ทนายจูน เปิดตัว 'Engage Thailand' องค์กรไทยในอเมริกา หวังสร้างประชาธิปไตยไทยอีกทาง
https://prachatai.com/journal/2024/11/111290
ทนายจูนเปิดตัวองค์กรสาธารณะกุศลไทยในสหรัฐอเมริกา "Engage Thailand" มุ่งเสริมสร้างประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนไทยในระดับนานาชาติ
แคมเปญแรกระดมทุนคนไทยในต่างแดนและต่างชาติ นำเงินมาสนับสนุนองค์กรในไทยที่ให้ความช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง
4 พ.ย. 2567 ทนาย
จูน ศิริกาญจน์ เจริญศิริ เปิดตัว Engage Thailand องค์กรสาธารณะกุศลไทยในสหรัฐอเมริกา ผ่านช่องทางออนไลน์ Engage Thailand จดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐอเมริกา และก่อตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนไทยจากต่างประเทศ
Engage Thailand มีเป้าหมายงาน 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาความรับรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยไทยในระดับนานาชาติ, การระดมแรงสนับสนุนคนไทยในต่างแดน และการสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรนานาชาติเพื่อหาทรัพยากรส่งต่อให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในไทย
ทนาย
จูนผู้ก่อตั้งเน้นย้ำถึงศักยภาพของคนไทยในต่าง แดน หลายคนย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่ก็ยังต้องการสนับสนุนและช่วยเหลือคนในประเทศไทย แคมเปญแรกของ Engage Thailand จึงเปิดโอกาสให้คนไทยในต่างแดนและผู้สนับสนุนชาวต่างชาติสามารถบริจาคเงินผ่านองค์กร เพื่อไปสนับสนุนให้ Freedom Bridge องค์กรในไทยที่ให้ความช่วยเหลือและต่อสู้เพื่อนักโทษทางการเมืองที่ต้องเผชิญสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่
ข้อมูลในวันนี้ (4 พ.ย. 2567) ระบุว่า คนไทยอย่างน้อย 41 คน รวมถึงเยาวชน 1 คน ถูกคุมขังจากคดีที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในการแสดงออก Engage Thailand สนับสนุน Freedom Bridge ด้วยการช่วยระดมเงินทุนสำหรับของใช้จำ เป็น อาหาร และเงินฝากประจำสำหรับผู้ต้องขัง และสำหรับดูแลสมาชิกครอบครัวที่เป็นเด็กและที่มี โรคประจำตัว
Engage Thailand ก่อตั้งโดยทนาย
จูน ศิริกาญจน์ ทนายความสิทธิมนุษยชน หนึ่งในผู้ ร่วมก่อตั้งศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ
ญาณิศา วรารักษพงศ์ นักศึกษาและผู้ลี้ภัย คดี ม.112 ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเข้ามาทำงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายสร้างการมีส่วนร่วม Engage Thailand มีคณะกรรมการบริหารนำ โดย
ไทเรล ฮาเบอร์คอร์น เป็นประธาน ไทเรลเป็นศาตราจารย์แห่งอุษาคเนย์ศึกษา University of Wisconsin-Madison และเป็นผู้ประสานงานให้กับ Justice in Southeast Asia Lab (JSEALab) ส่วนกรรมการอื่นๆ เป็นนักต่อสู้ เพื่อความเป็นธรรมทางสังคมที่มากประสบการณ์และเคยดำรงตำแหน่งในองค์กรระหว่างประเทศ เช่น คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists) โดย สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับทีมงาน Engage Thailand ได้ที่ engagethailand.org/about-us.
