคือบุตรีนามว่าเฮเลน

หลายคนคงรู้สึกคุ้น ๆ นะ

ถ้าคุณคิดถึง เฮเลนแห่งทรอย ละก็ ขอบอกว่าใช่เลย เฮเลนคนนี้แหละที่จะเป็นตัวก่อเกิดสงครามมหาวินาศจนจดจำได้หลายพันปีต่อมา ทว่าตอนนี้เราจะไม่ได้เล่าเรื่องนั้น เอาละมาโฟกัสที่สองหนุ่มกันต่อ ขอบอกว่าจริงๆแล้วพี่น้องสองคนนั้น ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ เพราะมีแม่เดียวกันแต่เต่างพ่อ ในขณะคาสเตอร์เป็นบุตรที่เกิดจากกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ แต่พอลลักซ์เกิดจากเทพเจ้าซีอุสซึ่งปลอมตัวอวตารลงมาเป็นหงส์แล้วแอบสมสู่กับนางลีดาจนได้ตัวตนคนนี้ออกมาแหละ


ลีดากับหงส์ ในงานประติมากรรมกรีกโบราณ

แม้ว่าทั้งคู่มักจะถูกสร้างให้ดูเป็นฝาแฝดราวกับจะมาเหมือนกันไปทั้งหมด แต่ DNA นั้นต่างกันมาก อย่าลืมว่าพอลลักซ์นั้นเป็นบุตรของเทพเจ้าชั้นสูง ก็เลยได้คุณสมบัติล้ำค่าที่คาสเตอร์ไม่มี นั่นก็คือความเป็นอมตะที่ถูกถ่ายทอดมาจากผู้พ่อ

ทั้งคู่เป็นพี่น้องที่รักกันมากมายเรื่อยมาด้วยความผูกพันฉันท์พี่น้อง แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อดังนั้นเมื่อคราวที่เกิดเหตุวิวาทบางอย่างขึ้นทำให้คาสเตอร์ถูกสังหารลง ขณะที่กำลังจะสิ้นใจตาย พอลลักซ์จึงขอให้พ่อของเขาช่วยเหลือโดยการแบ่งปันความเป็นอมตะของเขาให้กับคาสเตอร์

ดั่งนี้ ทั้งสองจึงคงมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ และเทพซีอุสก็ได้วางตำแหน่งให้พี่น้องนี้สถิตอยู่ ณ ฟากฟ้าเบื้องบนจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น มนุษย์อย่างเราก็สามารถเฝ้ามองเขาได้ในยามราตรีในรูปของกลุ่มดาว Gemini ที่เราเรียกกันว่ากลุ่มดาวคนคู่ อันเป็นกลุ่มดาวประจำราศีเมถุนนั่นเอง

รูปหนุ่มแฝดตรงบันไดคาปิโตลิเนคู่นี้ ถูกขุดค้นในปี 1562 จากจุดที่เคยเป็นวิหารคาสเตอร์และพอลลักซ์มาแต่เดิม แต่ถ้าใครคิดว่าคู่แฝดสองคนซึ่งเป็นวัยรุ่น สัดส่วนไม่ค่อยจะสง่าผ่าเผย อยากพบเจอในเวอร์ชันที่ดูกล้าแกร่งสมชายกว่านี้ ก็มีให้เห็นได้อีกที่หนึ่งในกรุงโรม เป็นอนุสาวรีย์ข้างน้ำพุ (แต่ว่าไม่ค่อยจะมีน้ำแล้วนะ) แถวบ้านพักประธานาธิบดี 


จะเหฺ็นว่าทั้งสองเป็นคู่แฝดกำยำล่ำสัน แกร่งและกร่างวางท่าให้ท่านประธานาธิบดีได้เห็นอยู่บ่อยๆ ท่านผู้ใดเป็นชาวราศีเมถุน จะไปคารวะก็ขอเชิญนะครับ (เอาพวกมาลัย น้ำแดง ไปฝากท่านบ้างเน้อ)

แต่ถ้าใครอยากจะดูเวอร์ชันอ้อนแอ้นนุ่มนวลก็มีให้ดูด้วยนะ อย่างเช่นรูปนี้

ชิ้นนี้อยู่ที่มาดริด

ที่แวร์ซายก็มี

แถมอีกหน่อย เรื่องราวของคุณแม่ลีดาที่ได้หงส์ซีอุสมาเป็นชู้รัก ถูกนำไปใช้ทำงานศิลปะหลายชิ้นแล้ว ยกตัวอย่างมาให้ดูบางส่วน อันนี้เป็นไอคอนยอดฮิตของเทพปกรณัมกรีกอันหนึ่ง

ว่ากันว่าภาพนี้ก๊อปปี้มาจากงานของไมเคิลแองเจโลที่สูญหายไปแล้ว (แต่เราว่าไม่น่าจะใช่ เพราะดูทันสมัยเกินไปหน่อย)


ลีโอนาร์โด ดาวินชี ก็มีผลงานกะเขาด้วยเหมือนกัน


อันนี้ของเซซาน

จะเห็นได้ว่าศิลปินดัง ก็ชื่นชอบแม่นางลีดากันหลายคน และก็ยังมีอีกหลายต่อหลายคนวาดไว้จนบรรยายไม่หวาดไหว

ถ้าคุณได้ไปเห็นรูปผู้หญิงกับหงส์คู่กัน ลองดูดีๆ อาจเป็นพระนางลีดากับเทพซีอุสก็ได้นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่