สำหรับงานเปิดตัว เริ่มต้นด้วยปาฐกถาหัวข้อ “
เสียงของผู้ต้องขัง: เปิดเผยความอยุติธรรมใน ประเทศไทย” โดย
ไทเรล ฮาเบอร์คอร์น ตามด้วยการนำเสนอหัวข้อ “
Engage Thailand คืออะไร?” โดยทนาย
จูน ศิริกาญจน์ หลังจากการนำเสนอทนายจูนยังนำวงสนทนาหัวข้อ “
การ Engage กับประชาธิปไตยและนักโทษทางการเมืองไทย” ร่วมกับ
ญาณิศา วรารักษพงศ์,
ปฐมพร แก้วหนู เจ้าหน้าที่โครงการ Freedom Bridge และครอบครัวนักโทษทางการเมืองทนายอานนท์ นำภา และ
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการบริหาร iLaw
ผู้สนับสนุนสามารถติดตาม Engage Thailand ผ่านอินสตาแกรม @engagethailand เลือกรับจดหมายข่าวขององค์กรผ่านอีเมล และสามารถบริจาคเงินหรือเลือกบริจาคประจำทุกเดือนแบบอัตโนมัติได้ทาง engagethailand.org. ผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาสามารถนำ เงินบริจาคมาลดหย่อนภาษีได้ตาม มาตรา 170 ตามประมวลกฎหมายภาษีอากร สำ หรับข้อมูลอื่นๆ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ engagethailand.org
ชี้การศึกษาไทยถดถอยหนัก หนุน’4พรรค’ ดันร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่
https://www.matichon.co.th/education/news_4879715
ชี้การศึกษาไทยถดถอยหนัก หนุน’4พรรค’ ดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่
นาย
สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า ขณะนี้ 4 พรรคการเมืองเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทุกพรรคการเมืองเห็นตรงกันว่า ควรต้องมีพ.ร.บ.การศึกษาฯฉบับใหม่ เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโดยเฉพาะวิกฤตด้านคุณภาพการศึกษา รวมไปถึงการจัดสรรงบประมาณเรื่องงบประมาณต่างๆ อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบ ขณะนี้มีร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ อยู่หลายฉบับแต่ละฉบับมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกัน และจุดที่แตกต่าง ดังนั้นจึงควรนำข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละฉบับมาหาจุดร่วมและบูรณาการเพื่อให้เป็นกฎหมายฉบับที่สมบูรณ์
“
ถ้าเห็นจุดร่วม ข้อดี ข้อเสีย ก็จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ว่าพ.ร.บ.การศึกษาฯฉบับใหม่ควรจะออกมาในรูปแบบไหน โดยประเด็นที่ต้องระมัดระวังในการปรับแก้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ คือ รวมศูนย์การบริหารจัดการ หรือ ซิงเกิลคอมมานด์ การปรับโครงสร้างและการบริหารงานบุคคล เพราะอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของกลุ่มหรือองค์กรที่เสียประโยชน์ ทำให้ฝ่ายการเมืองกลัวเสียคะแนนนิยม เรื่องเหล่านี้ จะส่งผลให้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นฝ่ายการเมืองต้องมีความกล้าหาญ ตัดสินใจรับฟังทุกฝ่าย เพื่อให้สามารถผลักดันร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯใหม่ให้สำเร็จ ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง อยากให้มองเป็นปัญหาของประเทศ และเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่ออนาคตของเยาวชนไทย” นาย
สมพงษ์ กล่าว
นาย
สมพงษ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาการศึกษาของ ต้องเริ่มจากผลักดันร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ เพื่อนำไปสู่การจัดทำกฎหมายลูกแก้ปัญหาเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง การบริหารงานบุคคล ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมผลักดัน จากสภาการศึกษา(สกศ.)เป็นผู้ที่มีหน้าที่หลักในการดำเนินการ ซึ่งจะเน้นในส่วนของงานเชิงวิชาการ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ขอให้กำลังใจและอยากให้นักการเมืองร่วมกันทำพ.ร.บ.การศึกษาฯ ด้วยความเห็นพ้องต้องกันและสร้างออกมาให้ดีที่สุด เพราะในปัจจุบันการศึกษาของไทยถดถอยลงมาอย่างมากจนเกือบถึงจุดที่ไม่สามารถทนได้แล้ว
คนกรุงต้องระวัง เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน เริ่มกระทบสุขภาพ 3 พื้นที่
https://www.thairath.co.th/news/society/2823761
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร อัปเดตค่าฝุ่น กทม. เช้านี้ พบเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม 3 พื้นที่ คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
วันที่ 5 พ.ย. 67 มีรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดได้ 17-43.1 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 3 พื้นที่ คือ
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : 43.1 มคก./ลบ.ม.
2. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : 38.4 มคก./ลบ.ม.
3. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : 37.9 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร : ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง
ข้อแนะนำสุขภาพ: คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM 2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
ในช่วงวันที่ 5-13 พ.ย. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน" ขณะที่ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวมีลักษณะเปิดสลับปิด อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสเกิดฝนตก ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองทรงตัว และคาดการณ์วันนี้ เมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สามารถสอบถามข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง
- แอปพลิเคชัน AirBKK
- www.airbkk.com
- FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
- FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
- FB: กรุงเทพมหานคร
- แอปพลิเคชัน AirBKK
- LINE ALERT.
JJNY :เปิดตัว 'Engage Thailand'│ชี้การศึกษาไทยถดถอยหนัก│เช้านี้ PM 2.5 เกิน 3 พื้นที่│หิมะตกหนักภาคตอ.เฉียงเหนือจีน
https://prachatai.com/journal/2024/11/111290
ทนายจูนเปิดตัวองค์กรสาธารณะกุศลไทยในสหรัฐอเมริกา "Engage Thailand" มุ่งเสริมสร้างประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนไทยในระดับนานาชาติ
แคมเปญแรกระดมทุนคนไทยในต่างแดนและต่างชาติ นำเงินมาสนับสนุนองค์กรในไทยที่ให้ความช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง
4 พ.ย. 2567 ทนายจูน ศิริกาญจน์ เจริญศิริ เปิดตัว Engage Thailand องค์กรสาธารณะกุศลไทยในสหรัฐอเมริกา ผ่านช่องทางออนไลน์ Engage Thailand จดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐอเมริกา และก่อตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนไทยจากต่างประเทศ
Engage Thailand มีเป้าหมายงาน 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาความรับรู้เกี่ยวกับประชาธิปไตยไทยในระดับนานาชาติ, การระดมแรงสนับสนุนคนไทยในต่างแดน และการสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรนานาชาติเพื่อหาทรัพยากรส่งต่อให้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในไทย
ทนายจูนผู้ก่อตั้งเน้นย้ำถึงศักยภาพของคนไทยในต่าง แดน หลายคนย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่ก็ยังต้องการสนับสนุนและช่วยเหลือคนในประเทศไทย แคมเปญแรกของ Engage Thailand จึงเปิดโอกาสให้คนไทยในต่างแดนและผู้สนับสนุนชาวต่างชาติสามารถบริจาคเงินผ่านองค์กร เพื่อไปสนับสนุนให้ Freedom Bridge องค์กรในไทยที่ให้ความช่วยเหลือและต่อสู้เพื่อนักโทษทางการเมืองที่ต้องเผชิญสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่
ข้อมูลในวันนี้ (4 พ.ย. 2567) ระบุว่า คนไทยอย่างน้อย 41 คน รวมถึงเยาวชน 1 คน ถูกคุมขังจากคดีที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในการแสดงออก Engage Thailand สนับสนุน Freedom Bridge ด้วยการช่วยระดมเงินทุนสำหรับของใช้จำ เป็น อาหาร และเงินฝากประจำสำหรับผู้ต้องขัง และสำหรับดูแลสมาชิกครอบครัวที่เป็นเด็กและที่มี โรคประจำตัว
Engage Thailand ก่อตั้งโดยทนายจูน ศิริกาญจน์ ทนายความสิทธิมนุษยชน หนึ่งในผู้ ร่วมก่อตั้งศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และญาณิศา วรารักษพงศ์ นักศึกษาและผู้ลี้ภัย คดี ม.112 ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเข้ามาทำงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายสร้างการมีส่วนร่วม Engage Thailand มีคณะกรรมการบริหารนำ โดยไทเรล ฮาเบอร์คอร์น เป็นประธาน ไทเรลเป็นศาตราจารย์แห่งอุษาคเนย์ศึกษา University of Wisconsin-Madison และเป็นผู้ประสานงานให้กับ Justice in Southeast Asia Lab (JSEALab) ส่วนกรรมการอื่นๆ เป็นนักต่อสู้ เพื่อความเป็นธรรมทางสังคมที่มากประสบการณ์และเคยดำรงตำแหน่งในองค์กรระหว่างประเทศ เช่น คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists) โดย สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับทีมงาน Engage Thailand ได้ที่ engagethailand.org/about-us.
สำหรับงานเปิดตัว เริ่มต้นด้วยปาฐกถาหัวข้อ “เสียงของผู้ต้องขัง: เปิดเผยความอยุติธรรมใน ประเทศไทย” โดย ไทเรล ฮาเบอร์คอร์น ตามด้วยการนำเสนอหัวข้อ “Engage Thailand คืออะไร?” โดยทนายจูน ศิริกาญจน์ หลังจากการนำเสนอทนายจูนยังนำวงสนทนาหัวข้อ “การ Engage กับประชาธิปไตยและนักโทษทางการเมืองไทย” ร่วมกับญาณิศา วรารักษพงศ์, ปฐมพร แก้วหนู เจ้าหน้าที่โครงการ Freedom Bridge และครอบครัวนักโทษทางการเมืองทนายอานนท์ นำภา และยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการบริหาร iLaw
ผู้สนับสนุนสามารถติดตาม Engage Thailand ผ่านอินสตาแกรม @engagethailand เลือกรับจดหมายข่าวขององค์กรผ่านอีเมล และสามารถบริจาคเงินหรือเลือกบริจาคประจำทุกเดือนแบบอัตโนมัติได้ทาง engagethailand.org. ผู้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาสามารถนำ เงินบริจาคมาลดหย่อนภาษีได้ตาม มาตรา 170 ตามประมวลกฎหมายภาษีอากร สำ หรับข้อมูลอื่นๆ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ engagethailand.org
ชี้การศึกษาไทยถดถอยหนัก หนุน’4พรรค’ ดันร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่
https://www.matichon.co.th/education/news_4879715
ชี้การศึกษาไทยถดถอยหนัก หนุน’4พรรค’ ดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่
นายสมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า ขณะนี้ 4 พรรคการเมืองเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทุกพรรคการเมืองเห็นตรงกันว่า ควรต้องมีพ.ร.บ.การศึกษาฯฉบับใหม่ เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโดยเฉพาะวิกฤตด้านคุณภาพการศึกษา รวมไปถึงการจัดสรรงบประมาณเรื่องงบประมาณต่างๆ อย่างไรก็ตามเท่าที่ทราบ ขณะนี้มีร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ อยู่หลายฉบับแต่ละฉบับมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกัน และจุดที่แตกต่าง ดังนั้นจึงควรนำข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละฉบับมาหาจุดร่วมและบูรณาการเพื่อให้เป็นกฎหมายฉบับที่สมบูรณ์
“ถ้าเห็นจุดร่วม ข้อดี ข้อเสีย ก็จะเห็นภาพชัดเจนขึ้น ว่าพ.ร.บ.การศึกษาฯฉบับใหม่ควรจะออกมาในรูปแบบไหน โดยประเด็นที่ต้องระมัดระวังในการปรับแก้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ คือ รวมศูนย์การบริหารจัดการ หรือ ซิงเกิลคอมมานด์ การปรับโครงสร้างและการบริหารงานบุคคล เพราะอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของกลุ่มหรือองค์กรที่เสียประโยชน์ ทำให้ฝ่ายการเมืองกลัวเสียคะแนนนิยม เรื่องเหล่านี้ จะส่งผลให้ร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นฝ่ายการเมืองต้องมีความกล้าหาญ ตัดสินใจรับฟังทุกฝ่าย เพื่อให้สามารถผลักดันร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯใหม่ให้สำเร็จ ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง อยากให้มองเป็นปัญหาของประเทศ และเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่ออนาคตของเยาวชนไทย” นายสมพงษ์ กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาการศึกษาของ ต้องเริ่มจากผลักดันร่างพ.ร.บ.การศึกษาฯ เพื่อนำไปสู่การจัดทำกฎหมายลูกแก้ปัญหาเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง การบริหารงานบุคคล ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมผลักดัน จากสภาการศึกษา(สกศ.)เป็นผู้ที่มีหน้าที่หลักในการดำเนินการ ซึ่งจะเน้นในส่วนของงานเชิงวิชาการ ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ขอให้กำลังใจและอยากให้นักการเมืองร่วมกันทำพ.ร.บ.การศึกษาฯ ด้วยความเห็นพ้องต้องกันและสร้างออกมาให้ดีที่สุด เพราะในปัจจุบันการศึกษาของไทยถดถอยลงมาอย่างมากจนเกือบถึงจุดที่ไม่สามารถทนได้แล้ว
คนกรุงต้องระวัง เช้านี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน เริ่มกระทบสุขภาพ 3 พื้นที่
https://www.thairath.co.th/news/society/2823761
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร อัปเดตค่าฝุ่น กทม. เช้านี้ พบเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม 3 พื้นที่ คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
วันที่ 5 พ.ย. 67 มีรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น PM 2.5 ตรวจวัดได้ 17-43.1 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 3 พื้นที่ คือ
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : 43.1 มคก./ลบ.ม.
2. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : 38.4 มคก./ลบ.ม.
3. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : 37.9 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร : ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง
ข้อแนะนำสุขภาพ: คุณภาพอากาศระดับสีส้ม: เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่น PM 2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยา)
ในช่วงวันที่ 5-13 พ.ย. 67 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน" ขณะที่ชั้นบรรยากาศใกล้ผิวมีลักษณะเปิดสลับปิด อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสเกิดฝนตก ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองทรงตัว และคาดการณ์วันนี้ เมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สามารถสอบถามข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านทาง
- แอปพลิเคชัน AirBKK
- www.airbkk.com
- FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
- FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
- FB: กรุงเทพมหานคร
- แอปพลิเคชัน AirBKK
- LINE ALERT.